ในวันที่ ‘เมือง’ ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประชากรหรือภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้กระจุกตัวอยู่ในโซนพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน หรือ ย่าน CBD ไม่ว่าจะเป็น สีลม วิทยุ ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้พื้นที่เหล่านั้น กลายเป็นพื้นที่ทำเลทองของอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาพุ่งทะยานทะลุฟ้า
นั่นเลยทำให้ ย่านรอบนอกกรุงเทพฯ เริ่มเป็นพื้นที่ที่คนเมืองกระจายตัวออกไปอยู่กันมากขึ้น และหนึ่งในย่านดาวรุ่ง ก็คือ ย่าน‘แจ้งวัฒนะ’ ที่จากอดีตเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพ – หน่วยงานราชการ สู่การเป็น ‘ศูนย์กลางเมืองใหม่’ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของคมนาคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี จนกลายเป็นหนึ่งในย่านเนื้อหอมในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ ‘แจ้งวัฒนะ’ กลายเป็นหนึ่งในทำศักยภาพ รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์ราชการ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสนามบินดอนเมือง รวมทั้งแผนการพัฒนาในเชิงเมืองในระยะยาว ทั้งการผลักดัน Smart City และการลงทุนด้านเทคโนโลยีของภาครัฐและเอกชน
โดยจากข้อมูลของศุภาลัย พบว่า ย่านแจ้งวัฒนะ มีประชากรและโครงการอสังหาริมทรัพย์กระจุกตัวหนาแน่นอยู่ 3 แห่ง นั้นก็คือ
ล่าสุด ศุภาลัย ได้เปิดตัว ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวัฒนะ-หลักสี่ คอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ ในราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท บุกทำเลศักยภาพ “แจ้งวัฒนะ-หลักสี่” เปิดให้ Pre-Salesพร้อมกัน 28-29 มิถุนายน 2568 นี้
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้เผยถึงสาเหตุ ทำไมต้องเป็นแจ้งวัฒนะ เนื่องจาก “แจ้งวัฒนะ-หลักสี่” กำลังกลายเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ (New Urban Hub) ของโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก ถือเป็น หนึ่งในทำเลอนาคตที่มีความโดดเด่นทั้งการเดินทางใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย (สีชมพูและสีแดง) ถนนสายหลัก และทางด่วน อีกทั้งด้านเศรษฐกิจ รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์ราชการ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสนามบินดอนเมือง รวมทั้งแผนการพัฒนาในเชิงเมืองในระยะยาว ทั้งการผลักดัน Smart City และการลงทุนด้านเทคโนโลยีของภาครัฐและเอกชน ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นชีวิตทำงาน (First Jobber) และคนทำงานราชการ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพ
โดย ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวัฒนะ-หลักสี่ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร (ไม่รวมดาดฟ้า) บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ จำนวน 328 ยูนิต ตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยรูปแบบห้องหลากหลาย 1-2 ห้องนอน ขนาด 26-56.5 ตารางเมตร ตอบโจทย์การพักผ่อนในทุกการอยู่อาศัย ทั้ง Lobby, Co-working Space, Relaxing Area, Roof Garden, Sunset Bar, Sky Walk, สระว่ายน้ำระบบเกลือ และ Fitness EV Charger สะดวกยิ่งขึ้นด้วยที่จอดรถรองรับได้มากถึง 40% ของจำนวนยูนิต มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยด้วย Digital Door Lock, Touchless Face Scan ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อเมือง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ และสายสีแดง สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อถนนสายหลัก อาทิ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต และจุดขึ้น-ลงดอนเมืองโทลล์เวย์
เริ่มต้นเพียง 55,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และให้ความมั่นใจในมาตรฐานการก่อสร้าง ตัวอาคารได้รับการออกแบบให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวตามกฎหมายใหม่ (กฎกระทรวงฯ ปี 2564) และเป็นไปตามมาตรฐานด้านวิศวกรรม (มยผ.1301/1302) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมรับประกันโครงสร้างนาน 10 ปี และส่วนควบ 3 ปี
ส่วนการออกแบบ ได้แนวคิด “Nature x Tales on Canvas” ที่ผสานธรรมชาติเข้ากับเรื่องราวของผู้คน ผ่านการจัดวางพื้นที่อย่างลงตัว ด้วยความเชื่อว่าธรรมชาติช่วยสร้างความสงบและสมดุลในชีวิต โครงการจึงเลือกใช้โทนสีอบอุ่นในกลุ่มเอิร์ธโทน เช่น สีดิน สีทราย สีน้ำตาล และสีเขียวธรรมชาติ เพื่อให้บรรยากาศภายในและภายนอกอาคารดูผ่อนคลาย และใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่สีเขียวถูกจัดวางอย่างลงตัว พร้อมการวางผังอาคารรูป C เปิดรับลมธรรมชาติ แสงแดด เพื่อระบายอากาศและประหยัดพลังงานในทุกตำแหน่งห้องพัก อีกทั้งห้องพักยังถูกออกแบบพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ตามความต้องการ Multi-Function Living มากถึง 14 แบบ เช่น ห้องแบบ Open Plan โปร่งโล่ง เชื่อมต่อทุกพื้นที่ ห้องพักที่มีครัวปิดและครัวเปิด ห้องพักที่มีมุมอเนกประสงค์ “Me Corner”