Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ใครได้ ใครเสีย? สภาคองเกรสผ่านกม. ลดภาษี-เพิ่มงบกลาโหม ทรัมป์สุดปลื้ม
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ใครได้ ใครเสีย? สภาคองเกรสผ่านกม. ลดภาษี-เพิ่มงบกลาโหม ทรัมป์สุดปลื้ม

4 ก.ค. 68
12:59 น.
แชร์

รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและเพิ่มงบกลาโหมสหรัฐฯ หลังสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (3 ก.ค. 68) และได้รับการอนุมัติในวุฒิสภาเมื่อวันอังคารด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 49 นับว่าเป็นการผ่านร่างกฎหมายที่คะแนนฉิวเฉียด และชี้ให้เห็นว่ากฎหมายดังกล่าวยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แน่นอนว่า ส.ส. พรรคเดโมแครตทั้งหมดต่างลงมติไม่เห็นด้วย 212 เสียง แต่ในฝั่งของรีพับลิกันเอง ก็มี ส.ส. 2 เสียงที่โหวตสวนไม่รับด้วย นั่นก็คือ ส.ส. โธมัส แมสซี จากรัฐเคนทักกี ที่เหตุผลว่าค่อนข้างกังวลกับหนี้สาธารณะและการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางลบต่อชาวอเมริกันทุกคนผ่านภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และ ส.ส. ไบรเอน ฟิตซ์แพททริค จากรัฐเพนซิลเวเนีย ไม่เห็นด้วยกับการตัดลดงบประมาณในโครงการ Medicaid ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชุมชนในเขตเลือกตั้งของเขา

กฎหมายที่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างนี้มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "One Big Beautiful Bill Act" หรือแปลเป็นไทยว่า "กฎหมายฉบับเดียวที่ยิ่งใหญ่และงดงาม" กฎหมายฉบับนี้ถูกผลักดันโดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เพราะต้องการทำตามมาตรการดหย่อนภาษีและการเพิ่มงบประมาณกลาโหม ซึ่งเขาหาเสียงก่อนชนะเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เขาเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายนี้อย่างจริงจัง แม้ว่าสำนักงานงบประมาณรัฐสภาประมาณการว่าอาจทำให้ขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ทรัมป์ได้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขา เช่น Truth Social เพื่อสื่อสารกับผู้สนับสนุนและกดดันสภาให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ให้ทันเส้นตายวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา โดยมองว่า การผ่านกฎหมายนี้จะเป็น "การประกาศอิสรภาพจากการถดถอยของชาติ" นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังได้เผยแพร่วิดีโอที่มีผู้คนจากหลากหลายอาชีพ เช่น เกษตรกร นักดับเพลิง และพนักงานขับรถ DoorDash ออกมาให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ โดยอ้างถึงประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น มาตรการภาษีที่ดีขึ้นและการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน

ทรัมป์ฉลอง เตรียมประกาศใช้วันชาติ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เฉลิมฉลองการผ่านร่างกฎหมายภายในประเทศบนเวทีในเมืองเดส์โมนส์ รัฐไอโอวา โดยถือเป็น “ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่” สำหรับสหรัฐฯ และยกย่องการลดหย่อนภาษีและเงินทุนกลาโหมเพื่อความปลอดภัยชายแดน เขากล่าวว่า “ไม่มีของขวัญสำหรับวันชาติใด ที่จะดีไปกว่าชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สหรัฐฯ ได้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เมื่อรัฐสภาผ่านร่างกฎหมาย Make America Great Again ที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังโจมตีพรรคเดโมแครตที่ลงมติเอกฉันท์ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของเขา และปลุกระดมให้ประชาชนผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตหันมาเลือกผู้แทนจากรีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า โดยระบุว่า “ไม่มีพรรคเดโมแครตคนใดลงคะแนนเสียงให้เราเลย และผมคิดว่าเราใช้โอกาสนี้ในการหาเสียงเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะเราต้องเอาชนะพวกเขาให้ได้”... “จากสิ่งทั้งหมดที่เราให้ไป พวกเขาไม่ลงคะแนนเสียงเพียงเพราะพวกเขาเกลียดทรัมป์เท่านั้น แต่ผมก็เกลียดพวกเขาเหมือนกัน มทนพวกเขาไม่ได้ เพราะผมเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขาเกลียดประเทศของเรา”

สื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามร่างกฎหมายนโยบายภายในประเทศฉบับใหญ่ในวันที่ 4 กรฏาคม เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวประกาศระหว่างการแถลงข่าวไม่นานหลังจากร่างกฎหมายผ่าน ระบุว่า “ร่างกฎหมาย ‘ใหญ่และงดงาม’ ฉบับหนึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และจะอยู่ที่โต๊ะของประธานาธิบดีเพื่อลงนามในพิธีลงนามที่ยิ่งใหญ่และสวยงามในวันพรุ่งนี้ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 4 กรกฎาคม เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีเคยพูดและหวังไว้เสมอ

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ มีกำหนดเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกาที่จัดขึ้น 4 กรกฎาคม และงานปิกนิกครอบครัวทหารที่สนามหญ้าด้านใต้ของทำเนียบขาว ในเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์นี้ ตามรายงานของสำนักงานสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ระบุว่า จะมีเครื่องบินทิ้งระเบิด F-22, F-35 และ B-2 บินผ่านในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฉลองวันชาติในปีนี้

กฎหมายสุดยิ่งใหญ่ ใครได้ ใครเสีย?

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สัญญาว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นกฎหมายที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดฉบับหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา โดยอ้างว่าจะทำให้แรงงานรวมถึงภาคอุตสาหกรรมบางส่วนดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบหนักกว่าเดิม CNN ได้สรุปรายชื่ออุตสาหกรรมไว้ดังนี้

  • ผลกระทบเชิงบวก

บริษัทต่าง ๆ ในอเมริกา: บริษัทต่าง ๆ ต่างคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายที่กำหนดให้ลดหย่อนภาษีภายใต้พระราชบัญญัติลดหย่อนภาษีและการจ้างงานปี 2017 (Tax Cuts and Jobs Act of 2017 หรือ TCJA) ได้อย่างถาวร กฎหมายดังกล่าวจะอนุญาตให้บริษัทต่างๆ กลับมาได้รับการลดหย่อนค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาได้อีกครั้ง

ผู้ผลิต: ผู้ผลิตรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ร่างกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ หากร่างกฎหมายดังกล่าวประกาศใช้ ธุรกิจต่างๆ  จะได้รับอนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ได้เต็มจำนวนและทันที โดยปกติแล้ว เมื่อบริษัทลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น อาคาร โรงงาน หรือเครื่องจักร บริษัทจะไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดในคราวเดียวได้ แต่จะต้องทยอยหักค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์นั้นไปตลอดอายุการใช้งานที่คาดการณ์ไว้ (เช่น 20 ปี 30 ปี หรือมากกว่านั้นสำหรับอาคาร) ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์ทางภาษีเพียงเล็กน้อยในแต่ละปี แต่ภายใต้มาตรการนี้ ผู้ผลิตสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ทันที (Full Expensing) นับเป็นการลดภาระ เพิ่มกระแสเงินสด และกระตุ้นการลงทุน

ชาวอเมริกันที่มีรายได้สูง: รายได้สุทธิของผู้ที่มีรายได้สูงสุด 20% ของชาวอเมริกันทั้งหมด จะได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี และจะมีรายได้กลับมาเพิ่มขึ้นราว 13,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี หลังจากหักภาษีตามโครงสร้างใหม่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่ารายได้ของครัวเรือนของผู้มีรายได้สูงเหล่านี้ จะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3%

  • ผลกระทบเชิงลบ

ชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อย: ผู้คนจำนวนมากที่มีรายได้น้อยที่สุดจะได้รับผลกระทบในแง่ลบ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้มีการตัดงบประมาณด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของชาติครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ Medicaid หรือระบบรักษาพยาบาลของกลุ่มเปราะบาง และคูปองอาหารสำหรับมีผู้ขาดรายได้ นอกจากนี้ ผู้มีรายได้ต่ำสุดซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 18,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี จะได้รับรายได้หลังหักภาษีและหลังโอนลดลง 165 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 1.1%

โรงพยาบาล: โรงพยาบาลน่าจะไม่พอใจกับข้อกำหนดด้านการดูแลสุขภาพตามร่างกฎหมาย ซึ่งจะทำให้การสนับสนุนที่ได้รับจากรัฐในการดูแลผู้รับสิทธิ Medicaid ลดลง และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลที่ไม่ได้รับการชดเชยมากขึ้นสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ไม่ได้ทำประกัน

ริค พอลแลค ซีอีโอของ American Hospital Association กล่าวว่า "ผลที่ตามมาในชีวิตจริงของการตัดงบประมาณ Medicaid มูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการตัดงบประมาณครั้งใหญ่ที่สุดที่รัฐสภาเคยเสนอมา จะส่งผลให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อระบบดูแลสุขภาพของเรา ส่งผลให้ชาวอเมริกันทุกคนเข้าถึงการรักษาได้น้อยลง และส่งผลกระทบต่อความสามารถของโรงพยาบาลและระบบสุขภาพในการดูแลผู้ป่วยที่มีความเปราะบางที่สุดของเราอย่างรุนแรง"

ขาดดุล: ตามข้อมูลของสำนักงานงบประมาณแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับวุฒิสภาจะทำให้ขาดดุลเพิ่มขึ้นประมาณ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษหน้า  การเพิ่มหนี้เป็นล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯมีความเสี่ยงที่จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่แล้วสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อรถยนต์หรือบ้าน และธุรกิจต่างๆ จะต้องกู้เงินเพื่อขยายกิจการ

พลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า: วุฒิสภาได้ยกเลิกภาษีสรรพสามิตสำหรับพลังงานลมและแสงอาทิตย์ในนาทีสุดท้าย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า จะเป็น"ตัวทำลาย" อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายของวุฒิสภาจะยังคงเพิกถอนแรงจูงใจทางภาษีสำหรับโครงการพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ภายในปี 2570 และกำหนดข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับผู้พัฒนาในการเรียกร้องแรงจูงใจเหล่านี้

American Clean Power Association ประณามกฎหมายดังกล่าวว่าเป็น "การก้าวถอยหลังของนโยบายพลังงานของอเมริกา" ซึ่งจะทำให้ผู้คนต้องเลิกจ้างคนงานและเพิ่มค่าไฟฟ้า ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบหนักขึ้นเนื่องจากร่างกฎหมายของพรรครีพับลิกันจะยุติเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 7,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนกันยายน ก่อนหน้านี้ เครดิตภาษีดังกล่าวมีกำหนดจะสิ้นสุดในปี 2032 ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ดีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์


แชร์
ใครได้ ใครเสีย? สภาคองเกรสผ่านกม. ลดภาษี-เพิ่มงบกลาโหม ทรัมป์สุดปลื้ม