Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทองหลุด $4,000 อีกรอบ จับตาศาลสหรัฐฯ ฟันภาษีทรัมป์ หากปัดตกทองอาจขึ้น
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทองหลุด $4,000 อีกรอบ จับตาศาลสหรัฐฯ ฟันภาษีทรัมป์ หากปัดตกทองอาจขึ้น

4 พ.ย. 68
15:07 น.
แชร์

ราคาทองคำโลกร่วงลงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน และความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเริ่มลดลง นักลงทุนจึงลดความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ทองคำ ซึ่งไม่มีดอกผล กลายเป็นการลงทุนที่น่าสนใจน้อยลง

ก่อนหน้านี้ แม้เฟดจะลดดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวอย่างระมัดระวังว่าการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม “ยังไม่แน่นอน” หลังคำกล่าวนั้น ความคาดหวังของตลาดต่อการลดดอกเบี้ยรอบต่อไปลดลงจากมากกว่า 90% เหลือเพียงราว 65% ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น และกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง

ณ เวลา 14:21 น. ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นแล้วทั้งหมด 12 ครั้งในวันนี้ โดยทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 61,350 บาท และขายออกที่บาทละ 61,450 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 60,124.56 บาท และขายออกที่บาทละ 62,250 บาท ขณะที่ราคาทองคำสปอตในตลาดโลกอยู่ที่ 3,993 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ทั้งนี้ ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำ (XAU/USD) ยังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่เริ่มก่อตัวตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ซึ่งหมายความว่าฝั่งผู้ซื้อยังคงควบคุมทิศทางโดยรวมได้ แต่ช่วงนี้ตลาดอยู่ในภาวะ “พักฐาน” ราคาขยับอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 3,977-3,999 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น 20 ช่วง (EMA20) ที่เริ่มแบนตัว แสดงถึงการชะลอแรงเคลื่อนไหวของราคา

แท่งเทียนในกราฟช่วงล่าสุดมีลักษณะลำตัวเล็กและเกิดรูปแบบ “Spinning Top” ซึ่งมักสื่อถึงความลังเลของตลาด ดัชนี RSI อยู่ใกล้ระดับ 49 และเริ่มโค้งขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจน หากราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 3,885 ดอลลาร์ได้ ก็อาจกำลังสร้างรูปแบบ “Rising Triangle” หรือสามเหลี่ยมขาขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังสะสมพลังรอการดีดตัว

ในภาพรวม การปิดราคาทองคำเหนือระดับ 4,038 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างมั่นคงจะถือเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายการเคลื่อนไหวต่อไปที่บริเวณ 4,142 และ 4,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทางกลับกัน หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับ 3,886 ดอลลาร์ โครงสร้าง “Higher Low” จะถูกทำลาย และอาจกระตุ้นแรงขายต่อเนื่องลงไปทดสอบระดับ 3,796 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญจากรอบก่อนหน้า

สำหรับนักลงทุนและนักเทรด สิ่งที่ต้องจับตาในระยะสั้นคือถ้อยแถลงเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่เฟดและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเปลี่ยนโทนของตลาดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันวอลุ่มการซื้อขายในช่วงการเบรกระดับสำคัญจะมีความหมายมาก หากราคาทะลุแนวต้านพร้อมปริมาณซื้อเพิ่มขึ้น จะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น แต่หากราคาปิดต่ำกว่าเส้นแนวโน้มหลัก แรงโมเมนตัมอาจพลิกกลับอย่างรวดเร็ว

ทองโลกผันผวนหนัก จับตาศาลฎีกาสหรัฐฯ ชี้ชะตาภาษีทรัมป์

มุมมองจากแม่ทองสุก (MTS) ชี้ว่าภาพรวมราคาทองคำในตลาดโลกยังคงผันผวนอย่างมาก หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 4,030 ดอลลาร์ ก่อนเผชิญแรงขายทำให้ราคาปรับลงมาปิดตลาดที่ 4,001 ดอลลาร์ ส่วนในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้ แรงขายยังคงกดดันต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับ 3,980 ดอลลาร์ โดยมีช่วงความผันผวนราว 40-50 ดอลลาร์ แสดงถึงภาวะไม่แน่นอนในตลาดโลก

