Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ศักยภาพธุรกิจครอบครัวในไทย และความความท้าทายของการสืบทอดกิจการ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ศักยภาพธุรกิจครอบครัวในไทย และความความท้าทายของการสืบทอดกิจการ

7 ก.ย. 68
11:09 น.
แชร์

หากมองย้อนกลับไปเรามักได้ยินข่าวความขัดแย้งของตระกูลนักธุรกิจชื่อดังหลายกรณี ที่เกิดขึ้นจากการสืบทอดกิจการไม่ว่าจะระหว่างรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก หรือจากรุ่นปู่สู่รุ่นหลาน 

ปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการรักษาและส่งต่อธุรกิจครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่แตกต่างจากอดีตมาก ล้วนเป็นความท้าทายของธุรกิจครอบครัวทั้งสิ้น

แม้จะมีความท้าทาย แต่ธุรกิจครอบครัวก็ยังเป็น “รากฐานที่มั่นคง” ของเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่ของจำนวนบริษัท มูลค่าทางเศรษฐกิจ และบทบาทต่อการสร้างงานและการเสียภาษี

ศักยภาพธุรกิจครอบครัวในตลาดทุนไทย

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีทั้งหมด 850 บริษัท ในจำนวนนี้ 646 บริษัท หรือคิดเป็น 76% จัดอยู่ในกลุ่ม “ธุรกิจครอบครัว” ถือเป็นตัวเลขที่สะท้อนชัดเจนว่าครอบครัวไทยยังมีบทบาทนำในการสร้างและขับเคลื่อนกิจการ

นอกจากจำนวนแล้ว ธุรกิจครอบครัวยังครองมูลค่าตลาดครึ่งหนึ่งของทั้งตลาด หรือ ประมาณ 50% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market Cap) ซึ่งหมายความว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าในตลาดหุ้นไทยมาจากกิจการที่ยังมีครอบครัวเป็นแกนกลาง

กระจายตัวครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

ธุรกิจครอบครัวไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงบางอุตสาหกรรม แต่มีการกระจายตัวอยู่ในเกือบทุกหมวดธุรกิจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น

  • อาหารและเครื่องดื่ม – กว่า 93% ของบริษัทในกลุ่มนี้เป็นธุรกิจครอบครัว
  • อสังหาริมทรัพย์ – 85.2% เป็นธุรกิจครอบครัว
  • พาณิชย์ – เกือบทั้งหมด หรือ 91% อยู่ภายใต้การบริหารของครอบครัว
  • การแพทย์, สื่อและสิ่งพิมพ์, วัสดุอุตสาหกรรม, ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ – ล้วนมีสัดส่วนเกิน 80%

ตัวเลขนี้สะท้อนว่า ธุรกิจครอบครัวเป็นโครงสร้างหลักของเกือบทุกภาคเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม การบริการ หรือการบริโภค

การระดมทุนของธุรกิจครอบครัวและบทบาทของตลาดหุ้นไทย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวยืนระยะได้ยาวนาน คือ “ตลาดทุนไทย” ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนหลักตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (2558–2567)

  • 84.1% ของบริษัทที่ IPO ในรอบ 10 ปีเป็นธุรกิจครอบครัว หรือคิดเป็น 264 บริษัทจาก 314 บริษัท
  • มูลค่าการระดมทุนรวมสูงกว่า 483,190 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของมูลค่า IPO ทั้งหมด
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ของบริษัทครอบครัวที่ IPO มีมูลค่ารวมกว่า 2.25 ล้านล้านบาท หรือ 74.7% ของ Market Cap รวมของ IPO ทั้งหมด

ไม่เพียงแต่ IPO เท่านั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน ธุรกิจครอบครัวยังมีการ ระดมทุนในตลาดรอง อย่างต่อเนื่อง รวม 410 ครั้ง จาก 108 บริษัท คิดเป็นมูลค่ากว่า 351,131 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นไม่ใช่เพียงแค่ช่องทางเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสภาพคล่องและขยายกิจการต่อเนื่อง

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ “อายุ” ของธุรกิจครอบครัว โดยการศึกษาในปี 2568 พบว่า บริษัทครอบครัวมีอายุเฉลี่ยของกิจการอยู่ที่ 36 ปี และบางบริษัทมีอายุยืนยาวถึง 149 ปี ซึ่งเกือบ 3 เท่าของอายุตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง

ก่อนเข้าตลาดหุ้น ธุรกิจครอบครัวใช้เวลาทำธุรกิจด้วยทุนส่วนตัวและสินเชื่อโดยเฉลี่ย 19 ปี จึงสะท้อนว่า ครอบครัวเจ้าของกิจการมักสร้างความมั่นคงก่อนเข้าสู่ตลาดทุน และเมื่อเข้าตลาดแล้วก็สามารถยืนระยะได้ยาวนานกว่าหลายทศวรรษ

ธุรกิจครอบครัวต่อเศรษฐกิจไทย

ตัวเลขในปี 2567 แสดงบทบาทของธุรกิจครอบครัวต่อเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน

  • รายได้รวม 9 ล้านล้านบาท หรือเกือบครึ่งหนึ่งของ GDP ประเทศ (48.5%)
  • การเติบโตเฉลี่ยของรายได้ 8.25% ต่อปี ในช่วงปี 2560–2567 สะท้อนถึงศักยภาพการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 3.05% ต่อปี แม้จะไม่สูงนัก แต่ก็ยังสูงกว่าการเติบโตของ GDP ที่เฉลี่ยเพียง 2.64%
  • สินทรัพย์รวมเติบโตเฉลี่ย 9.63% ต่อปี สะท้อนว่าการระดมทุนในตลาดหุ้นไทย ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถจัดหาทุนเพื่อขยายกิจการในระยะยาวได้
  • ในด้านภาษี ธุรกิจครอบครัวก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ปี 2567 บริษัทครอบครัวจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมกว่า 126,035 ล้านบาท คิดเป็น 16.4% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งระบบ
  • ส่วนในด้านการจ้างงาน ธุรกิจครอบครัวในตลาดหุ้นไทยมีการจ้างงานรวมกว่า 1.48 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.8% หรือคิดเป็น 9.3% ของแรงงานภาคเอกชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรและอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และบริการ ที่มีการจ้างงานสัดส่วนสูงกว่า 80% ของแรงงานในอุตสาหกรรมนั้น

แม้ธุรกิจครอบครัวจะต้องเผชิญความท้าทายในการสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น แต่จากข้อมูลเชิงประจักษ์ในตลาดทุนไทย ธุรกิจครอบครัวยังคงเป็น “เสาหลัก” ของเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่ของรายได้ การสร้างงาน และการเสียภาษี ข้อมูลยังชี้ว่า ธุรกิจครอบครัวเป็นผู้ใช้ตลาดทุนไทยอย่างเข้มแข็ง ทั้งเพื่อระดมทุนครั้งแรกและต่อยอดผ่านตลาดรอง

ดังนั้น หากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสนับสนุนให้ธุรกิจครอบครัวปรับตัวได้ทันกับยุคสมัย เข้าถึงแหล่งทุนและพัฒนาโครงสร้างองค์กรอย่างยั่งยืน ย่อมเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เพราะธุรกิจที่เริ่มต้นจากครอบครัว ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงแก่ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศทั้งระบบ

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แชร์
ศักยภาพธุรกิจครอบครัวในไทย และความความท้าทายของการสืบทอดกิจการ