
ราคาทองคำที่ช่วงนี้เคลื่อนไหวอยู่เหนือ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ จะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป ต้องจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ที่จะเป็นตัวชี้วัดราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังของเดือนสุดท้ายของปีนี้
อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 ว่า ราคาทองยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง หลังขึ้นไปแตะระดับ 4,353 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้มีแรงขายทำกำไรออกมา แต่ภาพรวมยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยการอ่อนตัวลงถูกมองว่าเป็นเพียงการพักฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงถือครองทองคำ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังไม่มีความชัดเจน หลังเจ้าหน้าที่เฟดระบุว่า แรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนอาจบิดเบือนจากผลกระทบการปิดหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ตลาดยังไม่ให้น้ำหนักเต็มที่ต่อสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ขณะเดียวกัน ปัจจัยด้านความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นแรงพยุงสำหรับทองคำ หลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย–ยูเครนไม่มีความคืบหน้า และทางสหรัฐฯได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อกระบวนการดังกล่าว
นอกจากนี้ ปัญหาทางการเมืองของสหรัฐฯส่งผลต่อมุมมองนโยบายการเงินในอนาคต จากการพูดถึงตัวเต็งประธานเฟดคนใหม่ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตลาดประเมินว่าอาจสนับสนุนนโยบายดอกเบี้ยต่ำมากขึ้น ภาพรวมจึงยังเอื้อต่อการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ราคาจะผันผวนตามกระแสข่าวในระยะสั้น
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองคำต้องติดตามในสัปดาห์นี้ (15-19 ธันวาคม 2568) คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
ทั้งนี้ หากตัวเลขออกมาตามคาดที่ราว 50,000 ตำแหน่ง หรือ อ่อนกว่าคาด จะสะท้อนภาพตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแรง และเพิ่มแรงกดดันให้เฟดต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากตัวเลข Nonfarm ยังแข็งแกร่ง ค่าแรงและการจ้างงานไม่ชะลอตัวตามที่ตลาดคาด อาจกดดันให้ทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทองคำ ฝ่ายวิจัย GCAP GOLD แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อช่วงราคาย่อตัว และทยอยขายเมื่อราคาปรับขึ้น” โดยแนวรับสำคัญ อยู่ที่ 4,250 และ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน 4,353 ดอลลาร์ได้จะเปิดทางทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 4,380 ดอลลาร์ และมีโอกาสเร่งตัวขึ้นสู่โซน 4,450 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำในประเทศ แนวรับสำหรับเข้าซื้ออยู่ที่ 63,500 บาท และ 62,900 บาท ขณะที่แนวต้านสำหรับแบ่งขายทำกำไรอยู่ในช่วง 65,300 บาท และ 66,000 บาท