Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รัฐบาลจีนเรียกคุยค่ายEVเตือนอย่าหั่นราคาแข่งกัน หวั่นพังทั้งซัพพลายเชน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

รัฐบาลจีนเรียกคุยค่ายEVเตือนอย่าหั่นราคาแข่งกัน หวั่นพังทั้งซัพพลายเชน

5 มิ.ย. 68
16:06 น.
แชร์

รัฐบาลจีนได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ รวมถึง BYD Co. เข้าร่วมการประชุมที่กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือความกังวลต่อสถานการณ์สงครามราคาที่ทวีความรุนแรงและยืดเยื้อมานาน ตามรายงานจากแหล่งข่าววงใน

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐ และคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ โดยมีผู้บริหารจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 12 รายเข้าร่วม อาทิ Zhejiang Geely Holding Group Co. และ Xiaomi Corp.

แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐได้แจ้งต่อผู้ผลิตให้ “ควบคุมตนเอง” หลีกเลี่ยงการขายสินค้าต่ำกว่าทุนหรือการทำโปรโมชั่นที่ไม่สมเหตุผล พร้อมแสดงความกังวลต่อปัญหา "รถศูนย์ไมล์" และหนี้ค้างชำระที่บริษัทมีต่อซัพพลายเออร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระแสเงินสดในห่วงโซ่อุปทานและกลายเป็นกลไกทางอ้อมในการระดมทุนที่บั่นทอนเสถียรภาพทางการเงินของอุตสาหกรรม

การประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และตลาดในลักษณะนี้ ถือเป็นเรื่องไม่ปกติในบริบทจีน และสะท้อนถึงความกังวลอย่างยิ่งจากภาครัฐถึงผลกระทบของสงครามราคาที่อาจฉุดให้ผู้ประกอบการที่เปราะบางเข้าสู่ภาวะล้มละลาย อย่างไรก็ดี ที่ประชุมยังไม่ได้ออกคำสั่งบังคับหรือมาตรการทางกฎหมายหากบริษัทไม่ปฏิบัติตามคำเตือน

BYD และ Xiaomi ปฏิเสธให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ขณะที่ Geely อ้างอิงคำกล่าวของประธานบริษัท นายหลี่ ซูฝู ที่ยืนยันจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนสงครามราคา และจะเน้นการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและคุณค่าของแบรนด์

รัฐ-สื่อเตือนหนัก หวั่นสงครามราคาลาม ทำภาพลักษณ์ “สินค้าจีน” เสื่อมถอย

ความตึงเครียดล่าสุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีนปะทุขึ้นหลังจาก BYD จุดชนวนด้วยการลดราคารถบางรุ่นลงมากถึง 34% เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม กลายเป็นระลอกคลื่นที่สั่นสะเทือนทั้งซัพพลายเชน และจุดประกายให้รัฐและองค์กรอุตสาหกรรมออกโรงเตือนถึงอันตรายจาก “สงครามราคาที่ไร้ระเบียบ”

แม้ไม่ได้ระบุชื่อ BYD โดยตรง แต่สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนชี้ว่าการกระทำของ “บริษัทหนึ่ง” ได้สร้าง “ความตื่นตระหนกด้านราคา” ที่อาจบ่อนทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรม โดยเตือนว่า “สงครามราคาที่ไม่เป็นระบบจะยิ่งซ้ำเติมการแข่งขันรุนแรง กดดันกำไร และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค”

สื่อกระแสหลักภายใต้การควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทั้งซินหัว, People’s Daily และ CCTV ต่างพร้อมใจกันตีพิมพ์บทความเรียกร้องให้บริษัทยุติการแข่งขันด้านราคาอย่างไร้ขอบเขต พร้อมเตือนว่าหากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไป จะนำไปสู่การผลิตสินค้าถูกแต่คุณภาพต่ำ ซึ่งจะบั่นทอนชื่อเสียง “Made in China” บนเวทีโลก

People’s Daily อ้างอิงคำเตือนจากกระทรวงอุตสาหกรรมว่า “สงครามราคาไม่มีผู้ชนะ และไม่มีอนาคต” พร้อมประกาศเดินหน้าจัดระเบียบการแข่งขันที่ไม่สร้างมูลค่า ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ใช้กฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ การประชุมผู้ผลิต EV ที่รัฐเรียกตัวเข้าหารือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังถือเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ที่ทางการตำหนิภาคอุตสาหกรรมในกรณี “รถศูนย์ไมล์” ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่บริษัทรถยนต์นำรถใหม่ไปขายต่อให้บริษัทไฟแนนซ์หรือเต็นท์รถมือสองเพื่อปั๊มยอดขาย ทั้งที่รถเหล่านั้นยังไม่เคยผ่านการใช้งานจริง

