ครั้งแรกของไทยกับการจับมือระหว่าง “กาแฟพันธุ์ไทย” แบรนด์คาเฟ้สัญชาติไทย และ “กระทิงแดง” แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับตำนาน ส่งแคมเปญ “ดีดศาสตร์” (Energology Drinks) รวมพลังสร้าง 4 เมนูเครื่องดื่มแนวใหม่ ที่ผสานความคิดสร้างสรรค์แบบไทยกับเทรนด์พลังงานแห่งยุค สะท้อน Brand DNA ของทั้งสองแบรนด์ #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ และ #เป้าหมายถึงไวพลังใจไม่มีท้อ
การร่วมมือของสองแบรนด์ที่อยู่คนละเซกเตอร์ ถือเป็นตัวอย่างของการ Co-Branding ที่สามารถสร้าง “ประสบการณ์ใหม่” ให้กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว มองหาความแปลกใหม่ ความสนุก และความมีตัวตนในทุกอย่างที่บริโภค การคอลแลบเช่นนี้จึงไม่เพียงแค่สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังสร้าง "บทสนทนา" กับผู้บริโภคในแบบที่แบรนด์เดี่ยวอาจทำไม่ได้
ทั้ง 4 เมนูดีดศาสตร์ อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Creative Thai Taste นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยผสมผสานระหว่าง Functional กับ Emotional Benefits ตามสไตล์พันธุ์ไทย
เมนูดีดศาสตร์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ และบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2568 - 18 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันมีปัจจัยการขับเคลื่อนการบริโภคมากมาย ส่งผลให้เทรนด์ในตลาดเครื่องดื่มมี Movement ตลอดเวลา ซึ่งเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือ เทรนด์เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มให้พลังงาน เพราะผู้บริโภคต้องการ Energy ควบคู่ไปกับ Benefit ทำให้แบรนด์ต้องไม่หยุดนิ่งในการสร้างแบรนด์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ตลอดเวลา ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันมีความเป็น Independent Generation มากขึ้น ต้องการความแปลกใหม่ เป็นตัวของตัวเอง และมองหาเครื่องดื่มรสชาติที่แตกต่าง บางกลุ่มมีความไม่ได้กินเอาอิ่ม แต่กินเอาคอนเทนต์ แสดงถึงความสำคัญในการหา New Experience และแบ่งปันบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น”
“เพื่อตอกย้ำแบรนด์ไอเดีย #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ไม่หยุดสร้างสรรค์ และเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เราจึงได้จับมือกับ ‘กระทิงแดง’ แบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานของไทย และเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความเป็นไทยสอดคล้องกับตัวตนของพันธุ์ไทย มาสร้างความสนุกไปด้วยกัน คาดหวังว่า การคอลแลปกันครั้งนี้จะสร้างสีสันในตลาดเครื่องดื่ม และเพิ่ม Traffic ในร้านพันธุ์ไทยทั่วประเทศ อย่างน้อย 20% ขึ้นไป”
ด้านคุณวรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “กระทิงแดง กำลังขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ความร่วมมือกันครั้งนี้ จึงเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งข้ามสายพันธุ์ของสองแบรนด์ไทย ดังนั้น ทุกเมนูในแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นหรือปลุกให้ตื่น แต่เป็น ‘การปลุกพลัง’ ที่ดีดให้คุณกล้าทำตามเป้าหมายในทุกๆ วันที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ”
แคมเปญนี้จึงไม่ใช่เพียงการปล่อยเมนูใหม่ แต่คือการชวนให้ผู้บริโภค “ร่วมทดลอง” ประสบการณ์ใหม่ของเครื่องดื่มที่ผสมทั้งพลังงาน ความสวยงาม และความสนุกในแก้วเดียวกัน
เทรนด์การทำ Collaboration ระหว่างแบรนด์ต่างกลุ่มกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในระดับโลก เพราะเป็นวิธีที่สามารถ
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม F&B ที่แข่งขันกันด้วย “ความว้าว” และ “ความเร็วในการออกของใหม่” การคอลแลบจึงไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่กลายเป็นหัวใจของการอยู่รอด
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในประเทศไทยปี 2568 คาดว่า ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 2.26 แสนล้านบาท ขยายตัว 2.0%
ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของไทย แยกรายประเภท ปี 2568
สรุปแล้วน้ำดื่มและน้ำอัดลมมีสัดส่วนตลาดรวมกันกว่า 55% ถือเป็นกลุ่มหลักของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในไทย
เครื่องดื่มชูกำลังนั้น คาดว่าในปี 2568 ยังโต 5.5% สูงกว่าภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีแนวโน้มชะลอลง
แม้ว่าเครื่องดื่มชูกำลังจะยังมีทิศทางเติบโตเล็กน้อย แต่คาดว่าส่วนแบ่งจะเริ่มแผ่วลง โดยเติบโตเพียง 5% ในปี 2567 และชะลอลงในปี 2568 โดยรับผลกระทบจากการใช้กลยุทธ์ลดราคาน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
เครื่องดื่มสุขภาพ ยังเติบโตในทิศทางบวก โดยเฉพาะกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ที่เน้นจุดขายเรื่องดูแลสุขภาพ มีความต้องการเพิ่มขึ้นตามกระแสสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มที่มีวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาล ฯลฯ ซึ่งเชื่อว่าความนิยมในกลุ่มนี้จะยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานและผู้สูงอายุ รวมถึงกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น โครงการภาครัฐ อาหารเสริม เด็กเล็ก ผู้ป่วย หรือกลุ่มฟื้นฟูร่างกายจากอาการเจ็บป่วย
ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งผู้เล่นในประเทศที่มีมากราย กว่า 2,794 ราย (เฉพาะนิติบุคคล) ส่งผลให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้น รวมถึงสินค้านำเข้าที่มีมากตีตลาดเพิ่ม เฉลี่ย 8.2% ต่อปี
ภาวะการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้สินค้าใหม่หลายตัวมีอายุสั้น และมี Life-cycle ที่สั้นลง จําเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดและการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ และต้องเข้าให้ถึงการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา