กว่า 2 เดือน ที่ทาง JKN ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจนสู่ไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ JKN239A ที่ครบ ถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ในวันที่ 1 กันยายน 2566 จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยกว่า 609 ล้านบาทนั้น สู่หนทางการแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยการจับมือกับ TOPNEWS เสริมความแข็งแกร่งด้านการนำเสนอข่าวสาร
แต่ปัญหาการขาดสภาพคล่องยังไม่จบเมื่อยังมีหุ้นกู้อีก 6 ชุดที่จะทยอยครบกำหนดในปีหน้า และปี 2568 มูลค่ารวม 2,760.2 ล้านบาท จากเดิมที่มีแผนขอเจรจาขอผ่อนผันการชำระหุ้นกู้ที่เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 8 ธ.ค. 2566 นี้
ทางออกสุดท้ายก็มาถึง เมื่อบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งต่อตลาดหลักทรัพแห่งประเทศไทยว่า ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา
โดยสาระสำคัญของคำร้องฟื้นฟูกิจการ คือ
- บริษัทในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
- บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เป็นผู้ทำแผน
- แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการเบื้องต้น ดังนี้
- การปรับโครงสร้างกิจการ และโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับสมมติฐานทางการเงินและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของกิจการในส่วนของเงินทุนหมุนเวียน เพื่อแก้ไขสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท และการปรับโครงสร้างภายในองค์กร
- การขยายระยะเวลาชำระหนี้ การผ่อนผันในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายรับจากการประกอบกิจการ และนำมาจัดสรรชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้อย่างครบถ้วน และบริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้
- การได้รับเงินสนับสนุนทางการเงินจากแหล่งเงินทุน โดยได้รับจากผู้ลงทุนรายใหม่ หรือสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการหมุนเวียนในกิจการของบริษัท
- การจัดหาแนวทางการดำเนินการขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ หรือก่อให้เกิดรายได้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการทรัพย์สินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
- การจัดเตรียมแผนงาน และกลยุทธ์ในการบริหารสภาพคล่องของบริษัท และการปรับปรุงระบบโครงสร้างภายในองค์กร และการพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
JKN วอนขอทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการฟื้นฟูกิจการ
โดย JKN มองว่าการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทจช่วยให้บริษัทแก้ไขปัญหาสภาพคล้องของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม และบริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และเพื่อสร้างผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคต
ภายหลังจากได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แล้ว ทาง JKN ได้ทำหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ สถาบันทางการเงิน คู่ค้า เจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และเสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย JKN ชี้แจงว่า การดำเนินธุรกิจของ JKN ได้อาศัยแหล่งเงินทุนควบคู่ไปกับการออกหุ้นกู้ และต้นทุนของหุ้นกู้ได้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี จนทำให้ JKN ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน และได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการขอผ่อนผันการชำระหนี้ต่างๆ
จนสุดท้าย JKN เห็นว่าวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ คือ การฟื้นฟูกิจการเพราะเชื่อว่าหากได้มีการแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยการฟื้นฟูกิจการ โดยได้รับความร่วมมือกับเจ้าหนี้และบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม JKN ยังเชื่อมั่นว่า ในฐานะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจด้านลิขสิทธิ์และมีศักยภาพในการประกอบธุรกิจ ย่อมสามารถวางแผนการดำเนินงานธุรกิจที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนผู้บริโภคทั่วไปเพื่อที่จะพัฒนาสินทรัพย์ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังสามารถดำเนินโครงการใหม่ ๆ ที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่จะสามารถนำมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายในจำนวนที่มากขึ้นต่อไปได้ ตลอดจนบริษัทจะสามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคต และจะทำให้เจ้าหนี้ทั้งหลายได้รับชำระหนี้มากกว่าในกรณีที่กิจการของบริษัทต้องล้มละลาย
พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ คุณเอกชัย หมายเลขโทรศัพท์ 093-816-9085 หรือ คุณพุฒิกฤษณ์ หมายเลขโทรศัพท์ 093-816-9096 หรือ คุณสุพรรณี หมายเลขโทรศัพท์ 093-816-9098
เปิดหุ้นกู้ 6 รุ่น มูลค่า 2,760.2 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN243A ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 จำนวน 300 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN246A ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 จำนวน 578.60 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN240A ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 จำนวน 400 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN24NA ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 จำนวน 800 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN252A ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 จำนวน 525 ล้านบาท
- หุ้นกู้ JKN255A ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 จำนวน 156.60 ล้านบาท
ส่องผลประกอบการ 6 เดือนแรกปีนี้
- รายได้รวม 1,500.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.86% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
- กำไรสุทธิ 121.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.24% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
- สินทรัพย์รวม 12,161.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.36% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
- หนี้สินรวม 7,398.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.34% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
- อัตราส่วนสภาพคล่อง อยู่ที่ 0.67 เท่า
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.58 เท่า
ราคาหุ้น JKN หลังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ขอยื่นฟื้นฟูกิจการปรับลดลงทันที อยู่ที่ 0.77 บาท/หุ้น ลดลง 29.36%
ธุรกิจของ JKN มีทั้งให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ธุรกิจบริการโฆษณา ธุรกิจขายผลิตภัณฑ์ ธุรกิจการขายและบริการจัดการลิขสิทธิ์ ย่อมต้องมีแหล่งเงินทุนที่ระยะยาว แม้ว่าธุรกิจบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาลจะมีการบันทึกรายได้รับล่วงหน้าก็ตามที แต่ในแง่ของการบริหารในธุรกิจนี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วยเช่นกัน เห็นได้จากมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้นถึง 164.29% อยู่ที่ 286.73 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าที่ปรึกษา แต่เนื่องด้วยเป็นช่วงเริ่มต้นการทำธุรกิจจึงได้มีการจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น ทีมที่ปรึกษาในการดูแลเรื่องสัญญาต่างๆ ที่ปรึกษาระบบการทำงาน
เมื่อแหล่งเงินทุนเป็นระยะสั้นอย่างหุ้นกู้ เพียง 1-2 ปี กับการเริ่มมีธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริม ส่งผลให้รายได้กับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะเงินชำระหนี้หุ้นกู้ที่ต้องจ่ายตามกำหนดเวลาไม่สัมพันธ์กัน ทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องอย่างที่เป็นอยู่ ทำให้หนทางที่แก้ปัญหาที่ดีที่สุดของ JKN คือ ขอยื่นฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลางในที่สุด