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านภาคการผลิตยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนตุลาคม ส่วนดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แตะระดับ 100 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนสัญญาณการฟื้นตัวของค่าเงินสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอยู่ที่ 32.55 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงแข็งค่าของเงินดอลลาร์

ตลาดยังจับตาการพิจารณาคดีสำคัญของศาลฎีกาสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าด้วยความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่ประกาศใช้ในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หากศาลมีคำตัดสินว่ามาตรการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งเสริมแนวโน้มการค้าเสรีมากขึ้น แต่ย่อมกระทบต่อรายได้ภาครัฐและทำให้ขนาดงบดุลรัฐบาลหดตัว ปัจจัยนี้อาจสร้างแรงหนุนต่อราคาทองคำในระยะต่อไป

สำหรับกองทุน SPDR Gold Trust ล่าสุดเข้าซื้อทองคำเพิ่ม 2.58 ตัน ส่งผลให้ยอดถือครองรวมอยู่ที่ 1,041.78 ตัน โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ถือเป็นการซื้อสุทธิ 1.43 ตัน และหากนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ถึงปัจจุบัน กองทุนสะสมการซื้อสุทธิไว้แล้วรวม 168.4 ตัน

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้ม “Sideway Down” สะท้อนว่าโมเมนตัมระยะสั้นยังมีลักษณะเป็นขาลง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานต่อ นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการเคลื่อนไหวของราคา โดยควรเน้นกลยุทธ์เก็งกำไรในกรอบ หรือรอสัญญาณยืนยันแนวโน้มกลับตัวที่ชัดเจน ระยะสั้นประเมินแนวรับไว้ที่ 3,980-3,950 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 4,440-4,460 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำในประเทศมีแนวรับที่ 60,900 บาท และแนวต้านที่ 61,800 บาท

ด้านบทวิเคราะห์จาก YLG Bullion & Futures ระบุว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงสร้างฐานการแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideway) เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่แรงกดดันยังมาจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐซึ่งได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ซัตสึกิ คาตายามะ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ การขาดข้อมูลเศรษฐกิจจากหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต้องรอฟังถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งยังมีมุมมองที่แตกต่างกันต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น การดีดตัวขึ้นยังถูกจำกัดหลังไม่สามารถผ่านระดับ 4,029 ดอลลาร์ได้ ทำให้เกิดแรงขายและราคากลับมาพักตัวอีกครั้ง โดยวันนี้หากแรงขายยังคงอยู่แต่ราคายังยืนเหนือระดับ 3,962-3,955 ดอลลาร์ได้ จะเป็นสัญญาณว่าการพักตัวอาจสิ้นสุดและแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นยังไม่เสียโมเมนตัม แต่หากราคาหลุดระดับดังกล่าว จะสะท้อนว่าการปรับฐานยังไม่จบ

กลยุทธ์การลงทุนจึงควรเน้น “ซื้อเมื่อราคาไม่หลุด 3,955 ดอลลาร์” และหากราคาหลุดแนวนี้ให้ชะลอการซื้อ โดยรอจังหวะใหม่หากไม่หลุดระดับ 3,887 ดอลลาร์ (ตัดขาดทุนหากหลุดระดับนี้) ส่วนฝั่งขายให้ทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 4,058-4,029 ดอลลาร์ และหากทะลุผ่านได้ให้รอขายบริเวณแนวต้านถัดไป


แชร์
ทองหลุด $4,000 อีกรอบ จับตาศาลสหรัฐฯ ฟันภาษีทรัมป์ หากปัดตกทองอาจขึ้น