สหรัฐฯ ประกาศกองเรือรบ “ทรัมป์คลาส” ติดทั้งอาวุธนิวเคลียร์-ขีปนาวุธ
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแผนการสร้างเรือรบ “ทรัมป์-คลาส” (Trump-class) ซึ่งเขาอ้างว่าจะใหญ่กว่า, เร็วกว่า, และ “ทรงพลังกว่าเรือแบบเดิมถึง 100 เท่า”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรือใหม่ใหญ่ยักษ์มีขีปนาวุธ-นิวเคลียร์
เขากล่าวว่า เรือรบใหม่จะไม่ได้มีเพียง “ปืนที่ใหญ่ที่สุด” ที่เรือรบสหรัฐฯ เคยมีเท่านั้น แต่ยังจะมีอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธที่ยิงจากทะเลอีกด้วย และเรือลำแรกจะได้ชื่อว่า “USS Defiant”
เว็บไซต์กองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยรายละเอียดของเรือใหม่ลำนี้ กล่าวว่า USS Defiant จะเป็นเรือรบผิวน้ำที่มีพลังทำลายล้างมากที่สุดที่สหรัฐฯ เคยสร้างมา มีความสามารถในการโจมตีศัตรูมากกว่าเรือรุ่นก่อนถึง 80 เท่า
เรือใหม่นี้มีระบบยิงขีปนาวุธแนวดิ่งขนาดใหญ่ (LMVLS) สามารถโจมตีเป้าหมายบนบกจากระยะไกลได้ สามารถปฏิบัติการอย่างอิสระในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน หรือจะบัญชาการเองในฐานะเรือรบผิวน้ำก็ได้ แล้วแต่ภารกิจ สามารถควบคุมล่วงหน้าได้ทั้งแบบมีคนขับและไม่มีคนขับ
เรือทรัมป์คลาสจะเป็นเรือรบประเภทแรกที่ติดตั้งทั้งอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง
ทรัมป์กล่าวว่า โครงการนี้จะขยายกองเรือขึ้นมากถึง 20-25 ลำ และมียังมีการเพิ่มจำนวนเรือรบประเภทอื่น ๆ รวมถึงเรือฟริเกต (Frigate) ที่ลำเล็กกว่าและคล่องแคล่วกว่าอีกด้วย
กองเรือรบใหม่มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเหนือกว่าทางทะเลของสหรัฐฯ และเป็นส่วนหนึ่งในการขยาย “กองเรือทองคำ” (Golden Fleet)
กองเรือทองคำ เร่งสร้างต้านจีน
โครงการกองเรือทองคำเป็นโครงการปรับปรุงศักยภาพกองเรือสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อแข่งขันด้านอำนาจทางทะเลกับจีน กล่าวว่าเพื่อต่อกรกับ “ภัยจากจีน”
ราวปลายเดือนตุลาคม The Wall Street Journal รายงานถึงการหารือกันระหว่างทำเนียบขาวและกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการสร้างกองเรือรบกองใหม่เพื่อแทนที่กองเรือปัจจุบัน โครงการดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า “กองเรือทองคำ” เนื่องจากสีโปรดของประธานาธิบดีคือสีทอง และคำว่า “ทองคำ” (golden) ก็ปรากฎในชื่อนโยบายหลายข้อของเขา อาทิ Golden Dome หรือ Golden Card
Chosun รายงานว่า ทรัมป์มีส่วนร่วมอย่างมากในการดูแลแผนการสร้างและออกแบบกองเรือใหม่ และมีการนัดหมายประชุมหารือกับกองทัพเรือหลายครั้ง
กองเรือใหม่จะมีเรือรบที่ติดอาวุธหนัก แท่นยิงขีปนาวุธ และยังมีเรือรบลำเล็กด้วย ก่อนหน้านี้ ยังมีรายงานว่า ทำเนียบขาวคุยถึงแผนการสร้างเรือรบหุ้มเกราะขนาด 15,000-20,000 ตันที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Hypersonic missile ด้วย
สาเหตุที่สหรัฐฯ เร่งสร้างกองเรือใหม่ที่มีศักยภาพด้านการรบมากเพราะจีนได้สร้างกองเรือรบใหม่ และพัฒนาศักยภาพเรือรบเดิมอย่างรวดเร็ว รัฐมนตรีทบวงการกองทัพเรือ จอห์น ฟีแลนกล่าวถึงความแน่วแน่ของทรัมป์ในการเพิ่มพลังกองทัพเรือ
“ประธานาธิบดีชัดเจนแล้วว่า เราต้องฟื้นฟูแสนยานุภาพทางอุตสาหกรรมทางทะเลของสหรัฐอเมริกา เขาบอกกับผมหลายครั้งว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการทบวงกองทัพเรือ หน้าที่ของผมคือจัดหายุทโธปกรณ์ให้ทหารเรือของเราสามารถเอาชนะการต่อสู้ทางทะเลได้ ด้วยเรือที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา” ฟีแลนกล่าว
จีนเร่งเพิ่มพลังกองทัพเรือ เปิดตัวเรือขนเรื่องบิน “ฝูเจี้ยน”
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จีนเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบนลำใหม่ชื่อ “ฝูเจี้ยน” เปิดตัวโดยประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงเอง และเป็นเรือที่บรรทุกเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดของจีนในขณะนี้
เรือฝูเจี้ยนติดตั้งระบบปล่อยเครื่องบินด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถปล่อยเครื่องบินด้วยความเร็วสูงขึ้นได้ และปล่อยเครื่องบินได้มากถึง 3 แบบ บรรทุกอาวุธและเชื้อเพลิงได้มากขึ้นกว่าเรือบรรทุกอาวุธอีก 2 ลำที่จีนมีอยู่แล้ว (เรือเหลียวหนองและซานตง)
เรือลำนี้คือความก้าวหน้าด้านกองทัพเรือก้าวใหม่สำหรับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกองทัพเรือใหญ่ที่สุดในโลก หากวัดในแง่จำนวนเรือรบ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา Zona Militar ได้เปิดเผยว่า ภาพถ่ายจากดาวเทียม และการวิเคราะห์จากหน่วยข่าวกรอง OSINT ชี้ว่า กองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนอาจกำลังเตรียมการส่งเรือบรรทักเครื่องบินเหลียวหนิงและฝูเจี้ยนปฏิบัติการร่วมกันในมหาสมุทรแปซิฟิก
