
เวียดนามกำลังกลายเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในภูมิภาคอย่างรวดเร็ว ด้วยกลยุทธ์จากผู้เล่นระดับโลกอย่าง Amazon ที่เตรียมใช้เวียดนามเป็นศูนย์กลางส่งออกในปี 2026 ขณะที่มูลค่าการส่งออกคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 สอดรับนโยบายรัฐที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ
Amazon มีแผนที่จะพลิกโฉมเวียดนามให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกอีคอมเมิร์ซสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2026 การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาประเทศจากฐานการผลิตที่แข็งแกร่งไปสู่เศรษฐกิจการค้าที่ผสานรวมเข้ากับระบบดิจิทัล
ทั้งนี้ อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของเวียดนามอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยคาดการณ์ว่า มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นจาก 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023 เป็น 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2028 โดยในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จำนวนผลิตภัณฑ์ของเวียดนามที่แสดงรายการบนแพลตฟอร์ม Amazon เพิ่มขึ้นกว่า 300% โดยมีสินค้า 18 ล้านรายการพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลก
ขณะที่ Amazon กำลังรวมการผลิตในท้องถิ่นเข้ากับระบบโลจิสติกส์และการค้าปลีกทั่วโลก การเลือกเวียดนามสร้างศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซจึงเป็นการตัดสินใจที่ตอบโจทย์ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนามสามารถจัดส่งตรงไปยังศูนย์จัดการคำสั่งซื้อในต่างประเทศของ Amazon โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งช่วยลดเวลาในการจัดส่งและลดต้นทุนการทำธุรกรรมอย่างมาก
เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค และเป็นอันดับสามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีนักช้อปออนไลน์ 60 ล้านคน การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดย SMEs ในท้องถิ่นที่มีความยืดหยุ่นและมีนวัตกรรม SMEs ของเวียดนามคิดเป็นเกือบ 98% ขององค์กรทั้งหมดในเวียดนาม โดยมีจำนวน 940,000 รายและยังคงเพิ่มขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมได้เพิ่มเป้าหมายการเติบโตของอีคอมเมิร์ซของเวียดนามเป็น 25.5% จากเดิม 20-22% โดยคาดการณ์มูลค่ารวมจะสูงถึง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ตลาดส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
เหงียน ถัน ด่อง รองหัวหน้าฝ่ายพัฒนาศักยภาพการส่งเสริมการค้า ภายใต้สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนามกล่าวว่า สำนักงานกำลังร่วมมือกับแพลตฟอร์มหลัก ๆ เช่น Alibaba, Amazon และ TikTok เพื่อเปิดตัว National Pavilions เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เข้าร่วมในอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ผลลัพธ์เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ากว่า 50% ของบริษัทที่เข้าร่วมได้รับคำสั่งซื้อ โดยมีมูลค่าเฉลี่ยหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน สำนักงานกำลังสรุปนโยบายที่สำคัญหลายอย่าง เช่น แผนพัฒนาอีคอมเมิร์ซแห่งชาติสำหรับปี 2026-2030 และโครงการ Go Export ขณะเดียวกันก็กำลังพัฒนาชุดตัวชี้วัดเพื่อประเมินความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับทั้งหน่วยงานกำกับดูแลและภาคธุรกิจ
นายเหงียน ถัน ด่อง กล่าวว่า วิสาหกิจขนาดเล็กและสหกรณ์หลายพันแห่งในเวียดนามได้เข้าร่วมการฝึกอบรม เช่น การจัดการร้านค้าออนไลน์ การไลฟ์สดสำหรับการขายข้ามพรมแดน และการประยุกต์ใช้ AI ในการโฆษณา ความคิดริเริ่มเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับธุรกิจเวียดนามในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ สำนักงานการค้าในต่างประเทศของเวียดนามก็มีบทบาทเป็นแขนขาที่ขยายออกไปมากขึ้น โดยให้การแจ้งเตือนล่วงหน้า ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มผู้บริโภคใหม่ ๆ