ธุรกิจการตลาด

กาแฟพันธุ์ไทย ชูเมนูเด็ด 'ตาลปี๊ดรีเทิร์น' เจาะหนุ่มสาวออฟฟิศ

27 ก.พ. 66
กาแฟพันธุ์ไทย ชูเมนูเด็ด 'ตาลปี๊ดรีเทิร์น' เจาะหนุ่มสาวออฟฟิศ

ตลาดกาแฟบ้านเราถือว่าการแข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะแบรนด์ขนาดใหญ่ที่มีสาขาจำนวนมากตามปั๊มน้ำมัน และย่านธุรกิจกลางเมือง หนึ่งในกลยุทธ์ที่แต่ละแบรนด์นำมาแข่งกัน คือ การออกแบบเมนูใหม่ๆมาเอาใจลูกค้า  เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มความหลากหลายให้ลูกค้า 

และหากพูดถึง “กาแฟพันธุ์ไทย”ภายใต้บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ก็จะนึกถึงวัตถุดิบท้องถิ่นซึ่งถือสิ่งที่บริษัทพยายามสร้างให้เป็นเอกลักษณ์ ล่าสุดปล่อยเมนูเด็ดผุดแคมเปญ “ตาลปี๊ดรีเทิร์น” ซึ่งคือกาแฟที่มีส่วนผสมของ ‘ตาลโตนด’ และ ‘ส้มมะปี๊ด’วัตถุดิบท้องถิ่นกลับมาขายแบบถาวร หลังจากเคยประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้

458463

ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นรสชาติดี หาทานยาก จากแหล่งที่ดีที่สุด

คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ระบุว่า  จุดแข็งของแคมเปญ “ตาลปี๊ดรีเทิร์น” คือวัตถุดิบที่ทางแบรนด์เลือกใช้ ได้แก่ ‘ตาลโตนด’ จากอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกมากที่สุด และคัดสรรเฉพาะต้นตาลที่มีความสูงถึง 15 - 20 เมตร เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ให้รสหวานแหลมที่ต้องเคี่ยวอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

ส่วน‘ส้มมะปี๊ด’ มาจากจังหวัดจันทบุรีผลไม้ประจำถิ่นเมืองจันท์ ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ให้วิตามินสูง รสชาติเปรี้ยว และสดชื่น ผ่านกระบวนการผลิตที่เลือกใช้ส้มจากธรรมชาติ ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่แต่งสีและกลิ่น เพื่อคงเอกลักษณ์และคุณประโยชน์ของวัตถุดิบเอาไว้ให้ได้มากที่สุด



“เรายังคงพัฒนาแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยให้ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภคให้มากที่สุดด้วยเสน่ห์คือการพัฒนาเมนูให้มีความหลากหลาย แปลกใหม่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นรสชาติดีของไทยที่หาทานได้ยากจากแหล่งที่ดีที่สุด เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทย ในการนำมาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มที่มีความเป็นเอกลักษณ์”คุณพิทักษ์  กล่าว

เจาะกลุ่มมตลาดสำนักงานใจกลางเมือง 

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายต้องการเจาะนั้นเป็นกลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศรุ่นใหม่ หรือ First Jobber ที่มีอายุตั้งแต่ 24 - 35 ปี และมีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เพราะมองว่าเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มเป็นประจำ เพื่อต้องการความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าในการทำงาน

โดยกลยุทธ์การตลาดนั้นทางแบรนด์เลือกบุกย่าน CBD (ย่านศูนย์กลางธุรกิจ) ใจกลางเมือง เช่น ย่านสีลม ด้วยการเดินทรูป (Troop) ลงพื้นที่โฆษณาเพื่อแนะนำเมนูและให้คนได้ทดลองชิมเครื่องดื่มเมนูใหม่ รวมถึงกิจกรรมการตลาดแบบออนไลน์ในการใช้ผู้มีอิทธิพล (Influencer) ในการรีวิวผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับกลุ่มลูกค้า เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น 30%

 

สำหรับ 5 เมนูยอดนิยมจากแคมเปญ “ตาลปี๊ดรีเทิร์น” ประกอบไปด้วย 

  • กาแฟโตนด ราคา 70 บาท กาแฟเข้มๆ ผสานความหอมมันจากกะทิ  พร้อมหอมหวานจากตาลโตนด
  • นมสดโตนด ราคา79 บาท หอมหวานลงตัวไปกับนมสด และตาลโตนด เสริมความอร่อยด้วยไข่มุกบุก
  • ชาไทยโตนด ราคา 79 บาท หอมฟุ้งด้วยชาไทยสูตรพิเศษ ผสานความหอมหวานจากตาลโตนด และความหนุบหนับของไข่มุกบุก
  • จี๊ดกาแฟ ราคา 65  บาท จี๊ดแบบเข้มถึงใจ กาแฟผสมส้มมะปี๊ด เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ
  • จี๊ดชาไทย ราคา 65 บาท หอมชาไทยสูตรพิเศษกับส้มมะปี๊ดสุดเปรี้ยวจี๊ด อร่อยสดชื่น

866944

สำหรับกาแฟพันธุ์ไทย มีจำนวนสาขาทั่วประเทศอยู่ที่ 600 แห่ง แบ่งเป็นในปั้ม 70%  นอกปั้ม 30%  ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้าว่าจะขยายเป็น 1,500 สาขา และภายใน 3  ตั้งแต่ปี 2567-2569 จะขยายอีกปีละ 1,000 สาขา นั่นหมายความว่าในปี 2569 กาแฟพันธุ์ไทยจะมีสาขามากถึง 4,500 สาขา นั่นทำให้เห็นว่าสมรภูมิร้านกาแฟในปั้มน้ำมันยังแข่งกันดุเดือดต่อไป

advertisement

SPOTLIGHT