Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
โลกร้อนเร่งฝนเฮอริเคน "เมลิสซา" ถล่มจาเมกา ฝนสะสมอาจแตะ 60 ซม.
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

โลกร้อนเร่งฝนเฮอริเคน "เมลิสซา" ถล่มจาเมกา ฝนสะสมอาจแตะ 60 ซม.

29 ต.ค. 68
14:53 น.
แชร์

เฮอริเคน “เมลิซสา” พายุกำลังแรงในทะเลแคริบเบียนถล่มจาเมกา ทำให้เกิดน้ำท่วม-ดินถล่ม กำลังมุ่งหน้าสู่คิวบา หน่วยงานเฮอริเคนชี้ อาจเพิ่มกำลังขึ้นอีกหลังลดระดับลงจาก 5 เป็น 3 ก่อนเพิ่มกำลังเป็น 4 อีกครั้ง

ก่อนเฮอริเคนถึงจาเมกา

ด้วยกำลังลมสูงสุด 282 กิโลเมตร/ชม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHC) ประกาศให้เฮอริเคน “เมลิสซา” ระดับ 5 เป็น “พายุกำลังแรงที่สุดปีนี้” ประธานาธิบดีเตือนผลกระทบร้ายแรง อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม และลมแรง แต่ประชาชนหลายคนยังยืนยันจะอยู่ในพื้นที่

แม้แต่ก่อนที่เฮอริเคนจะเข้าเทียบชายฝั่งจาเมกา ก็ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย คือ 3 คนในจาเมกาจากอิทธิพลของพายุ และ 4 คนในโดมินิกันและเฮติ มีดินถล่ม ต้นไม้ล้ม และไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ กระทบประชาชนกว่า 240,000 คน เนื่องจากสถานีส่งไฟฟ้าทั่วเกาะต้องหยุดให้บริการ

ทางการจาเมกาได้ขอให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงและอยู่ในศูนย์หลบภัย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานแห่งสหประชาชาติ (IOM) กล่าวว่า จะจัดเตรียมสิ่งของบรรเทาทุกข์ อาทิ โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ผ้าห่ม เต็นท์สำหรับใช้ในอาคาร เครื่องปั่นไฟ และสิ่งของอื่น ๆ จากบาร์เบโดสไปจาเมกาหลังเฮอริเคนผ่านไป

“ฉันสัมผัสได้ว่า [เฮอริเคนเมลิสซา] เลวร้ายยิ่งกว่าเบริลเสียอีก และมันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ” เอ็มมา ซิมมส์ ชาวสหราชอาณาจักรที่ย้ายไปอยู่จาเมกาให้สัมภาษณ์กับ The Guardian อ้างอิงถึงเฮอริเคนกำลังแรงระดับ 4 “เบริล” ที่ถล่มจาเมกาเดือนกรกฎาคม ปี 2567

จาเมกาเมื่อเฮอริเคนมาถึง

เดสมอนด์ แมคเคนซี (Desmond McKenzie) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการปกครองท้องถิ่นของจาเมกา กล่าวในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายก่อนพายุมาถึงว่า ขณะนี้มีประชาชนเกือบ 6,000 คนอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว และขอให้ชาวเมืองเซนต์เอลิซาเบธ และเวสต์มอร์แลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คาดว่าพายุเฮอริเคนเมลิสซาจะขึ้นฝั่งโดยตรง ให้รีบอพยพไปยังศูนย์พักพิงฉุกเฉินทันที

ราวเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่นจาเมกา NHC รายงานว่า พายุเฮอริเคนเมลิสซาได้ขึ้นฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจาเมกา ใกล้เมืองนิวโฮป โดยมีความเร็วลมสูงสุดประมาณ 295 กิโลเมตร/ชม. และเตือนว่านี่คือ “สถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งและเป็นภัยต่อชีวิต” พร้อมทั้งขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าออกจากที่พักพิงในขณะที่ตาพายุเคลื่อนผ่านแม้ดูจะสงบ

ต่อมาราว 13.00 น. NHC รายงานว่า เมลิสซาอ่อนกำลังลงหลังขึ้นฝั่ง มีความเร็วลมสูงสุดประมาณ 265 กิโลเมตร/ชม. แต่ยังคงเป็นพายุระดับ 5 และยังคงมีความรุนแรงมหาศาล

