วันที่ 14 มิถุนายน 2568 สมัชชาแห่งชาติเวียดนามอนุมัติข้อเสนอปรับขึ้นภาษีการบริโภคพิเศษ (Special Consumption Tax) ในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากระดับปัจจุบันที่ 65% เป็น 70% ภายในปี 2570 และ 90% ภายในปี 2574
กระทรวงการคลังของเวียดนามระบุว่าจุดประสงค์ในการเก็บภาษีที่สูงขึ้น คือความพยายามในการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชนด้วยเหตุผลด้านสุขภาพและความปลอดภัย โดยรายงานของบริษัทที่ปรึกษา KPMG ในปี 2567 พบว่าเวียดนามเป็นตลาดเบียร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอุตสาหกรรมเบียร์ของเวียดนามมีผู้เล่นรายใหญ่ ได้แก่ Heineken ผู้ผลิตเบียร์สัญชาติเนเธอร์แลนด์, Carlsberg จากเดนมาร์ก ขณะที่ผู้ผลิตเบียร์ในท้องถิ่นรายใหญ่ก็มี Sabeco และ Habeco
ประธานสมาคมเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเวียดนามระบุว่า เดิมอุตสาหกรรมเบียร์ของประเทศได้รับแรงกดดันจากกฎหมายเมาแล้วขับที่เข้มงวดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว และการเก็บภาษีที่สูงขึ้นในครั้งนี้จะกระทบต่อรายได้ของอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน โดยในปีที่ผ่านมา Heineken ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดได้สั่งระงับการดำเนินงานที่โรงเบียร์แห่งหนึ่งในเวียดนาม
นอกจากการปรับขึ้นภาษีในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว สมัชชาแห่งชาติเวียดนามยังอนุมัติการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกิน 5 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เพิ่มขึ้นเป็น 8% ในปี 2570 และ 10% ในปี 2571 อีกด้วย
อ้างอิง: Reuters