บัณฑิตใหม่ “ธุรกิจบัณฑิตย์” เตรียมสมัครงานบนเมตาเวิร์สก่อนใคร หลังมหาวิทยาลัยมอบ ‘ปริญญาบัตรแบบ NFT’ เตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกแห่ง Web3 และ Metaverse ชูข้อดี “ลอกเลียนแบบไม่ได้ ไม่มีวันสูญหาย หรือโดนทำลาย”
หลังจากที่ มหาวิทยาลัยโฮซอ (Hoseo) ในประเทศเกาหลีใต้ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการการศึกษา โดยการมอบ “ปริญญาบัตรแบบ NFT” ให้กับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษากว่า 2800 คน ล่าสุด “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” ได้นำร่อง มอบ “ปริญญาบัตรแบบ NFT” ให้กับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา รวมถึงให้ศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว มาขอรับปริญญาบัตรแบบ NFT เพื่อนำไปใช้ ในโลกการทำงานที่จะกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคของ Web3 และ Metaverse ในอีกไม่ช้า
ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวถึงความสำคัญของบทบาทสถาบันการศึกษา ที่ต้องปรับตัวตามเทรนด์ของโลกให้ทัน DPU จึงเร่ง เตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษา พัฒนาหลักสูตร รวมถึง Ecosystem ให้เพื่อสอดรับกับโลกการทำงานในยุคเปลี่ยนผ่านจาก Web 2 สู่ Web 3 ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI และ Blockchain
“สำหรับในปีแรกนี้ ถือเป็นการนำร่องโดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาสมัครใจที่จะเข้าร่วมขอรับปริญญา NFT หรือไม่รับก็ได้ ในขณะเดียวกันได้มีการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และชี้ให้เห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ ว่านอกจากใบปริญญาบัตรในห้องพิธีแล้ว บัณฑิตคนไหนอยากได้ปริญญาบัตรแบบ NFT เตรียมพร้อมก้าวสู่โลก Metaverse และ Web3 ในอนาคต สามารถสมัครได้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ซึ่งก้าวต่อไปของ DPU ไม่ใช่แค่ปริญญา NFT แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้”
.jpg)
ความน่าสนใจของ “ปริญญา NFT” อยู่ที่การเป็น Original มีความเป็นยูนีค และ ลอกเลียนแบบไม่ได้ รวมถึงสามารถเก็บไว้ได้ตลอดไป ไม่มีวันสูญหาย หรือโดนทำลาย นอกจากนี้ ปริญญา NFT ยังเป็นอีกก้าวที่สำคัญของนักศึกษา ในการเปิดโอกาสให้กับตัวเองในการไปสร้างตัวตนบนโลกใบใหม่ ทั้งโอกาสในการงาน กิจกรรมการเรียนรู้ และอื่น ๆ อีกมากที่จะเกิดขึ้นโลกของ เมตาเวิร์ส นับจากนี้
การรับปริญญาบัตรในรูปแบบของ NFT นักศึกษาที่มีวอลเล็ตชนิดที่สร้างขึ้นบน ‘Polygon Chain’ สามารถดาวน์โหลด และยื่นเอกสารได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีนาคม 2565 และผู้ที่จบการศึกษาไปแล้วก็สามารถมาลงทะเบียนรับปริญญาในรูปแบบของ NFT ได้เช่นกัน โดยมีการร่วมมือด้านระบบการออกปริญญาบัตรแบบ NFT กับ Smart Contract Blockchain Studio และ บริษัท ไอเพ็น สตูดิโอ จำกัด
นอกจากนี้ DPU ได้จับมือร่วมกับหลากหลายพันธมิตรจากหลายธุรกิจ ในการสร้าง “D.OASIS Metaverse Platform” เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและการต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อสร้าง Ecosystem สู่ Web3 และ Metaverse ประกอบด้วย J Ventures, Index Creative Village, Eventpass, Warrix, Prakit Holdings, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และอีกหลากหลายองค์กร
โดยทาง “D.OASIS” จะเน้นทำงานใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ D.OASIS Lab ซึ่งเน้นกิจกรรมเรื่องการสร้างคนและสร้างองค์ความรู้เรื่องเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส, D.OASIS City ซึ่งเน้นการสร้าง เมตาเวิร์สแพลตฟอร์ม และ D.OASIS Studios ที่เป็นผู้พัฒนา NFT ในรูปแบบต่าง ๆ โดย DPU เป็นพาร์ทเนอร์หลักด้านการพัฒนาหลักสูตรของ D.OASIS Lab ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นสู่การเป็น meta citizen ให้กับสังคมโดย มีเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้าน Web3 และ เมตาเวิร์สของเอเชีย ประเดิมด้วยการเผยแพร่ความรู้ในหัวข้อ “What is metaverse?” และ “Crypto Tax Clinic” ในเดือนมีนาคมนี้ และหลักสูตรระยะสั้น Metaverse Developer ที่จะเปิดสอนเดือน เม.ย. นี้
บัณฑิตและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่สนใจจะ รับปริญญาบัตรแบบ NFT สามารถ เข้าไปที่เว็บไซต์ nft.dpu.ac.th และทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ
1.กรอกรหัสนักศึกษา รอรับลิงก์ยืนยันที่อีเมล (ที่เป็น @dpu.ac.th)
2.คลิกยืนยันลิงก์ในอีเมล์ แล้วกรอก Wallet Address ที่รองรับบน Polygon Chain
3.รอรับ NFT ที่จะถูกส่งไปยัง Wallet ที่กรอกไว้ โดยจะมีอีเมล์ยืนยันเมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น
“เมตาเวิร์ส” นับเป็นเทรนด์แห่งปี 2564 ที่หลากหลายภาคธุรกิจให้ความสนใจ และเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “อุตสาหกรรมเมตาเวิร์ส” ซึ่งจะมีขนาดถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2025 ก่อนหน้านี้ ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้ประกาศสร้างวิทยาเขตแห่งที่ 5 บน “T-Verse” เมตาเวิร์สสัญชาติไทย ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Brandverse ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งบนวิทยาเขตเมตาเวิร์สแห่งนี้ นักศึกษาจะสามารถมายกระดับประสบการณ์การเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมบน ‘เวิร์ส’ ของแบรนด์อื่นๆ เช่น ซื้อของที่เซเว่น เดินเล่นที่เดอะมอลล์ ได้อีกด้วย