"จุลพันธ์" โต้ภท.ปราศรัย โจมตีรัฐบาลหาเงินทอนจาก"ดิจิทัลวอลเล็ต"
"จุลพันธ์" โต้ภูมิใจไทย ปราศรัยเลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษ โจมตีรัฐบาลหาเงินทอนจาก"ดิจิทัลวอลเล็ต" แจง อดีต รมว.มท.รับรองคำของบฯท้องถิ่นกระจุกตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 15 ก.ค. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยปราศรัยในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เพื่อโจมตีรัฐบาลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทไปเป็นโครงการก่อสร้างเพื่อหาเงินทอนว่า เป็นการกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง เลื่อนลอย ไร้หลักฐาน และอาจเข้าข่ายเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ส่งผลให้ผู้สมัครฝ่ายรัฐบาลเสียคะแนนโดยไม่เป็นธรรม
นายจุลพันธ์ ระบุว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีจุดประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว 2 รอบ และเมื่อเกิดกรณีกำแพงภาษีสหรัฐฯ ซึ่งสร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจทั้งโลก รัฐบาลจึงพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยยังคงไว้ซึ่งจุดประสงค์เดิมคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องนี้ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานต่างๆ และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วม ครม. ในขณะนั้นเห็นชอบด้วย แต่วันนี้ความแค้นบังตาหรือไม่ จึงโจมตีป้ายสีให้เสียหาย
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การพัฒนาแหล่งน้ำและถนนหนทาง ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ยังเป็นการปรับปรุงพื้นฐานที่สำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
"หากจะมีสิ่งใดที่ควรถูกตั้งคำถาม น่าจะเป็นความผิดปกติของการจัดสรรงบประมาณในโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในบางพื้นที่ เพราะคำของบประมาณที่มีอดีต รมว. มหาดไทย ลงนามรับรองในขณะนั้น กลับไม่สอดคล้องกันกับตัวเลขที่สำนักงบประมาณมี อีกทั้งยังพบความกระจุกตัวของงบประมาณในพื้นที่ของพรรคการเมืองที่ทุกคนรู้ว่าเป็นพรรคไหนอย่างผิดสังเกต และบางท้องถิ่นมีคำของบประมาณสูงถึง 80–100 ล้านบาท ในขณะที่พื้นที่อีกจำนวนมากกลับไม่ได้รับเลย หรือได้รับเพียงเล็กน้อย" นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือ เมื่อคณะอนุกรรมการคัดกรองพิจารณาโครงการที่ผ่านเข้ามา พบว่ามีท้องถิ่นจำนวนมากขอจัดซื้อ ‘ตู้กดน้ำ’ ราคาต่อหน่วยสูงถึงเกือบ 500,000 บาท รวมทั้งสิ้นกว่าหมื่นล้านบาทมีการเสนอเข้ามาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ปกติ คณะอนุกรรมการที่รับผิดชอบจึงมีความเห็นตรงกันว่าต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบเพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นประเด็นเรื่องตู้กดน้ำจึงอาจทำให้ใครบางคนเสียจริตได้
Advertisement
