ธุรกิจการตลาด

ถอดสูตรความสำเร็จ ก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์ และ สุกี้ตี๋น้อย กำไรโต 300%

3 มิ.ย. 66
ถอดสูตรความสำเร็จ ก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์ และ สุกี้ตี๋น้อย กำไรโต 300%

ธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมของคนไทย แต่ก็มีผู้ประกอบการไม่น้อยที่อยู่ไม่รอดโดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงโควิด 19 เป็นต้นมา ทีมงาน SPOTLIGHT  พามาดู 2 ร้านอาหารดัง คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือทอง สมิทธ์ และ สุกี้ตี๋น้อย ที่จะว่าไปแล้วทั้งคู่ก็เปิดให้บริการมาก่อนโควิดไม่นาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายเจ้าของกิจการไม่น้อยหากเปิดร้านมาได้ราวๆ 1-2ปี แล้วต้องเจอกับโควิด 19 ระบาด ในวันที่ล็อคดาวน์ และมาตรการห้ามนั่งทานในร้านอาหาร แต่ทั้ง 2 ร้านหารที่ว่านี้ยังคงรักษาการเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง  แถมผลประกอบ การล่าสุดในปี 2565 ยังทำไรโตเฉียด 300 % อีกด้วย ไปรู้จักที่มาที่ไป ของ 2 ร้านอาหารชื่อดังกันดีกว่า  

587930

ก๋วยเตี๋ยวเรือ ทองสมิทธ์ ชามละ 200 บาท แต่ยอดขายกว่า700 ล้านบาท 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ ทองสมิทธ์  เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ทองสมิทธิ์ สยาม จำกัด มีผู้ร่วมก่อตั้งคือ  คุณกานต์ กิตติเวช  ,คุณโรจนินทร์ อรรถยุกติ ,คุณอินทิรา แดงจำรูญ และ  คุณอัจฉรา บุรารักษ์ หรือคุณปลา เจ้าของธุรกิจร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ แต่คนส่วนใหญ่จดจำคุณปลาจากเจ้าของร้านไอศครีม Iberry นั่นเอง  

ก๋วยเตี๋ยวเรือ ทองสมิทธ์ พิเศษอย่างไร? หลายท่านอาจจะเคยได้ลิ้มลองกันมาบ้างแล้ว ก๋วยเรือทั้งหมู และเนื้อ ที่ชูจุดขายด้วยรสชาติเข้มเข้น กลมกล่อม พิเศษด้วยวัตถุดิบคุณภาพเรียกว่า ทั้งหมู ทั้งเนื้อ อัดแน่น คัดสรรมาอย่างดี ทำให้ราคาขายของ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ทองสมิทธ์  เริ่มตั้งแต่ 139 บาท ไปจนถึง ราคาสูงสุดเกินชามละ 500 บาท 

ก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์

แม้จะถูกมองว่า ราคาสูงมาก หากเทียบกับ ราคาก๋วยเตี๋ยวเรือ ทั่วไปที่มีอยู่ในบ้านเราแต่การจับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คือ ลูกค้ามีกำลังซื้อ คนเมือง  ดูได้จากทำเลที่ตั้งของร้าน เริ่มจาก เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และกระจายไปยังศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 13 สาขาเฉพาะกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ผลประกอบการย้อนหลังที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง  ทำให้บอกได้ว่า กล้าขายแพงก็มีคนซื้อและยังขายดีกว่าเดิมในทุกๆปี อีกด้วย 

ปี 2562  รายได้ 153   กำไร 34.6  +3,076%
ปี 2563  รายได้ 286   กำไร 38.7  +12.1%
ปี 2564   รายได้ 365   กำไร 41.6  +7.47%
ปี 2565  รายได้ 704   กำไร 161  +288.58%

