ธุรกิจการตลาด

สุกี้ตี๋น้อยกำไรเกือบพันล้าน เจมาร์ท ถือหุ้น 1 ปี โกยส่วนแบ่ง 274 ล้าน

13 ก.พ. 67
สุกี้ตี๋น้อยกำไรเกือบพันล้าน เจมาร์ท ถือหุ้น 1 ปี โกยส่วนแบ่ง 274 ล้าน

สุกี้ตี๋น้อย ร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์เจ้าดัง มาแรงไม่มีหลุดโค้ง ล่าสุด เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า สุกี้ตี๋น้อยมีกำไรเกือบ 1,000 ล้านบาทในปี 2566

 

สุกี้ตี๋น้อย กวาดกำไรเกือบพันล้าน เจมาร์ท ถือหุ้น 1 ปี โกยส่วนแบ่ง 274 ล้าน

สุกี้ตี๋น้อยกำไรเกือบพันล้าน เจมาร์ท ถือหุ้น 1 ปี โกยส่วนแบ่ง 274 ล้าน

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2566 ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ “สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจสุกี้บุฟเฟต์ราคาประหยัดที่เจมาร์ทเข้าร่วมลงทุน 30%  กวาดกำไรเกือบ 1,000 ล้านบาท  สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของเจมาร์ทในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพ

เจมาร์ท โกยส่วนแบ่งกำไร 274 ล้านบาท

เพียง 1 ปีหลังจากร่วมลงทุน เจมาร์ทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากสุกี้ตี๋น้อย 274 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของกำไรสุทธิรวม 913 ล้านบาท  ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึง ศักยภาพอันแข็งแกร่ง ของสุกี้ตี๋น้อย ที่เวลานี้เป็นโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นในเวลานี้

55 สาขาทั่วไทย ตอบรับความต้องการของลูกค้า

ปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อยมี 55 สาขาทั่วประเทศ  เพิ่มขึ้น 13 สาขา  จากปี 2565   โดย  มีแผนขยายสาขา  ออกต่างจังหวัด อย่างต่อเนื่อง   ในปี 2566   ได้ขยายสาขา  ไปยังจังหวัด เช่น  ชลบุรี สุพรรณบุรี และนครราชสีมา   ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี   สะท้อนถึงความต้องการ  ของลูกค้าที่ต้องการทานสุกี้ ชาบู ในราคาคุ้มค่า  รสชาติอร่อย   และบริการที่ประทับใจ ตามด้วยแนวคิดการให้บริการที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค 

สำหรับผลประกอบการย้อนหลังของสุกี้ตี๋น้อยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา 

  • ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
  • ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท

 

เจมาร์ท กวาดกำไรจากสุกี้ตี๋น้อย แต่ภาพรวมปี 2566 ยังขาดทุน 447 ล้าน

แม้จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก “สุกี้ตี๋น้อย”  274 ล้านบาท  แต่  บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  ยังมีผลขาดทุนสุทธิ  447 ล้านบาท  ในปี 2566  ลดลงจากปีก่อนหน้า 124.9%  สาเหตุหลัก  มาจาก ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม  และ  ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น  รวม 843 ล้านบาท  หากไม่รวมรายการนี้  บริษัทจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 396 ล้านบาท ผลประกอบการที่ขาดทุน  ส่งผลให้บอร์ดเจมาร์ท  มีมติงดจ่ายเงินปันผล  ปี 2566  ให้แก่ผู้ถือหุ้น  และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567  ในวันที่ 5 เมษายน 2567  ในรูปแบบระบบไฮบริด

ที่มา: รายงานผลประกอบการ Jmart 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT