หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4/66 หรือช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ ด้วยนโยบาย "ฟรีวีซ่า" (Free Visa) แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวอินเดีย เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศนี้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ CEO VERANDA เปิดเผยว่า เรื่องนี้จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่จะได้รับประโยชน์จากแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดังกล่าว ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และ สามารถประกาศใช้ได้เลยทันที
อีกทั้ง ข้อเสนอของผู้ประกอบการสายการบิน ที่ต้องการให้รัฐบาลการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นเส้นทางบินในประเทศให้อยู่ในอัตรา 0.20 บาทต่อลิตร เป็นมาตรการช่วยเหลือสายการบินในช่วงโควิด หลังกลับมาเก็บอัตราเดิมที่ 4.726 บาทต่อลิตรตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 ที่ผ่านมา
นายวีรวัฒน์ ได้มองว่า ข้อเสนอนี้จะช่วยผลักดัน และกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่นในปีนี้มากขึ้นอีกด้วย
หวังนักท่องเที่ยวจีนมาตามเป้า
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงแรมโซ แบงคอก (SO Bangkok) ได้รับประโยชน์จากการนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงหลังไตรมาส 2 โดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นใกล้เคียงนักท่องเที่ยวเกาหลีซึ่งครองสัดส่วนอันดับ 1 อยู่ที่ 15% จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนน้อยกว่า 5 %
อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในครึ่งปีแรก 66 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพียง 1.5 ล้านคนเท่านั้น แม้ว่าททท.ได้ตั้งเป้าไว้ 5.3 ล้านคน ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการที่รัฐบาลของประเทศจีนมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจ หรือขั้นตอนการขอวีซ่าที่ค่อนข้างนาน รวมถึงค่าธรรมเนียมวีซ่าราว 2,000 บาทต่อคน
“ เชื่อว่าหากประเทศไทยเปิดให้ฟรีวีซ่า (Free Visa) แก่นักท่องเที่ยวจีนก็จะเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาไทยเป็นเป้าหมายแรก ส่งผลดีต่อ Veranda Resort Pattaya และ Veranda High Resort Chiang Mai ซึ่งมีชาวจีนเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่ง” นายวีรวัฒน์ กล่าว
ส่องโรงแรมในเครือ VERANDA
ปัจจุบัน บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VERANDA นับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนแบบ Exclusive มีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่
- วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน ชะอำ
- วีรันดา ไฮ รีสอร์ท เชียงใหม่
- โซ แบงคอก สาทร
- วีรันดา รีสอร์ท พัทยา นาจอมเทียน
- เวอโซ หัวหิน
- วีรันดา คอลเลกชัน สมุย
รวมถึงยังมีธุรกิจพัฒนาอสังหา ที่เป็น Branded Residence ติดกับรีสอร์ทใน อีก 3 แห่ง ได้แก่
- วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่
- วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา
- วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน
และยังมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่พัฒนาและเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
เปิดโครงการใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติไฮเอนด์
มาตรการดังกล่าว ยังเป็นผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ตที่มุ่งเน้นตลาดต่างชาติเป็นหลัก ซึ่งภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต เป็นที่ต้องการสำหรับชาวต่างชาติอย่างมาก
VERANDA มีแผนเปิดตัว โครงการใหม่ "Veranda Luxury Villas & Suite" บ้านพักหรู บนพื้นที่ 7 ไร่ ใกล้แหลมพันวา ประกอบด้วย และ Luxury Suites จำนวน 12 ยูนิต และ Luxury Villas จำนวน 6 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมประมาณ 900 ล้านบาท ในเร็วๆ นี้
โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ติดกับ 'Veranda Resort Phuket Autograph Collection' ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1.3 พันล้านบาท เริ่มก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 และคาดว่าจะเสร็จไตรมาส 4/67 และคาดว่า การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเต็มรูปแบบ ซึ่งโครงการจะสามารถดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการมีบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตได้อย่างดี