จับตาเฮอริเคนเมลิสซา พายุรุนแรงสุดปีนี้ มุ่งหน้าจาเมกา-คิวบา-บาฮามาส
เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พายุชื่อเมลิสซาเพิ่มกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนระดับ 5 อาจทำให้เกิดลมแรงและฝนกระหน่ำทางตอนเหนือของคาบสมุทรแคริเบียน รัฐบาลจาเมกาสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมกรุงคิงส์ตัน เมืองหลวงของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลจาเมกาสั่งอพยพ ขอประชาชนจริงจัง
รัฐบาลจาเมกาขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหาที่หลบภัย ขณะที่เฮอริเคนเมลิสซาเพิ่มกำลังขึ้นตามมาตราแซฟเฟอร์–ซิมป์สันสำหรับจัดระดับความรุนแรงของพายุเฮอริเคนอย่างรวดเร็ว
รัฐบาลยังแจ้งว่า สนามบินนานาชาติจาเมกาปิดทำการแล้ว และศูนย์พักพิงกว่า 881 แห่งเริ่มเปิดทำการ โดยเดสมอนด์ แมคเคนซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการปกครองท้องถิ่นกล่าวถึงความเสี่ยงของจาเมกาเมื่อเฮอริเคนลูกนี้มาถึงว่า
“ชุมชนหลายแห่งจะไม่รอดพ้นจากน้ำท่วม กรุงคิงส์ตันอยู่ในพื้นที่ต่ำมาก และไม่มีชุมชนในคิงส์ตันใดมีภูมิคุ้มกันเลย”
ด้านแอนดรูว์ โฮลเนส นายกรัฐมนตรีจาเมกาสั่งอพยพที่เมืองพอร์ตรอยัล ในกรุงคิงส์ตัน และพื้นที่เปราะบางอีก 6 พื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงเมืองโอลด์ฮาร์เบอร์เบย์
“ผมขอให้ชาวจาเมกาจริงจังกับภัยธรรมชาติครั้งนี้ด้วย ทำทุกทางเพื่อปกป้องตัวเอง”
ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่า สถานการณ์เริ่มแย่ลงเมื่อราว 14.30 น. ตามเวลาไทย
เฮอริเคนเมลิสซา
ตามข้อมูลของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHC) เช้าวันอังคารนี้ (ช่วงบ่ายตามเวลาไทย) เฮอริเคนเมลิสซาเคลื่อนที่ด้วยพลังลมคงที่ 280 กิโลเมตร/ชม. และเคลื่อนที่ไปทางเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีศูนย์กลางห่างจากกรุงคิงส์ตันไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 240 กิโลเมตร
คาดว่าพายุจะเคลื่อนถึงจาเมกาวันอังคารนี้ และถึงทางตะวันออกเฉียงใต้ของคิวบาในเช้าวันพุธ ด้วยสภาพ “พายุเฮอริเคนรุนแรงระดับอันตรายอย่างยิ่ง” และจะยังคงมีกำลังแรงระดับเฮอริเคนอยู่ ก่อนจะเคลื่อนผ่านหมู่เกาะบาฮามาสตอนตะวันออกเฉียงใต้ในวันพุธเช่นกัน
NHC ยังระบุอีกว่า การมีเฮอริเคนลูกนี้มีกำลังลมแรงและมีความกดอากาศต่ำบริเวณศูนย์กลาง ส่งผลทำให้ “เมลิสซา” กลายเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในปีนี้ และสำนักข่าว CBS ระบุว่า ด้วยความแรงในขณะนี้ พายุลูกนี้จะเป็นพายุลูกที่รุนแรงที่สุด ซึ่งจะขึ้นฝั่งจาเมกานับตั้งแต่ปี 1851
ไมเคิล แบรนเนน ผู้อำนวยการ NHC เตือนประชาชนอย่าออกไปในที่แจ้ง
“อย่าออกไปนอกบ้านขณะที่มีภัยอันตรายถึงชีวิตคือ น้ำท่วมฉับพลัน และคาดว่าจะมีดินถล่มหลายพื้นที่วันอังคารนี้ [...] อย่าออกนอกบ้านในช่วงที่ดูเหมือนพายุเงียบสงบแล้วเพราะนั่นคือช่วงที่ตาพายุกำลังเคลื่อนผ่านพื้นที่ที่คุณอยู่ ความเร็วเมลิสซาจะเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นตาพายุจะเคลื่อนผ่านเกาะไปอย่างรวดเร็ว”
รองผู้อำนวยการ NHC เจมี โรม คาดการณ์ว่า อีก 4 วันข้างหน้า จาเมกาอาจต้องรองรับน้ำฝนกว่า 100 เซนติเมตร
“เป็นไปได้ว่าจะมีน้ำฝนมหาศาล การเคลื่อนไหวช้าจะยิ่งสร้างหายนะให้จาเมกา”
ดานา มอร์ริส ดิกซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของจาเมกาเตือนว่า ผลที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายมาก เนื่องจากจาเมการับน้ำฝนมามากแล้วตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
“ฝนตกมาตลอดเดือนตุลาคม พื้นดินเลยอิ่มตัวเต็มที่แล้ว การต้องรองรับน้ำฝนมากอีกขนาดนั้น น้ำต้องท่วมแน่ ๆ น้ำท่วมหนักและดินถล่มในพื้นที่เทือกเขา”
ผลกระทบเฮอริเคนเริ่มแล้ว
ตามรายงานของ NHC เมื่อเวลา 23.00 น. วันจันทร์ตามเวลามาตรฐานตะวันออก หรือราว 10.00 น. เวลาไทย จาเมกาเริ่มเผชิญกับสภาพอากาศแบบพายุโซนร้อนแล้ว และคาดว่า จะมีลมพายุเฮอริเคนที่รุนแรงถึงขั้นทำลายล้างและเป็นอันตรายต่อชีวิตวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (เวลาจาเมกาช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง)
กระทรวงสุขภาพและสุขภาวะจาเมการายงานการเสียชีวิตจากพายุแล้ว เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักข่าว AP รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 7 คน 3 คนในจาเมกา และ 4 คนในสาธารณรัฐโดมินิกันและเฮติ ทั้งยังมีคนได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน มีผู้สูญหาย 1 คนในสาธารณรัฐโดมินิกัน
ในเฮติ มีรายงานระดับน้ำในแม่น้ำเริ่มเพิ่มสูงขึ้น น้ำท่วม และสะพานขาด รอนัลด์ เดลิซ ผู้อำนวยการกรมป้องกันพลเรือนของเฮติกล่าวว่า ความน่ากังวลของเฮอริเคนเมลิสซาคือลักษณะการเคลื่อนตัว
เจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายอาหาร แต่ชาวบ้านยังคงกังวลการออกจากบ้าน พายุได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนกว่า 200 หลัง และส่งผลกระทบต่อคนครึ่งล้านในเฮติ พัดถล่มถอนรากต้นไม้ และหักไฟจราจรล้ม มีดินถล่มขนาดเล็ก และชุมชนมากกว่า 20 ชุมชนถูกตัดขาดเพราะน้ำท่วม
ที่มา: Time, ABC, BBC, The Guardian
