ในเช้าวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2025 ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 152.94 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น คัตสึโนบุ คาโตะ (Katsunobu Kato) ต้องเพิ่มระดับการเตือนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น
“ขณะนี้เรากำลังเห็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวและรวดเร็วในตลาด … รัฐบาลจะประเมินการเคลื่อนไหวในตลาดที่มากเกินไปหรือไม่เป็นระเบียบอย่างรอบคอบ” รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าว
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ อัตราแลกเปลี่ยนต้องสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน และเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ” คาโตะกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ถ้อยคำที่เด็ดขาดมากขึ้นของรัฐมนตรีคลัง คาโตะ น่าจะเพิ่มการคาดการณ์ในตลาดว่า ญี่ปุ่นกำลังเข้าใกล้การแทรกแซงค่าเงินอีกขั้นหนึ่ง แม้ว่าการแทรกแซงอาจจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าค่าเงินเยนจะเข้าใกล้ระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2022 กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ใช้จ่ายไปประมาณ 24.5 ล้านล้านเยน (ประมาณ 5.25 ล้านล้านบาท) เพื่อพยุงค่าเงินเยนที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ค่าเงินเยนเริ่มอ่อนค่าลงหลังจากที่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ( LDP) ของญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาคาอิจิเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้ความคาดหวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในระยะสั้นลดน้อยลง และส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง
แม้ว่า ซานาเอะ ทาคาอิจิ จะพยายามปฏิเสธกระแสคาดการณ์ที่ว่าเธอจะสนับสนุนการอ่อนค่าของเงินเยนแล้ว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม ทาคาอิจิกล่าวว่า เธอไม่มีเจตนาที่จะกระตุ้นให้เงินเยนอ่อนค่าลงมากเกินไป และเธอไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นได้
คำพูดของเธอดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่การสร้างความมั่นใจให้ตลาดว่า การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเธอจะไม่ขัดแย้งกับความพยายามของธนาคารกลางในการกระชับนโยบายการเงิน ถึงอย่างนั้นก็ตาม เงินเยนก็ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น อีกหนึ่งแรงกดดันต่อค่าเงินเยน คือ ภูมิทัศน์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนของญี่ปุ่น ทาคาอิจิกำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความต่อเนื่องของการร่วมรัฐบาลระหว่างพรรค LDP และพรรคโคเมโตะ ซึ่งทั้งสองพรรคมีกำหนดประชุมกันในวันนี้ (10 ตุลาคม) แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่
ทั้งนี้ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอาจผลักดันให้ BOJ ดำเนินการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ค่าเงินที่อ่อนค่าลงจะผลักดันให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น เพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และอาจส่งผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลาง ปัจจุบัน ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสประมาณ 22% ที่ BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้