พายุขึ้นฝั่งและมุ่งหน้าไปทางเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 13 กิโลเมตร/ชม. ศูนย์คาดว่าพายุจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีก

ต่อมาสำนักข่าว AP รายงานว่า มีน้ำท่วมรุนแรงทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของจาเมกา อาคารจำนวนมากได้รับความเสียหายหนัก หลังคาถูกลมพัดปลิว ต้นไม้และเศษซากปรักหักพังกีดขวางถนน

มีรายงานน้ำท่วมและดินถล่มต่อเนื่องตลอดคืนวันอังคาร พายุยังทำให้จาเมการับน้ำฝนเพิ่มอีก 15-30 เซนติเมตรทั่วประเทศ และอาจมีปริมาณน้ำฝนสะสมถึง 30-60 เซนติเมตร ในพื้นที่ภูเขาอาจมีปริมาณน้ำฝนสะสมถึง 76 เซนติเมตร

ไม่ใช่แค่พื้นที่บริเวณที่พายุพัดผ่านเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่แรงลมระดับเฮอริเคนแผ่ขยายออกไปได้ไกลถึง 45 กิโลเมตรจากศูนย์กลางพายุ และแรงลมระดับพายุโซนร้อนแผ่ขยายออกไปได้ไกลถึง 315 กิโลเมตร

ชาวจาเมการาว 15,000 คนพักอยู่ในศูนย์พักพิง และอีกราว 540,000 คนอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนหลบอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจนกว่าจะถึงเช้าวันถัดไป

นอกจากนี้ AP ยังรายงานการโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือของชายคนหนึ่ง เหตุหญิงท้องแก่ใกล้คลอดขณะพายุกำลังขึ้นฝั่ง ต่อสถานีวิทยุท้องถิ่นในจาเมกาตะวันตก ซึ่งแพทย์สูติกรรมได้โทรเข้ามาบอกวิธีการทำคลอดในกรณีที่เธอไม่สามารถเดินทางไปถึงโรงพยาบาลได้ทัน

สภากาชาดอเมริกัน (American Red Cross) ระบุว่า ขณะนี้กำลังทำงานร่วมกับสหพันธ์สภากาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) รวมถึงองค์กรด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ กล่าวว่า จะเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเมื่อสภาพอากาศดีขึ้น โดยคาดว่ามีคนได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุใหญ่ถึง 1.5 ล้านคน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์จาเมกา

ภาพวิดีโอที่ถ่ายโดยประชาชนชาวจาเมกาเผยให้เห็นลมพัดแรง คลื่นสาดปะทะพื้นหน้าอาคารที่ผู้ถ่ายอยู่ด้านใน และสายไฟแกว่งไกวจากกระแสลมแรง ผู้เผยแพร่ชี้ว่า วิดีโอดังกล่าวบันทึกจากโรงพยาบาล Black River บางส่วนของวิดีโอยังเผยภาพคนในชุดเสื้อกาวน์ยืนมุงดูพายุจากในอาคารอีกด้วย

เมลิสซาอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 4 และต่อมาราวเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นจาเมกา NHC รายงานว่า ความเร็วลมของพายุลดลงเหลือ 205 กิโลเมตร/ชม. ทำให้พายุลดระดับเป็นพายุระดับ 3 และรัฐบาลจาเมกาผ่อนการเตือนภัยจาก “เฮอริเคน” เป็น “พายุเขตร้อน”

กำลังแรงอีกครั้งขณะมุ่งหน้าคิวบา

แต่หลังจากที่พายุลดระดับลงได้ไม่นาน เมลิสซาก็เพิ่มกำลังขึ้นเป็นพายุระดับ 4 และเป็น “เฮอริเคน” อีกครั้ง ขณะเคลื่อนตัวเข้าเทียบชายฝั่งคิวบา NHC คาดว่า เฮอริเคนใหญ่จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของคิวบาช่วงค่ำวันพุธ หรือราวเช้ามืดวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย

คาดการณ์ว่า เมลิสซาจะคงกำลังแรงและไม่อ่อนลง อาจมีกำลังสูงสุดถึง 315 กิโลเมตร/ชม. ขณะเคลื่อนตัวผ่านคิวบาและบาฮามาส และยังมีแนวโน้มเกิดพายุรุนแรงบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของคิวบาช่วงเช้าวันพุธ (ช่วงค่ำวันพุธตามเวลาประเทศไทย) คาดว่าคลื่นอาจสูงถึง 2.4-3.6 เมตรจากระดับน้ำทะเลทั่วไป

ประธานาธิบดีคิวบา มิเกล ดิแอซ ได้เตือนประชาชนว่า เฮอริเคนลูกนี้อาจเป็นพายุที่ “รุนแรงและอาจจะหนักที่สุด” ที่เคยเกิดขึ้นในเกาะคิวบา และทางการกล่าวว่าได้อพยพคนกว่า 500,000 คนจากพื้นที่เสี่ยงภัยลมแรงและน้ำท่วมแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้เฮอริเคนเมลิสซาจะอ่อนกำลังลง ขณะขึ้นฝั่งที่จาเมกาจนเหลือระดับ 3 แต่ NHC เตือนว่า พายุจะเพิ่มกำลังแรงขึ้นเป็นระดับ 4 อีกครั้งเมื่อขึ้นฝั่งคิวบา

NHC ชี้ว่า เฮอริเคนเมลิสซาจะเคลื่อนตัวไปหาหมู่เกาะบาฮามาสตอนกลางและตะวันออกเฉียงใต้ช่วงดึกวันพุธ และจะถึงบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 

พายุแรงที่สุดในช่วงที่โลกร้อนที่สุด สัมพันธ์กันหรือไม่?

เดเมียน แคริงตัน บรรณาธิการด้านสิ่งแวดล้อมของ The Guardian กล่าวว่า วิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศนี้เองคือปัจจัยที่ทำให้เฮอริเคนในทะเลแคริบเบียนเลวร้ายมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

“ในภูมิภาคแคริบเบียน พายุเฮอริเคนที่มาพร้อมกับฝนตกหนักรุนแรง อย่างพายุเฮอริเคนมาเรีย (กรกฎาคม 2560) ที่พัดถล่มเปอร์โตริโก มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้นถึง 2 เท่า หากโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับโลกที่ร้อนขึ้นเพียง 1.5 องศาเซลเซียส”

แคริงตันกล่าวว่า สาเหตุคือ บรรยากาศสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากขึ้นประมาณ 7% ต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิทุก 1 องศาเซลเซียส ความสัมพันธ์นี้เรียกว่า “ปรากฏการณ์คลอสิอุส–แคลเปย์รอน” (Clausius–Clapeyron effect) ซึ่งพบได้ในกรณีฝนตกหนักสุดขั้ว

กล่าวอย่างง่ายคือ พายุเฮอริเคนในโลกที่ร้อนขึ้น อย่างเมลิสซา จึงมีแนวโน้มจะเพิ่มปริมาณฝนมากกว่าเฮอริเคนในยุคก่อนอุตสาหกรรม

ไม่ใช่แค่ผลกระทบที่มากขึ้น แต่การฟื้นฟูเองก็ใช้เวลายาวนาน แคริงตันกล่าวว่า แคริบเบียนเป็นภูมิภาคที่มีความเปราะบาง มักใช้เวลาในการฟื้นตัวนานหลายปี

“โดยเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับช่วงเวลาการเกิดพายุเฮอริเคนรอบถัดไป คือประมาณทุก 5–10 ปี” เขากล่าว

เขายังเสริมว่า สำหรับภาคเกษตรกรรม เวลาที่ใช้ฟื้นตัวอาจนานเข้าไปอีก ตัวอย่างเช่น เกาะเกรนาดา ซึ่งเคยเป็นพื้นที่เพาะปลูกและส่งออกลูกจันทน์เทศรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจากอินโดนีเซีย ถูกพายุเฮอริเคนไอแวนพัดถล่มในปี 2547 หลังพายุจากไป หมู่เกาะนี้สามารถผลิตลูกจันทน์เทศซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้หลักของคน 27% ได้น้อยลงถึง 60%

“ลูกจันทน์เทศต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัวจากความเสียหายของลมแรง และแม้กระทั่งในปี 2009 ปริมาณการผลิตยังคงอยู่เพียง 12% ของระดับก่อนเกิดพายุไอแวน”

ที่มา: The Guardian

แชร์
โลกร้อนเร่งฝนเฮอริเคน "เมลิสซา" ถล่มจาเมกา ฝนสะสมอาจแตะ 60 ซม.