เจาะลึก ธุรกิจร้านสะดวกซัก ธุรกิจโตเร็วกับเม็ดเงินกว่า 10,000 ล้านบาท

เจาะลึกธุรกิจ ร้านสะดวกซัก  ธุรกิจที่โตเร็วกับเม็ดเงินกว่า 10,000 ล้านบาท

ร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยในปี 2566 มีจำนวนร้านเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,000 ร้าน จากปี 2563 ที่มีประมาณ 2,000 ร้าน  ปัจจุบันมีแบรนด์แฟรนไชส์สะดวกซักในประเทศไทยมากกว่า 40-50 แบรนด์ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ  ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซักเติบโตสูง มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หันมาใช้บริการซักผ้านอกบ้านมากขึ้น เนื่องจากต้องการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย  ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ร้านสะดวกซักสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก  มีเม็ดเงินในระบบเท่าไร

จากข้อมูลจาก อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของร้านสะดวกซักในประเทศไทยในปี 2566 คาดว่าจะพุ่งไปแตะที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า แฟรนไชส์ ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง เป็นธุรกิจที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจนี้ในประเทศไทย

ธุรกิจร้านสะดวกซักยังเป็น Blue Ocean 

ธุรกิจร้านสะดวกซัก แม้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังมีสาขาอยู่เพียงประมาณ 3,500-4,000 สาขาเท่านั้น เทียบกับอัตราสัดส่วนผู้มาใช้บริการเฉลี่ยอยู่ประมาณ 500 สาขาต่อคนต่อเดือน แปลว่า ยังมีสัดส่วนแค่ประมาณ 2% กว่า ๆ ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ นั่นหมายความว่า ธุรกิจร้านสะดวกซัก ยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก มีพื้นที่อีกมากมายในประเทศที่ยังไม่เคยมีร้านสะดวกซักมาก่อน จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจนี้

ข้อดีของธุรกิจร้านสะดวกซัก

• ลงทุนไม่สูง เริ่มต้นเพียงหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท
• คืนทุนไว เฉลี่ยประมาณ 2-4 ปี
• ทำธุรกิจได้ 24 ชั่วโมง
• ไม่ต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ลงทุนครั้งเดียว สร้างรายได้เป็น 100,000 บาทต่อเดือน

จากข้อมูลของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ในประเทศไทย พบว่า แฟรนไชส์บางแบรนด์สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 - 100,000 บาทต่อเดือน หากร้านตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีจำนวนเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าที่เพียงพอ ก็สามารถมีรายได้สูงถึง 100,000 บาทต่อเดือนได้ โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 20-30% ของรายได้

ตัวอย่างการคำนวณกำไรของแฟรนไชส์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง

หากปริมาณการใช้ของลูกค้า 200 ครั้งต่อวัน  -  ราคาค่าบริการ 20 บาทต่อครั้ง  -  ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 10,000 บาทต่อเดือน

• รายได้ = 200 ครั้งต่อวัน x 20 บาทต่อครั้ง = 4,000 บาทต่อวัน
• รายได้ต่อเดือน = 4,000 บาทต่อวัน x 30 วัน = 120,000 บาท
• กำไรสุทธิ = 120,000 บาท - 10,000 บาท = 110,000 บาท

หัวใจสำคัญในการลงทุน ธุรกิจ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก

1.ทำเลที่ตั้งดีมีชัยแน่นอน หากเลือกโลเคชั่นที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกในการทำธุรกิจร้านสะดวกซัก โดยทั่วไปแล้วทำเลที่เหมาะสมในการทำร้านสะดวกซักได้แก่

• มหาวิทยาลัย: ลูกค้ามีจำนวนมาก แต่จำนวนลูกค้าอาจลดลงในช่วงปิดเทอม
• คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ และ ชุมชน หมู่บ้าน: จำนวนลูกค้ามีจำนวนคงที่ แต่มีโอกาสที่จะเจอคู่แข่งเปิดตามได้ง่าย

นอกจากนี้ การเลือกโลเคชั่นที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เช่น พื้นที่จอดรถ ที่นั่งรอระหว่างรอซักผ้าอบผ้า ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเช่นกัน

2.เลือกประเภทของเครื่องและจำนวนเครื่องซักผ้า

การเลือกประเภทของเครื่องให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วประเภทเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีดังนี้

• เครื่องซักผ้าฝาบน: เหมาะสำหรับซักผ้าทั่วไป
• เครื่องซักผ้าฝาหน้า: เหมาะสำหรับซักผ้าเนื้อละเอียด
• เครื่องอบผ้า: เหมาะสำหรับอบผ้าให้แห้งอย่างรวดเร็ว

ผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงประเภทผ้าที่ต้องการให้บริการเป็นหลัก เพื่อเลือกประเภทของเครื่องที่เหมาะสมที่สุด และจำนวนเครื่องซักผ้า ร้านที่มีเครื่องซักผ้าจำนวนมาก จะทำให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น แต่ก็ต้องคำนวนดูว่าพื้นที่บริเวณนั้นคนพลุกพล่านขนาดไหน

