Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
โกลด์แมน-มอร์แกน สแตนลีย์ เตือนหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลง 10-20% ภายใน 2 ปี
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

โกลด์แมน-มอร์แกน สแตนลีย์ เตือนหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลง 10-20% ภายใน 2 ปี

4 พ.ย. 68
18:27 น.
แชร์

ตลาดหุ้นหลายตลาดทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในปีนี้ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากกำไรของหุ้นที่เชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ก็ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite (SSE) ของจีนทำระดับแข็งแกร่งที่สุดในรอบทศวรรษ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนผ่อนคลายลง และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ท่ามกลางการไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ของดัชนีหุ้นหลายตลาด มีหลายสถาบันที่เตือนถึงความเสี่ยงว่าตลาดหุ้นขึ้นสูงมากไปแล้ว และยิ่งสูงก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับตัวลง 

เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น) สูงเกินมูลค่าพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดโลกมีความเสี่ยงมาก ทั้ง สงครามการค้า  ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อปัจจัยต่างๆ เหล่านี้รวมกัน ก็เพิ่มโอกาสที่ตลาดจะเกิดการปรับฐานลง

ล่าสุด ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ผู้บริหารของธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำอย่าง โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) กับมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ได้เตือนนักลงทุนให้เตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยพวกเขาคาดว่าอาจเกิดการเทขายหุ้นจำนวนมากในอนาคตอันใกล้ และตลาดจะปรับตัวลง 10% - 20% ในช่วงเวลา 1-2 ปีข้างหน้า 

เดวิด โซโลมอน (David Solomon) ซีอีโอของ โกลด์แมน แซคส์ กล่าวในการประชุมการประชุมการลงทุนของผู้นำทางการเงินระดับโลก (Global Financial Leaders’ Investment Summit) ในฮ่องกงว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวลง 10% ถึง 20% ในช่วง 12 ถึง 24 เดือนข้างหน้า 

เขาบอกว่า เมื่อหุ้นวิ่งขึ้นสูงแล้วก็ย่อมจะมีการดึงกลับลงมาเพื่อให้ผู้คนได้ประเมินสถานการณ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม เขามองว่า การปรับตัวลงเป็นคุณสมบัติปกติธรรมดาของตลาดกระทิงระยะยาว และเขายังคงคำแนะนำการลงทุนสำหรับลูกค้าว่า ให้ลงทุนต่อไปและทบทวนการจัดพอร์ต โดยอย่าพยายามจับจังหวะตลาด  

“การปรับตัวลง 10 ถึง 15% เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในช่วงวัฏจักรตลาดขาขึ้น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนพื้นฐานหรือความเชื่อเชิงโครงสร้างว่าคุณต้องการจัดสรรเงินลงทุนอย่างไร” โซโลมอนกล่าว 

เท็ด พิก (Ted Pick) ซีอีโอของ มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) กล่าวบนเวทีเดียวกันว่า นักลงทุนควรเปิดใจยอมรับการปรับตัวลงเป็นระยะๆ ของตลาด โดยมองว่ามันเป็นพัฒนาการที่ดีมากกว่ามองว่าเป็นสัญญาณของวิกฤต

เขาบอกอีกว่า การที่ตลาดปรับตัวลง 10% ถึง 15% โดยที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากผลกระทบของหน้าผาทางเศรษฐกิจมหภาค (macro cliff) นั้นถือว่าน่าพอใจแล้ว

นอกจากนั้น ผู้บริหารของทั้งสองแบงก์ยักษ์เห็นตรงกันว่า ตลาดเอเชียจะเป็นจุดสว่างในช่วงปีสองปีข้างหน้า เนื่องจากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ซีอีโอ โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ผู้จัดสรรเงินลงทุนทั่วโลกจะยังคงให้ความสนใจในตลาดหุ้นจีน และบอกว่าจีนยังคงเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของโลก

ซีอีโอ มอร์แกน สแตนลีย์ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย เนื่องจากเติบโตที่โดดเด่นและมีเอกลักษ์ของแต่ละประเทศ การปฏิรูปการกำกับดูแลกิจการของญี่ปุ่น และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของอินเดีย ถูกยกให้เป็นธีมการลงทุนในหลายปีข้างหน้า 

“เป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวระดับโลกของเอเชีย” ซีอีโอ มอร์แกน สแตนลีย์กล่าว โดยเขาไฮไลต์ที่ AI รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีชีวภาพในจีนเป็นพิเศษ 

อ้างอิง : CNBC และ Futubull

แชร์
โกลด์แมน-มอร์แกน สแตนลีย์ เตือนหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลง 10-20% ภายใน 2 ปี