สำหรับคุณปลา อัจฉรา บุรารักษ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง บ.ทองสมิทธิ์ สยาม จำกัด ปัจจุบันเธอมีร้านอาหารในดูแลอยู่ประมาณ 13 ร้าน  โดยในกลุ่ม iberry Group ตัวอย่างเช่น  มีร้านไอศรีม ไอเบอร์รี่ กับข้าวกับปลา รสนิยม โรงสี เป็นต้น ส่วน เดอะ แพลทเทอส์ มหานคร ก็มีร้านใหม่ๆ ยอดฮิตของคนในเมืองอีกหลายร้าน เช่น FRAN’ S ,อัน เกิม อัน ก๋า ร้านอาหารเวียดนาม  และ ที่สร้างเสียงฮือฮา คือคุณปลา เตรียมเปิดร้านหมูกระทะ ชื่อว่า “ชิ้นโบแดง” ในวันที่ 12 มิถุนายน 66 โดยเปิดแห่งแรกที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 6 ก็คาดว่า น่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า จึงถือว่า คุณปลา เป็นหนึ่งในนักธุรกิจหญิง ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ด้วยการสร้างแบรนด์ ของตัวเองให้ติดตลาด และมีความชัดเจนในแง่ของลูกค้า และประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง

สุกี้ตี๋น้อย รายได้เฉียด 4,000 ล้านบาท เตรียมเข้าตลาดหุ้น 

อีกหนึ่งสาวเก่ง ที่ทำให้หลายร้านอาหารอยากได้เป็นต้นแบบถอดสูตรความสำเร็จคือ คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช  เรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นทำธุรกิจในวัยแค่ 25 ปีเท่านั้น โดยร้านสุกี้ตี๋น้อยก่อตั้งในปี 2562  ใช้เวลาไม่ถึง 4 ปี ปัจจุบันรายได้ของสุกี้ตี๋น้อยทะยานไปไกลถึง 3,976 ล้านบาท ในปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 591 ล้านบาทขยายตัวจากปี 2564 ถึง +299.65%

ปี 2562 รายได้ 499 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไรสุทธิ 591 ล้านบาท

จุดขายของสุกี้ตี๋น้อยคือ สุกี้บุฟเฟต์ ราคา 219 บาท ในอดีตช่วงเปิดร้านใหม่ ราคาสุกี้บุฟเฟต์ อยู่ที่ 199 บาท เป็นร้านสุกี้ที่สาขาส่วนใหญ่ Stand alone มีที่จอดรถ และเปิดให้บริการ 12.00 - 05.00 และเรามักเห็นคิวยาวเหยียดเกือบทุกสาขา เพราะสิ่งเหล่านี้คือ จุดแตกต่างของสุกี้ตี๋น้อย กับ สุกี้ที่มีอยู่ในตลาดประเทศไทยปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่าในราคาที่เอื้อมถึงได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่สุกี้ตี๋น้อยปัจจุบันขยายมาเป็น 46 แห่ง และยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างจังหวัด

สุกี้ตี๋น้อย

การเติบโตของสุกี้ตี๋น้อยทำให้เข้าตาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง JMART ที่เข้ามาถือหุ้นในสุกี้ตี๋น้อยในสัดส่วน 30% จำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นเงินลงทุนราว 1,200 ล้านบาท นั่นทำให้กิจการของสุกี้ตี๋น้อยจะมีมูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านบาท สุกี้ตี๋น้อย มีแผนจะยื่นไฟลิ่ง ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ปลายไตรมาส 3 หรือ ต้นไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ราวไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี 2567 ซึ่งก็เป็นผลพวงจากการที JMART ได้เข้ามาถือหุ้น 

คุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เคยให้สัมภาษณ์ในช่วงแรกของการเข้าลงทุนกับบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (ชื่อบริษัทของสุกี้ตี๋น้อย) มีเป้าหมายนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 2-3 ปีอยู่แล้ว และภายหลังจากการลงทุนทาง JMART ก็จะติดอาวุธเทคโนโลยีจาก JMART Group รวมถึงการ Synergy สร้างการเติบโตแบบ J-Curve ไปด้วยกันกับกลุ่มบริษัทเจมาร์ทอีกด้วย ดังนั้น เราคงได้เห็นร้านสุกี้ตี๋น้อย กลายเป็นอีกหนึ่งร้านสุกี้ ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย นอกเหนือจาก MK ที่อยู่ในตลาดหุ้นก่อนแล้ว 

 

advertisement

SPOTLIGHT