3.ค่าบริการ ที่สมเหตุสมผล 

หากร้านมีการ กำหนดราคาที่สมเหตุสมผลจะทำให้ผู้ใช้บริการหันมาใช้บริการร้านมากขึ้นและไจะกระตุ้นให้เกิดการใช้งานซ้ำ เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าค่าบริการสมเหตุสมผล ลูกค้าก็อาจกลับมาใช้บริการร้านอีกครั้งในอนาคต

กำไรของแฟรนไชส์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง อาจสูงกว่าหรือต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ข้างต้น ดังนั้นควรทำการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า และการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ร้านให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นหากผู้ประกอบสนใจ ควรทำการควรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถคาดการณ์กำไรของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ และกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่เหมาะสม

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนธุรกิจร้านสะดวกซัก และ ระยะเวลาคืนทุน

ร้านสะดวกซัก เป็นร้านซักอบรีดแบบอัตโนมัติที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถซักผ้าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยการลงทุนเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาท - 3.5 ล้าน ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านค้า โดยแบ่งเป็น

1. ค่าแฟรนไชส์ ขึ้นอยู่กับแบรนด์แฟรนไชส์ โดยค่าแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 200,000 - 500,000 บาท
2. ค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ขึ้นอยู่กับจำนวนและรุ่นของเครื่อง โดยเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมมีราคาประมาณ 100,000 - 200,000 บาทต่อเครื่อง และเครื่องอบผ้าอุตสาหกรรมมีราคาประมาณ 150,000 - 300,000 บาทต่อเครื่อง
3. ค่าอุปกรณ์และระบบชำระเงิน ประกอบด้วย เครื่องจ่ายเหรียญ เครื่องจ่ายบัตร ระบบชำระเงิน และอุปกรณ์อื่นๆ โดยค่าอุปกรณ์และระบบชำระเงินมีราคาประมาณ 50,000 - 100,000 บาท
4. ค่าตกแต่งร้าน ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของร้าน โดยค่าตกแต่งร้านมีราคาประมาณ 100,000 - 200,000 บาท
5. ค่าการตลาดและส่งเสริมการขาย เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้แบรนด์ โดยค่าการตลาดและส่งเสริมการขายมีราคาประมาณ 50,000 - 100,000 บาท

ระยะเวลาคืนทุนของแฟรนไชส์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและจำนวนเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า โดยระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 - 3 ปี

 แบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ที่น่าลงทุนในเวลานี้

• WASHENJOY : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ใช้งานและนักลงทุน ด้วยเครื่องซักอบคุณภาพสูงจาก Electrolux Professional และระบบที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 
• Teru Wash & Dry : แฟรนไชส์ที่จะดูแลผู้สนใจลงทุนทุกคนเสมือนเป็นสาขาของตัวเอง จึงพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกทำเล ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย
• Otteri Wash & Dry : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่เปิดให้บริการมากกว่า 800 สาขาทั่วประเทศ แบรนด์ที่แข็งแกร่งมีจำนวนสาขามากที่สุด มีระบบที่ทันสมัย เลือกใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีซักผ้าที่ทันสมัย ผลตอบแทนที่คุ้มค่า สามารถคืนทุนได้ภายใน 2-3 ปี
• 24 WASH :  แฟรนไชส์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีการเลือกใช้เครื่องซักผ้าแบรนด์ Speed Queen นำเข้าจาก USA แข็งแรงทนทาน 
• Wonder Wash : แฟรนไชส์ที่มีดีไซน์น่ารัก Minimal ทันสมัย เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา มาพร้อมเครื่องซักแบบมาตราฐานระดับสากล Primus แบรนด์ดังจากประเทศอเมริกา พร้อมระบบ PANDATA ระบบบริหารจัดการสุดทันสมัย ช่วยให้เจ้าของร้านสามารถติดตามยอดขาย ตรวจสอบสถานะเครื่อง และจัดการปัญหาต่างๆ ได้แบบ Real-time
• Wash&Dry : แฟรนไชส์ร้านนี้ผ่านการรับรองจาก ISO และ CE มาตรฐานสากล ออกแบบและทดสอบเปลี่ยนแปลง Specification จากรุ่น Original เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายแก่นักลงทุนมากที่สุด มาพร้อมบริการหลังการขาย ครบวงจร  และ มีอะไหล่สำรอง 
• Dr.Tiger Laundry : แฟรนเน้นความสะดวกรวดเร็วให้กับลูกค้า ไม่ต้องจ้างพนักงาน ไม่ต้องเฝ้าร้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนธุรกิจแต่ไม่ต้องการเสียเวลาในการดูแลร้าน 
• Browny 24 Hr Wash & Dry : แฟรนไชส์ที่มีจุดเด่นคือความจุของเครื่องซักผ้าเริ่มต้นที่ 12.5 กิโลกรัม ในราคาถูกเพียง 30 บาท เลือกใช้เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมมาตรฐานจากประเทศอิตาลี ใช้เวลารวดเร็วคุณภาพสูง มาพร้อมระบบฆ่าเชื้อด้วย UV Sterilizer 

ธุรกิจร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีที่ทันสมัย และพื้นที่ที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถคาดการณ์กำไรของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ และกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่เหมาะสม

อ้างอิง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย,  alliancelaundry.com,washenjoythai.com, facebook.com/Teruwashdry/,otteriwashdry.com,24washthailand.com,wonderwa,sh.franchise,tanjaiwashdry,drtigerlaundry, brownywash