Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
NETA วิกฤต? เผยรัฐบาลท้องถิ่นจีนสนับสนุน พร้อมแผนเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

NETA วิกฤต? เผยรัฐบาลท้องถิ่นจีนสนับสนุน พร้อมแผนเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง

28 พ.ค. 68
15:46 น.
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

แม้มีกระแสข่าววิกฤต นายซูน เปาหลง อดีตกรรมการและปัจจุบันยังคงเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยืนยันว่า “ยังคงดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปไหน” แต่คงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำและผลลัพธ์ที่ชัดเจนในอนาคต 

อนาคตของ NETA ในประเทศไทยยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยง และต้องจับตาดูว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่ และผู้บริโภคจะได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการในครั้งนี้ได้อย่างไรบ้างต้องติดตามกันต่อไป


NETA อาการหนัก? บริษัทแม่ค้างหนี้ 4 แสนล้าน
ยอดขา EV ในไทย  ดิ่ง 45.8%

สถานการณ์ความเปราะบางของ NETA ในประเทศไทยเชื่อมโยงโดยตรงกับปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงของบริษัทแม่ โฮซอน ออโต้ ในประเทศจีน ซึ่งมีรายงานหนี้สินสูงถึง 100,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท ปัญหาสภาพคล่องนี้ส่งผลให้ยอดขายของ NETA ในจีนลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2568 ยอดขายลดลงถึง 98% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีข่าวการลดเงินเดือนและการปลดพนักงานต่อเนื่องในบริษัทแม่

ผลกระทบจากวิกฤตของบริษัทแม่ได้สะเทือนถึงการดำเนินงานในไทยอย่างชัดเจน โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า NETA ในไทยลดลง 45.8% เหลือเพียง 6,534 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง การลดลงของยอดขายนี้ยังส่งผลให้โรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ซึ่งรับหน้าที่ประกอบรถยนต์ไฟฟ้า NETA ในไทย เตรียมปลดพนักงานกว่า 400 คน สะท้อนถึงการปรับลดกำลังการผลิตตามอุปสงค์ที่หดตัว

ปัญหาศูนย์บริการ NETA ในประเทศไทย

จากการตรวจสอบของ SPOTLIGHT ในกลุ่มเฟสบุ๊คของผู้ใช้รถ NETA มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน เช่น มีศูนย์บริการที่มีน้อยลง สาเหตุจากดีลเลอร์หลายรายทยอยปิดตัวลง สร้างผลกระทบต่อผู้ใช้รถ NETA เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการรออะไหล่และเงื่อนไขการรับประกัน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ท่ามกลางวิกฤตทางการเงินและธรรมาภิบาลของบริษัทแม่ แม้ว่า NETA จะพยายามแก้ไขด้วยการเปิดศูนย์กระจายอะไหล่ใหม่และให้คำมั่นสัญญาต่างๆ แต่ความท้าทายยังคงอยู่ที่การพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติ และสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาในระยะยาว


"รถแลกหนี้" แคมเปญ "Cut Loss" ของดีลเลอร์

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือรายงานจากดีลเลอร์ NETA ที่ระบุว่า บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้จ่าย "อินเซนทีฟ" ให้กับดีลเลอร์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแทนเงินสด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง การกระทำเช่นนี้บีบให้ดีลเลอร์ที่เหลือต้องเปิดแคมเปญ "Cut Loss" สำหรับ NETA V-II โดยมีการตั้งราคาโปรโมทที่ 399,000 บาท หรือต่ำกว่านั้น เพื่อระบายสต็อกรถยนต์ที่ได้รับมาแทนการชำระหนี้ นี่คือภาพสะท้อนของความกดดันที่เครือข่ายการจัดจำหน่ายกำลังเผชิญ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของแบรนด์ในระยะยาว

กรณีที่นางสาวสรินยา ศรีไทย พนักงานในตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าตนเองอาจถูกหลอกให้เซ็นชื่อเป็นกรรมการบริษัทแต่เพียงผู้เดียวนั้น ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่สะท้อนภาพวิกฤตการณ์ที่ซับซ้อนของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า NETA สัญชาติจีนในประเทศไทย ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของธรรมาภิบาลองค์กรที่น่ากังขา แต่ยังส่งสัญญาณถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในภาพรวม

ปมใหม่น่าสงสัย "กรรมการคนไทยคนเดียว" ?

หัวใจของเรื่องราวนี้อยู่ที่การที่นางสาวสรินยา ซึ่งเป็นพนักงานระดับปฏิบัติการในตำแหน่ง Sale Operation Specialist  กลับพบว่าตนเองมีชื่อเป็นกรรมการผู้เดียวของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเคยมีรายได้สูงถึง 6,321 ล้านบาทในปี 2566 ทั้งที่เธอระบุว่าได้ตกลงกับผู้บริหารชาวจีนว่าจะต้องมีกรรมการอย่างน้อย 2 คน การที่ผู้บริหารชาวจีนหลายรายได้ถอนตัวออกจากตำแหน่งกรรมการ โดยล่าสุดคือนายซูน เปาหลง ในเดือนพฤษภาคม 2568 (แม้จะยังคงเป็นผู้จัดการทั่วไป) ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการนี้มีเจตนาใด และเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบทั้งหมดให้แก่พนักงานชาวไทยหรือไม่

การแจ้งความของนางสาวสรินยา ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องสิทธิของตนเอง แต่ยังเป็นการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการและงบการเงินที่ผันผวน

SPOTLIGHT ค้นข้อมูลจาก creden data ระบุผลการดำเนินงานของ เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงแรก โดยในปี 2565 มีรายได้ 1,466 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 80.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 แม้รายได้จะพุ่งสูงถึง 6,321 ล้านบาท แต่บริษัทกลับประสบภาวะขาดทุนสุทธิถึง 1,808 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายที่สูงกว่ารายได้ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีขาดทุนสะสมติดลบ 1,808 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 1,672 ล้านบาท

การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 ที่มีการเปลี่ยนกรรมการถึง 2 ครั้ง และล่าสุดคือนางสาวสรินยา ศรีไทย เข้ามาแทนที่นายซูน เปาหลง ยิ่งตอกย้ำถึงความไม่มั่นคงและธรรมาภิบาลภายในองค์กร


แม้ว่า โฮซอน ออโต้ และ เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จะออกมาชี้แจงว่าข่าวลือการล้มละลายไม่เป็นความจริง และบริษัทแม่กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นจีน พร้อมแผนการเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง และการเตรียมประกอบ Neta X ในไทยปี 2025 แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทั้งการแจ้งความของพนักงาน การปิดตัวของดีลเลอร์ และการขายรถแบบขาดทุน ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่อาจมองข้ามได้

นายซูน เปาหลง อดีตกรรมการและปัจจุบันยังคงเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด

แม้มีกระแสข่าววิกฤต นายซูน เปาหลง อดีตกรรมการและปัจจุบันยังคงเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยืนยันว่า “ยังคงดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปไหน” แต่คงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำและผลลัพธ์ที่ชัดเจนในอนาคต 

อนาคตของ NETA ในประเทศไทยยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยง และต้องจับตาดูว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่ และผู้บริโภคจะได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการในครั้งนี้ได้อย่างไรบ้างต้องติดตามกันต่อไป


แชร์
NETA วิกฤต? เผยรัฐบาลท้องถิ่นจีนสนับสนุน พร้อมแผนเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง