ขาดแรงงาน! หอการค้าฯ เสนอรัฐทำ MOU นำเข้าแรงงานต่างชาติแทนกัมพูชา

เหตุปะทะระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เกิดขึ้น 6 พื้นที่ตามแนวชายแดน ไม่เพียงส่งผลให้ประชาชนกว่า 1.8 แสนคนต้องอพยพจาก 7 จังหวัดชายแดน การปิดด่านข้ามชายแดนหลังจากการปะทะ ทำให้เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ นั่นคือ "วิกฤตการขาดแคลนแรงงาน" อย่างรุนแรง ภายหลังผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปะทุขึ้น ส่งผลให้แรงงานกัมพูชาในไทยกว่า 5 แสนคนหายไปจากระบบ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคเอกชนและอาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งประเทศ ล่าสุด หอการค้าไทยต้องออกโรงจี้รัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วนที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ. แจงปมเหตุเขมรขัดขวางการวางลวดหนาม ยันการดำเนินการอยู่ในเขตแดนไทย

รองหัวหน้าพปชร. จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจยกเลิก MOU43-44

กัน จอมพลัง เสนอใช้รถดูดส้วมพ่นใส่เขมรที่กำลังรื้อรั้วลวดหนาม

ผลกระทบจากความขัดแย้ง

จากข้อมูลสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 519,684 คน ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียนให้ข้อมูลว่า มีแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย รวมทั้งในและนอกระบบกว่า 1.2 ล้านคน แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคก่อสร้าง และการเกษตร แต่ผลจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้แรงงานกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมากจนเกือบหมด ก่อให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างฉับพลันและรุนแรง

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะ 4 ภาคส่วนหลักที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจไทย ได้แก่

• ภาคเกษตรกรรม: ขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลผลิต
• ภาคอสังหาริมทรัพย์: โครงการก่อสร้างต่างๆ ต้องหยุดชะงัก
• ภาคการผลิต: กระทบสายพานการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม

• ภาคบริการ: โดยเฉพาะในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว

หอการค้าไทยฯ ยื่นข้อเสนอเร่งด่วนถึงรัฐบาล

เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามจนกระทบเศรษฐกิจในภาพรวม นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสะท้อนปัญหาและเสนอทางออกอย่างเร่งด่วน

ข้อเสนอหลักของหอการค้าไทยฯ คือ การสนับสนุนให้รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน เร่งรัดการนำเข้าแรงงานต่างชาติเพิ่มเติมในรูปแบบ MOU ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อทดแทนแรงงานที่ขาดหายไปอย่างทันท่วงที โดยเสนอให้นำเข้าแรงงานจากประเทศอื่นที่มีศักยภาพ เช่น บังคลาเทศ, เนปาล, ศรีลังกา, และอินโดนีเซีย

"แรงงานเป็นกลไกสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย หากไม่มีการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลกระทบต่อการเกษตร การผลิต การบริการ และการจ้างงานโดยรวมของประเทศ เราจึงสนับสนุนรัฐบาลให้ความสำคัญและดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อพยุงเศรษฐกิจและช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ" นายพจน์กล่าว

หอการค้าไทยฯ ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วน โดยเสนอให้กระทรวงแรงงานเร่งนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

สำหรับ ภาพรวมแรงงานต่างด้าวในไทย (ข้อมูล ณ ก.ค. 68) ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานคงเหลือทั่วราชอาณาจักรทั้งสิ้น 4,071,617 คน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงาน 4 สัญชาติหลัก ได้แก่

• เมียนมา: 2,960,776 คน
• กัมพูชา: 519,684 คน (ตัวเลขก่อนเกิดปัญหา)
• ลาว: 293,701 คน
• เวียดนาม: 8,896 คน

การขาดหายไปของแรงงานกัมพูชาเฉพาะในระบบกว่า 5 แสนคน  จึงถือเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้วิกฤตแรงงานกลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว การตัดสินใจของภาครัฐจึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

คอนเทนต์แนะนำ

ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ เกิดจากอะไร บทเรียนสุขภาพจากข่าว "ปั๊บ โปเตโต้"

ออทิสติกในผู้ใหญ่ วิธีสังเกตว่าเราอาจเป็น ความแตกต่างออทิสติกในเด็ก

"โจ้ สืบศักดิ์" โพสต์ นักตะกร้อเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ถูกหักเงินจนหมด