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ก็ได้เรียกผู้ผลิตรถยนต์และแพลตฟอร์มขายรถมือสองเข้าหารือในประเด็นเดียวกัน โดยแสดงความกังวลว่าพฤติกรรมดังกล่าวกำลังบิดเบือนตัวเลขยอดขายจริง และสร้างความสับสนให้กับตลาด

เว่ย เจี้ยนจวิน ประธานบริษัท Great Wall Motor ยืนยันกับ Sina Finance ว่า ปรากฏการณ์ “รถศูนย์ไมล์มือสอง” กำลังพุ่งขึ้น โดยมีผู้ขายราว 3,000–4,000 รายบนแพลตฟอร์มรถใช้แล้วที่เสนอขายรถประเภทนี้ ทั้งที่เพิ่งลงทะเบียนเป็นยอดส่งมอบจากค่ายรถ และเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดระเบียบเพื่อรักษาความโปร่งใสของตลาดยานยนต์จีน

ผู้ผลิตโยนภาระไปยังซัพพลายเออร์ ซ่อนหนี้ผ่านห่วงโซ่อุปทาน

นอกจากนี้ ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ผู้ผลิตหลายรายยังหันไปลดต้นทุนผ่านการต่อรองราคาชิ้นส่วนและยืดเวลาชำระเงินให้แก่ซัพพลายเออร์ BYD เองตกเป็นข่าวเมื่อปลายปี 2024 ว่าขอให้คู่ค้าลดราคาและยอมรับเงื่อนไขที่เข้มงวดมากขึ้น

รายงานจากบริษัทวิเคราะห์การเงิน GMT Research ชี้ว่า หนี้สินสุทธิของ BYD อาจสูงถึง 323,000 ล้านหยวน (ประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ในงบการเงินอย่างเป็นทางการ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2024 BYD แสดงตัวเลขไว้เพียง 27,700 ล้านหยวน โดยระบุว่ามีการชะลอการชำระหนี้และพึ่งพาเงินทุนจากระบบซัพพลายเชนซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็น "หนี้แฝง" เพื่อเลี่ยงการบันทึกในงบการเงิน

นักวิเคราะห์บางรายยังมองว่า การที่ BYD ลดราคาขายรถอาจเป็นเพียงการเปลี่ยนรูปแบบส่วนลดเดิมที่เคยซ่อนอยู่ในโปรแกรม “แลกรถเก่า” มาแสดงให้เห็นตรงในป้ายราคามากขึ้น ซึ่งสะท้อนแนวทางใหม่ในการแข่งขันด้วยราคาแบบเปิดหน้า

แม้ BYD จะครองส่วนแบ่งตลาด EV ในจีนมากกว่า 30% แต่สถานการณ์ก็ยังไม่แน่นอน โดยรายงานจาก Nomura ระบุว่ายอดขายในเดือนล่าสุดของ BYD เติบโตเพียง 14% ลดลงจาก 19% ในเดือนก่อนหน้า พร้อมเตือนว่าศึกใหญ่ยังอยู่ข้างหน้า ตราบใดที่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้ายังไม่เข้าสู่ภาวะควบรวมอย่างชัดเจน หรือเกิดการปล่อยผู้เล่นรายเล็กออกจากสนามแข่งขันอย่างเป็นระบบ

ศึกที่ยังไม่ถึงจุดเดือด: ผู้นำอุตสาหกรรมประเมินอนาคต

He Xiaopeng ซีอีโอของ Xpeng ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า “การแข่งขันยังไม่ถึงจุดพีค” และคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าจะรุนแรงยิ่งขึ้น โดยบริษัทจะไม่แข่งด้านราคา แต่จะชูเทคโนโลยีและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

Xpeng เน้นขายระบบช่วยขับเคลื่อนอัจฉริยะ และมียอดส่งมอบกว่า 30,000 คันต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวรุ่น Max ของ Mona 03 ที่ราคา 129,800 หยวน (18,020 ดอลลาร์) ถูกกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 17%

อย่างไรก็ตาม Xpeng ยังขาดทุนสุทธิประมาณ 90 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เช่นเดียวกับ Nio ที่ขาดทุนหนักถึง 949.6 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกัน

ในอีกด้านหนึ่ง Xiaomi ซึ่งเพิ่งเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้ว ด้วยซีดาน SU7 ที่ตั้งราคาถูกกว่า Tesla Model 3 คาดว่าธุรกิจรถยนต์ของบริษัทจะเริ่มทำกำไรได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และเตรียมเปิดตัว SUV รุ่น YU7 ในฤดูร้อนนี้เพื่อต่อกรกับ Tesla Model Y


แชร์
รัฐบาลจีนเรียกคุยค่ายEVเตือนอย่าหั่นราคาแข่งกัน หวั่นพังทั้งซัพพลายเชน