KXVC ร่วมลงทุนใน 'Landing AI' เปิดตัวเทคโนโลยี Large Vision Model

กสิกร เอกซ์ เวนเจอร์ แคปิทัล (KXVC) ร่วมลงทุนใน ‘Landing AI’ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI ชั้นนำจากซิลิคอนวัลลีย์ ที่นำเทคโนโลยี Large Vision Model (LVM) มาช่วยพัฒนา AI ให้ช่วยประมวลผล สามารถจดจำ เข้าใจ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากการประมวลผลสื่อภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างชาญฉลาด ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องแม่นยำ และตอบสนองต่อข้อมูลภาพที่มองเห็นได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายผนึกกำลังเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถด้านคอมพิวเตอร์วิชั่นเข้าสู่อาเซียน

โดย Landing AI ตระหนักถึงคุณค่าของ AI และการพัฒนาโครงการด้าน AI เสมอ แม้จะมีชุดข้อมูลที่จำกัด ซึ่ง Landing AI ยังเป็นผู้บุกเบิกในด้าน LVM เฉพาะโดเมน ซึ่งเพิ่มความสามารถในการประมวลผลและทำความเข้าใจข้อมูลภาพในวงกว้าง ทำให้เครื่องมือ AI ด้านการมองเห็นที่ซับซ้อนเข้าถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดร. ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director กสิกร เอกซ์ เผยว่า KXVC มีความยินดีที่ได้ร่วมลงทุนในรอบ Series A กับทาง Landing AI เนื่องจากนวัตกรรมของ Landing AI ที่สามารถนำไปใช้งานเพื่อใช้ในการตรวจจับวัตถุ แบ่งส่วนภาพ ช่วยให้องค์กรตอบโจทย์ในการทำงานอย่างรวดเร็ว และจะนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ทาง KX กำลังพัฒนาและใช้งานอยู่

นอกจากนี้ Landing AI ยังมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ เทคโนโลยีการชี้ด้วยภาพ (Visual Prompting) ที่ทำให้การอ่านฉลากรูปภาพได้ง่ายขึ้น ทำให้ลดเวลาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลมากขึ้น ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นของ KXVC ที่จะส่งเสริมและพัฒนาในด้านคอมพิวเตอร์วิชั่นเข้าสู่อาเซียน

ด้าน Mr. Dan Maloney, Chief Operating Officer ของ Landing AI กล่าวว่า Landing AI รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับทาง KXVC เพื่อนำเทคโนโลยี LVM เข้ามาใช้ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปข้างหน้าที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของคอมพิวเตอร์วิชั่นเพื่อเข้าสู่องค์กรได้ง่ายขึ้น

โดยโดเมนของ Landing AI ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมข้อมูลรูปภาพ และดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทางบริษัทยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมมือกับทาง KXVC เพื่อเร่งการพัฒนา AI และสนับสนุนเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้

สำหรับ KXVC เป็นหน่วยด้านการลงทุนของ KASIKORN X ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 บริษัทฯ ได้ระดมทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,690 ล้านบาทสำหรับกองทุนบล็อกเชน เพื่อตั้งเป้าหมายที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Web 3.0 และ AI ระดับโลก และยังได้ตั้งเป้าที่จะเป็นประตูสู่อาเซียนสำหรับสตาร์ทอัพบล็อกเชน และ Web 3.0 ชั้นนำที่ต้องการขยายฐานลูกค้าในภูมิภาค ทั้งนี้การระดมทุนจะมุ่งเป้าไปที่สตาร์ทอัพที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน เอเชียแปซิฟิค ยุโรป และสหรัฐอเมริกา