Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไทยเนื้อหอม กองถ่ายหนังต่างชาติ อัดฉีดเศรษฐกิจไทยโตเกือบ 3 พันล้าน
โดย : พลวัฒน์ รินทะมาตย์

ไทยเนื้อหอม กองถ่ายหนังต่างชาติ อัดฉีดเศรษฐกิจไทยโตเกือบ 3 พันล้าน

19 ก.ค. 68
15:25 น.
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

ความสำเร็จในการดึงดูดกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยเม็ดเงินมหาศาลเกือบ 3 พันล้านบาทที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งเป็นผลพวงโดยตรงจากมาตรการส่งเสริมที่ตรงจุดของภาครัฐ

คุณค่าที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเลขรายได้ แต่ยังขยายผลไปสู่การสร้าง Soft Power หรืออำนาจทางวัฒนธรรมที่ประเมินค่าไม่ได้ ช่วยประชาสัมพันธ์ความสวยงามและศักยภาพของประเทศไปสู่สายตาชาวโลก พร้อมทั้งเปิดประตูสู่โอกาสมหาศาลจาก การท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ ในระยะยาว

การที่รายได้ทั้งปีถูกคาดการณ์ว่าจะทะลุเป้าหมายสู่หนึ่งหมื่นล้านบาท ยิ่งตอกย้ำว่านี่คือนโยบายที่ "ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว" อย่างแท้จริง ถือเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวสำคัญที่สร้างทั้งรายได้ สร้างงาน และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

อุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยกำลังกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยข้อมูลล่าสุดจากกรมการท่องเที่ยวที่ชี้ให้เห็นว่าเพียงแค่ 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน) ประเทศไทยได้ต้อนรับกองถ่ายทำจากทั่วโลกมากถึง 279 เรื่อง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศสูงถึง 2,866 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสำเร็จ แต่ยังเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางหลักของการผลิตภาพยนตร์ระดับโลก (Premiere Filming Destination)

ปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จและผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ

ความสำเร็จนี้มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากมาตรการเชิงรุกของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการคืนเงิน (Cash Rebate) สูงสุด 30% ให้กับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นแม่เหล็กชั้นดีที่ดึงดูดให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ดังจะเห็นได้จากโครงการใหญ่ๆ ที่เข้ามาแล้วอย่าง "Jurassic World" และ "The White Lotus"

เปิดเผยสถิติครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2568 (มกราคม - มิถุนายน) มีกองถ่ายจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในประเทศถึง 279 เรื่อง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยเป็นมูลค่าสูงถึง 2,866.41 ล้านบาท ตอกย้ำสถานะการเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ในภูมิภาค

เพียงแค่ในเดือนมิถุนายนเดือนเดียว มีกองถ่ายทำภาพยนตร์เข้ามาถึง 41 เรื่อง สร้างงบประมาณการลงทุนกว่า 412.68 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย

เอเชียนำทัพ ปักหมุดถ่ายทำในไทย

เมื่อพิจารณาถึงประเทศที่เข้ามาลงทุนถ่ายทำมากที่สุด พบว่าตลาดเอเชียยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ โดย 3 อันดับแรก ได้แก่:

  1. อินเดียและเกาหลีใต้: มีจำนวนกองถ่ายทำเท่ากันที่ 33 เรื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในวัฒนธรรมและสถานที่ของไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเอเชีย
  2. ญี่ปุ่น: ตามมาเป็นอันดับสองด้วยจำนวน 27 เรื่อง
  3. จีน,ไตหวัน,ฮ่องกง: อยู่ในอันดับสามที่ 25 เรื่อง

กรุงเทพฯ-ปทุมธานี-ชลบุรี ครองแชมป์โลเคชันยอดฮิต

สำหรับจังหวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเป็นสถานที่ถ่ายทำ 3 อันดับแรก ยังคงเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลภาคตะวันออก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี และ ชลบุรี ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทำเลที่หลากหลาย ทั้งความเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย ไปจนถึงทัศนียภาพทางธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของกองถ่ายได้ทุกรูปแบบ

เม็ดเงินเกือบ 3 พันล้านบาทที่เกิดขึ้น ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เท่านั้น แต่ได้กระจายรายได้อย่างทั่วถึงสู่ภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจ สร้าง ผลกระทบเชิงทวีคูณ (Multiplier Effect) อย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้

  • ธุรกิจที่พักและโรงแรม: รองรับทีมงานนักแสดงจำนวนมากเป็นระยะเวลานาน
  • ธุรกิจร้านอาหารและการจัดเลี้ยง: ตอบสนองความต้องการของกองถ่ายขนาดใหญ่
  • ธุรกิจบริการและการขนส่ง: ตั้งแต่การเช่าอุปกรณ์ การเดินทาง ไปจนถึงการจ้างงานบุคลากรท้องถิ่น
  • ชุมชนท้องถิ่น: เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้โดยตรงในพื้นที่ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เช่น กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และชลบุรี ซึ่งเป็น 3 จังหวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุด

มากกว่ารายได้ คือ "Soft Power" และโอกาสทางการท่องเที่ยว

นอกเหนือจากประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรง การที่กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งเป็น 4 ประเทศหลักที่เข้ามาถ่ายทำ เลือกใช้ประเทศไทยเป็นฉากหลัง ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไปสู่สายตาผู้ชมหลายร้อยล้านคนทั่วโลกโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล สิ่งนี้ช่วยสร้าง "พลังละมุน" (Soft Power) และภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับประเทศอย่างประเมินค่าไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการจุดประกายให้เกิด การท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ (Film-Induced Tourism) ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

หมื่นล้านบาทไม่ไกลเกินเอื้อม

จากแนวโน้มในช่วงครึ่งปีแรก กรมการท่องเที่ยวได้คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2568 ประเทศไทยจะสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ได้ถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 7,500 ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ

การส่งเสริมอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นกลยุทธ์ที่ "ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว" ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล แต่ยังช่วยกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

ที่มา : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


แชร์
ไทยเนื้อหอม กองถ่ายหนังต่างชาติ อัดฉีดเศรษฐกิจไทยโตเกือบ 3 พันล้าน