ท่ามกลางภาวะราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2565 ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมากโดยมีข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจค่าใช้จ่ายครัวเรือนไทยเอาไว้ทุกปี สำหรับในปี 2565 ยังไม่มีตัวเลขออกมา แต่คาดการณ์ได้ว่า จะสูงขึ้นกว่าในปี 2564 แน่นอนเพราะราคาสินค้าหลายรายการปรับตัวสูงขึ้นกว่าในปี 2564 ค่อนข้างมาก
เราลองมาดูข้อมูลล่าสุดของ ปี 2564 กันหน่อยว่าครัวเรือนไทยมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่และถูกแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง รวมไปถึงข้อมูลเปรียบเทียบ ใน 77 จังหวัดของประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับทางเลือกในการวางแผนการใช้ชีวิตของทุกคนได้
ครัวเรือนไทยมีค่าใช้จ่าย 21,616 บาท / เดือน ในปี 2564
ครัวเรือนทั่วประเทศไทยในปี 2564 มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 21,616 บาท ในจำนวนนี้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค มากที่สุด 18,802 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายหมวดอาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ สูงสุดถึง 7,660 บาท รองลงมาเป็น ค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน 4,632 บาท ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ 3,467 บาท ตามลำดับ ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค (เช่น ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกันภัย ซื้อสลากกินแบ่ง/ หวย ดอกเบี้ย เป็นต้น) มีจำนวน 2,814 บาท
ปี 2564 จังหวัดนนทบุรีมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในประเทศ ส่วนแม่ฮ่องสอนน้อยที่สุด
ในจำนวน 21,616 บาท ต่อดือนเป็นตัวเลขเฉลี่ยทั้งประเทศ หากดูรายจังหวัดจะพบว่าในปี 2564 จังหวัดนนทบุรี เป็นจังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการสำรวจในปี 2563 ที่ปทุมธานี เป็นจังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุด เช่นเดียวกับจังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จากเชียงรายในปี 2563 มาเป็น แม่ฮ่องสอน ในปี 2564 เราได้สรุป 10 จังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากที่สุดในประเทศไทยมาให้ดังนี้
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกปี ตามอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับแนวโน้มค่าใช้จ่ายครัวเรือนไทยที่มีการสำรวจกันทุกปี พบว่า เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากดู 10 ปีที่ผ่านมาครัวเรือนไทยเคยมีค่าใช้จ่าย 17,403 บาท ในปี 2554 ขึ้นมาเป็น เป็น 21,616 บาท ในปี 2564 เท่ากับขึ้นมาเกือบ 25% ข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อมีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ยิ่งในปีไหนที่สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ปกติ มีวิกฤติ ก็จะกระทบกับทั้งรายได้ และรายจ่ายของประชาชน เช่นในปี 2565 ที่นอกจากสถานการณ์โควิดแล้ว ยังมีสงครามรัสเซีย ยูเครน มาซ้ำเติมสถานการณ์ให้ราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันปรับตัวสูงขึ้น เงินเฟ้อในบ้านเราระดับ 4-5 % ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีเช่นกัน
ดังนั้นนอกจากความจำเป็นที่เราต้องวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้รอบคอบแล้ว การวางแผนการเงิน ด้านการออมและการลงทุนก็จะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ มูลค่าเงินที่เรามีจะลดน้อยลงจากเงินเฟ้อที่สูงกว่าผลตอบแทนจากการออมนั่นเอง
ที่มาข้อมูล สำนักงานสถิติแห่งชาติ