เงินบาทไทยอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี ทะลุ 38 บาท/ดอลลาร์ จับตาการประชุมดอกเบี้ย กนง. บ่ายวันนี้ นักวิเคราะห์จับตาขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%
ค่าเงินบาทเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 ก.ย. 65) ได้อ่อนค่าไปทะลุระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการอ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี เช่นเดียวกับสถานการณ์ค่าเงินในหลายประเทศ เช่น จีน ซึ่งวันนี้ค่าเงินหยวนของจีนได้อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 14 ปี อ่อนค่าทะลุระดับ 7.2 หยวนต่อดอลลาร์ ในวันนี้เช่นกัน
ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลังสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ทุกฝ่ายจับตาไปที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/65 ในช่วงบ่ายวันนี้ว่า จะมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามตลาดคาดหรือไม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.75% ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า กนง. จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยในวันนี้อีก 0.25%
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มีความเป็นไปได้ที่ผลการประชุม กนง. ในครั้งนี้อาจมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ซึ่งคงจะเป็นอีกจุดสำคัญที่ต้องติดตามในการประชุมครั้งนี้ ทั้งหมดทั้งมวล กนง. คงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบที่ตามมาของการตัดสินใจนั้นๆ
ทางด้านตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้า ปรับตัวลงกว่า 10 จุด หลุดระดับ 1,600 จุด ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ยังปรับลงต่อเนื่อง โดยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ท่ามกลางค่าเงินบาทที่หลุดระดับ 38 บาท/ดอลลาร์
เมื่อเวลา 10.01 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,599.95 จุด ลดลง 10.63 จุด (-0.66%) และล่าสุด เมื่อเวลา 10.13 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,598.40 ลดลง 12.18 จุด (-0.76%)
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมาหลุดระดับ 1,600 จุด เป็นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาค และเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออก โดยมีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ PTT, CPALL , GULF คาดว่าเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับ Sentiment การลงทุนในตลาดเอเชียก็เป็นลบ