Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดให้คนจีนสแกนจ่ายในไทย อำนวยความสะดวก นทท. เพิ่มโอกาสร้านค้ารายย่อย
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เปิดให้คนจีนสแกนจ่ายในไทย อำนวยความสะดวก นทท. เพิ่มโอกาสร้านค้ารายย่อย

31 ต.ค. 68
14:12 น.
แชร์

ประเทศจีนเข้าสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’ อย่างเต็มรูปแบบมาแล้วหลายปี คนจีนใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือกันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ร้านค้า-ร้านอาหารไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กในจีนรองรับการชำระเงินแบบดิจิทัลเกือบทั้งหมด มีการชำระเงินด้วยเงินสดเป็นส่วนน้อยเท่านั้น 

เมื่อในประเทศเป็นเช่นนั้น ชาวจีนจึงคุ้นชินกับการใช้จ่ายผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) เวลาออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศ ชาวจีนก็คาดหวังความสะดวกสบายในการจ่ายเงินเหมือนในประเทศของตนเอง จึงมีความพยายามของผู้ให้บริการชำระเงินในจีนกับประเทศต่างๆ ที่จะเปิดการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างกัน รวมถึงกับไทย 

สำหรับประเทศไทย ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศการเปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างไทยและจีนแล้ว ซึ่งจะอำนวยความสะดวกการใช้จ่ายในประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวของทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งจีนที่มาเที่ยวไทย

ผู้ใช้บริการจากจีนสามารถใช้แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการชำระเงิน อาลีเพย์ (Alipay) ยูเนียนเพย์ (UnionPay) และ วีแชทเพย์ (WeChat Pay หรือ Weixin Pay) ชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าในไทยผ่านการสแกน Thai QR code ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป 

ธปท.ชี้อำนวยความสะดวกท่องเที่ยว-ธุรกิจ 

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การเปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินรายย่อยแบบทันที (instant retail payment system) ระหว่างธนาคารพาณิชย์ไทยและผู้ให้บริการชำระเงินของจีน เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ 

ธปท.บอกว่า บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code นี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ซึ่งปี 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและจีนระหว่างกันสูงถึง 8.8 ล้านคน

ในระยะแรกจะมีการให้บริการโดยธนาคารไทย 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 

ในระยะต่อไปจะมีธนาคารเข้าร่วมให้บริการเพิ่มเติมอีก ซึ่งขณะนี้มี 4 ธนาคารที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และธนาคารธหารไทยธนชาติ 

ทั้งนี้ โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองประเทศ ได้แก่ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (National ITMX) ของไทย กับผู้ให้บริการชำระเงินของจีน 3 ราย รวมทั้งผู้ให้บริการชำระดุลระหว่างประเทศ (settlement bank) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย 

ธปท.บอกอีกว่า ตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินรายย่อยแบบทันที ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินของประชาชน พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการค้าแก่ผู้ประกอบการด้วยระบบการชำระเงินผ่าน QR Code ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และต้นทุนที่เหมาะสม 

นอกจากนี้ ปัจจุบัน ธปท.มีการขยายความร่วมมือการชำระเงินผ่าน QR Code กับ 9 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท.ระบุว่า จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินข้ามพรมแดนระดับรายย่อย สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค และการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลต่อไป 

หวังช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเพิ่ม

นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ภาคการท่องเที่ยวของไทยพึ่งพาได้มากในช่วงหลายปีก่อนเกิดโควิด-19 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมากถึง 11 ล้านคน ในปี 2562 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนเกิดโควิด-19 

แต่เมื่อทั้งสองประเทศเปิดประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยกลับยังไม่ฟื้นกลับไปใกล้เคียงระดับเดิม และยิ่งแย่ลงในปี 2568 นี้ ด้วยปัจจัยภายในประเทศของจีนที่เศรษฐกิจชะลอตัว บวกกับปัจจัยของไทยที่สูญเสียความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยไป ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยน้อยลง 

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยแล้ว 3,417,326 คน ลดลงมากถึง 34.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 

ดังนั้น หลายฝ่ายจึงหวังว่าการอำนวยความสะดวกสบายในการชำระเงินผ่าน QR Code จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวในไทยของนักท่องเที่ยวจีนให้ดีขึ้น และจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยได้มากขึ้น 

เชื่อเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการรายย่อย

ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นตรงกันว่า การเปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างไทยและจีน เป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสำหรับร้านค้ารายเล็กรายย่อยที่จะมีโอกาสมากขึ้นจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไทย  

ฉัตรชัย ดุษฎีโหนด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (National ITMX) ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการระบบ PromptPay กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ธุรกิจรายย่อยไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินของไทยสู่เครือข่ายการเงินระดับโลก

“เราเชื่อมั่นว่าการเชื่อมต่อระบบ QR Payment ระหว่างไทยและจีนครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว” 

เอ็ดเวิร์ด ยู ผู้จัดการทั่วไป Alipay+ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และเอเชียใต้กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารแห่งประเทศไทยในการลดอุปสรรคระหว่างผู้บริโภคทั่วโลกและผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ Alipay ยึดถือ เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน และความร่วมมือนี้จะช่วยปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ในก้าวต่อไปของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ 

นารีรัชย์ อริยประยูร ผู้บริหารสายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า บทบาทของกรุงไทยในครั้งนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีนในการใช้จ่ายในประเทศไทย และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้แก่ร้านค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SME) ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและส่งเสริมให้ภาคการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และคาดว่าการขยายการใช้งานการชำระเงินด้วย QR Code ในครั้งนี้ จะส่งเสริมการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในทั้งสองประเทศ

สุญาณี ภูริปัญญวานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว 5 อันดับแรกที่ชาวจีนนิยมเดินทางมามากที่สุด ทั้งด้านท่องเที่ยวและธุรกิจ ทำให้ปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยถึง 6.7 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อทริปกว่า 50,000 บาท 

“ดังนั้น การนำบริการ Cross-Border QR Payment เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ไม่เพียงตอบโจทย์ชาวจีนที่คุ้นเคยกับสังคมไร้เงินสด แต่ยังเสริมสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวหรือธุรกิจให้แก่ชาวจีน ให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าไทยเข้าถึงลูกค้าชาวจีนมากขึ้นด้วย” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพกล่าว 

แชร์
เปิดให้คนจีนสแกนจ่ายในไทย อำนวยความสะดวก นทท. เพิ่มโอกาสร้านค้ารายย่อย