
เช้าวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ดัชนีหุ้นเอเชียพุ่งรับสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากคณะเจรจาการค้าระดับสูงของสหรัฐฯกับจีนได้ร่วมกันร่างกรอบข้อตกลงหลายประเด็น ซึ่งจะเสนอให้ผู้นำของสหรัฐฯกับจีนลงนามในการพบกันในห้วงการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคมนี้
นอกจากนักลงทุนยินดีกับการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนแล้ว ยังมีปัจจัยความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 28-29 ตุลาคมนี้ และผนวกกับปัจจัยเฉพาะของแต่ละประเทศที่หลายประเทศจะมีการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯระหว่างที่ทรัมป์เยือนเอเชีย เป็นสามปัจจัยที่หนุนให้หุ้นหลายตลาดในเอเชียตะวันออกพุ่งขึ้นในเช้านี้
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 900 จุด หรือ 1.8% สู่ระดับ 50,200 จุด ทำสถิติทะลุ 50,000 จุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และดัชนี Topix ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นราว 1.4% ด้านเกาหลีใต้ ดัชนี Kospi พุ่งขึ้น 2.1% ทะลุ 4,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Kosdaq ซึ่งเป็นหุ้นขนาดเล็กของเกาหลีใต้ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.45% ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 1.15% ส่วนดัชนี CSI 300 ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.83%
สำหรับญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นจะพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐฯในวันนี้ (27 ตุลาคม) ระหว่างที่ทรัมป์เยือนญี่ปุ่น ก่อนจะเข้าร่วมประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้
นักกลยุทธ์ของธนาคารเครดิต อะกริโคล ซีไอบี (Crédit Agricole CIB) จากฝรั่งเศส คาดว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทาคาอิจิจะสื่อสารออกมาในการพบปะกับทรัมป์ คือ ญี่ปุ่นพยายามจะเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญผ่านภาวะเศรษฐกิจที่มีแรงกดดันสูง ซึ่งการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งจะช่วยดึงญี่ปุ่นออกจากดึงญี่ปุ่นให้หลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาเชิงโครงสร้างได้อย่างสมบูรณ์ และจะนำไปสู่ความคืบหน้าในการลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะนำไปสู่ผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ส่วนเรื่องการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนนั้น สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีบีเอสนิวส์ (CBS News) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 100% ที่ทรัมป์เสนอนั้น “แทบจะเป็นไปไม่ได้” และเขากล่าวเสริมว่า จีนคาดว่าจะซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯจำนวนมาก และจะชะลอการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายากออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม เบสเซนต์กล่าวว่า สหรัฐฯจะยังคงควบคุมการส่งออกสินค้าจีนตามเดิม
อ้างอิง: CNBC, Nikkei Asia