รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 อย่างไม่มีกำหนด แม้ยืนยันว่า "ไม่ได้ยกเลิก" แต่ความจริงที่ปรากฏคือ โครงการนี้ถูกถอยห่างออกจากลำดับความสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในวันที่เสียงทักท้วงจากแบงก์ชาติ สภาพัฒน์ และนักเศรษฐศาสตร์ เริ่มดังกว่าเสียงนโยบายของพรรคการเมือง
เงินงบกลางกว่า 1.57 แสนล้านบาท ที่เดิมกันไว้เพื่อแจกเงินกลุ่มคนอายุ 16–20 ปี ถูกเบนทิศทางไปใช้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบจัดการน้ำ การคมนาคม แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือ SME
แม้ฟังดูเป็นแผนที่รอบคอบและยั่งยืนมากขึ้น แต่ก็ทำให้กลุ่มเป้าหมายกว่าเกือบ 3 ล้านคนต้องกลับไปนั่งรอแบบไม่มีกรอบเวลาชัดเจน กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ไม่เคยได้รับสิทธิวอลเล็ตมาก่อน
แม้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และรองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร จะยืนยันว่า "โครงการนี้ทำได้จริง" และ "ไม่ได้เลื่อนเพราะไม่มีเงิน" แต่เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ รวมถึงข้อเสนอของธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ คือสิ่งที่ทำให้รัฐบาลต้องทบทวนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจทั้งระบบ
การเปลี่ยนแนวทางใช้งบ จากการแจกเงินระยะสั้นมาเป็นการลงทุนระยะยาวจึงเป็นทางออกที่จำเป็น แต่ในทางปฏิบัติ วงเงินที่จัดสรรไว้ 1.57 แสนล้านบาท ก็ยังถูกตั้งคำถามว่าเพียงพอหรือไม่?
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. InnovestX บริษัทการเงินการลงทุนในกลุ่ม SCBX แสดงความเห็นชัดเจนว่า การเลื่อนแจกเงินออกไป ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะโครงการวอลเล็ตมีต้นทุนการคลังสูง แต่ทั้งโครงการรวมกันส่งผลต่อเศรษฐกิจโตน้อยมากเพียงแค่ 0.7%
อย่างไรก็ตาม ดร.ปิยศักดิ์ เตือนว่า หากรัฐบาลจะเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน ต้องใช้งบมากกว่านี้ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาทนั้นเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวรุนแรง แม้ว่า GDP ไตรมาส 1 ปีนี้ ขยายตัวได้ 3.1% แต่ก็ถือว่าเกือบต่ำสุดในอาเซียน และประเมินว่า GDP ในไตรมาสที่เหลือจะโตต่ำกว่า 2% และมีสิทธิ์ เหลือ 0% ในไตรมาสสุดท้าย ทำให้มีความจำเป็น ต้องใช้นโยบายการคลังขนาดใหญ่ และนโยบายการเงินด้วยการปล่อยสภาพคล่องเข้าระบบ เพื่อทำให้เศรษฐไทยฟื้นขึ้นมาได้ หากรัฐฯใช้วงเงินน้อยเกินไป หรือ หรือไม่กระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ก็ยากที่เศรษฐกิจไทยจะกลับมาดี
“เราอยากเห็นเม็ดเงินลงทุนภาครัฐมากถึง 4 ล้านล้านบาท ถึงจะเพียงพอในการประคองเศรษฐกิจปีนี้” ดร.ปิยศักดิ์กล่าว
แม้เฟส 3 จะถูกเลื่อน แต่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้แจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุไปแล้วในเฟส 1 และ 2
บทสรุปของเงินดิจิทัล แค่เลื่อน ไม่ใช่เลิก แต่คือสัญญาณเปลี่ยนเกม แม้รัฐบาลอาจยังไม่ยกเลิกนโยบายแจกเงินหมื่น แต่การเลื่อนแบบไร้กรอบเวลาคือสัญญาณว่าเกมเศรษฐกิจเปลี่ยนไปแล้ว จากนโยบายหาเสียงสู่การตัดสินใจที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง “คะแนนนิยม” กับ “เศรษฐกิจซึมยาว”