ผัวโหดซ้อมเมียเลือดคั่งสมอง เปิดปากถีบหน้าจับฟาดกำแพง บอกรักร่ายมนตร์หวังให้ฟื้น (คลิป)

กรณีมีผู้ร้องเรียนไปยังแฟนเพจเฟชบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ kim signature" ว่า "สวัสดีครับแอดมิน มีเรื่องเดือดร้อนอยากร้องเรียน และขอความช่วยเหลือครับ เหตุเกิดกับพี่สาวตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 ณ นวนครไทยธานี ซอย 37 ผู้ก่อเหตุเป็นสามี ทำร้ายร่างกายเมียอย่างหนักภายในห้องพัก ปิดประตูห้องทำร้าย มีพยานเป็นบุคคลที่อยู่รอบข้าง ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใดถึงทำร้ายกันมากขนาดนี้ ล่าสุดพี่สาวอาการสาหัส เข้า ICU ผ่าตัดสมองไปแล้ว 1 ครั้ง แพทย์แจ้งว่าเอกซเรย์เลือดออกในสมอง กระดูกซี่โครงหักเสียบปอด ตอนนี้เลือดออกในสมองไม่หยุด อาการสาหัสมาก ๆ ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองการรักษา โอกาสรอดมีน้อย อยากให้ความเป็นธรรมกับพี่สาวไม่รู้จะไปพึ่งใคร ไม่มีเงินเดินเรื่อง และกลัวเรื่องเงียบครับ"

ทั้งนี้ผู้ร้องเรียน ยังระบุว่า "แจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง ทางตำรวจลงแจ้งความไว้ทะเลาะวิวาทครับ ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้รับประกันตัวออกไปแล้ว ได้โปรดช่วยและติดตามเรื่องนี้ให้ทีเถอะครับ เพิ่มเติมครอบครัวพี่สาว มีลูกติด 2 คน ผู้ชาย 1 อายุ 13 ปี หญิง 1 อายุ 8 ปี กับสามีเก่า ส่วนพ่อแกตอนนี้ทุพพลภาพ ส่วนแม่เป็นจิตเวช รับยาเรื่อย ๆ ครับ ถ้าไม่มีที่พึ่งกลัวเรื่องนี้จะเงียบและพี่สาวจะเสียชีวิตฟรีครับ"

สำหรับผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.สุชาดา ไกรทอง อายุ 37 ปี ผ่าตัดสมองไปแล้ว 1 ครั้ง มีเลือดออกในสมอง กระดูกซี่โครงหักเสียบปอด ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายสหัส ทุ่มโสภา อายุ 31 ปี ทั้งคู่คบหากันได้ประมาณ 6 เดือน

ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มาพูดคุยกับนายวิน (สงวนชื่-สกุลจริง) ลูกพี่ลูกน้องของผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 เวลาประมาณ 21.00 น. น.ส.สุชาดา พี่สาวตน ได้ถูกนายสหัส หรือ ใหม่ สามีที่เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 6 เดือน ปิดประตูห้องทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนอาศัยอยู่คนละพื้นที่กับพี่สาว จึงไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายพี่สาวอย่างไรบ้าง

หลังจากก่อเหตุเสร็จ นายใหม่ ได้วิ่งลงจากห้องพักที่เกิดเหตุ เป็นห้องพักชั้น 3 แล้วลงมาบอกชาวบ้านและเจ้าของหอที่นั่งอยู่ด้านล่างหอว่า "แฟนผมหายใจไม่ออก ช่วยเรียกรถโรงพยาบาลให้หน่อย" แต่ไม่ได้บอกว่าทำร้ายพี่สาว จากนั้นนายใหม่ ได้พาเจ้าของหอ และชาวบ้านที่อยู่ในหอพักขึ้นไปดูอาการพี่สาว ก็เห็นนอนอยู่กับพื้น ใบหน้าบวมช้ำ มีเลือดออกตามใบหน้า และนายใหม่ ได้เข้าไปนั่งข้าง ๆ ร่างกายของร.ส.สุชาดา พร้อมกับท่องคาถาเป็นภาษาเขมร

จากนั้นก็ได้นำตัวพี่สาวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ตามไปด้วย ตอนแรกแพทย์ได้เอกซเรย์พบว่า พี่สาวมีเลือดออกในสมอง จึงผ่าตัดในคืนแรก จากนั้นแพทย์ได้ตรวจร่างกายเพิ่มเติม พบว่ากระดูกซี่โครงหักเสียบปอด ซึ่งขณะนี้ยังอาการสาหัส ไม่สามารถพูดคุยได้ และมีโอกาสรอดชีวิตค่อนข้างน้อย 

ในช่วงเช้าวันที่ 1 พ.ค.64 พวกตนได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปส่งพนักงานสอบสวน ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และผู้ก่อเหตุก็ได้รับการประกันตัวออกไป หลังได้รับการประกันตัว ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาหาญาติของผู้บาดเจ็บ และยอมรับว่าทำร้ายฝ่ายหญิงจริง แต่ไม่ได้บอกว่าทำไปเพราะสาเหตุอะไร

สำหรับคนก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บคบหากันได้ 6 เดือน ซึ่งผู้บาดเจ็บเคยมีแฟนมาแล้ว และมีลูกติด 2 คน ที่ผ่านมาตนก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เนื่องจากอาศัยอยู่คนละที่ สำหรับน.ส.สุชาดา ทำงานโรงงาน เป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากพ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง แม่เป็นผู้ป่วยจิตเวช และยังมีลูกติดอีก 2 คน ชายอายุ 13 ปี หญิงอายุ 8 ปี ตนเกรงว่าถ้าหากขาดน.ส.สุขาดาไป ไม่รู้ว่าจะดูแลเด็ก 2 คน และคนแก่อีก 2 คนได้ดีแค่ไหน ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมให้พี่สาว

นายวิน เล่าต่อว่า ตอนที่ผู้ก่อเหตุท่องคาถาเป็นภาษาเขมร เนื่องจากเขาเป็นคน จ.สุรินทร์ นั่งท่องข้าง ๆ ร่างพี่สาว ตนคิดว่าเขาท่องคาถาเพื่อให้พี่สาวตนฟื้น ตนก็ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์หรือไม่ เพราะตนไม่ค่อยได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ เท่าที่ตนรู้จักภายนอกเขาเป็นคนนิ่ง ๆ ส่วนภายในจิตใจตนไม่รู้ว่าเป็นคนอย่างไร

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังห้องที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นหอพักในซอยไทยธานี 37 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ลักษณะเป็นหอพัก 5 ชั้น ส่วนห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องพักชั้น 3 เป็นห้องพักที่น.ส.สุชาดา ผู้บาดเจ็บ และนายใหม่ ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน

นางทิพย์ (นามสมมติ) เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนายใหม่ และน.ส.สุชาดา ได้เดินขึ้นห้องพัก โดยจะผ่านร้านค้าของตนบริเวณชั้น 1 โดยผู้ก่อเหตุซื้อเหล้าขาวขวดเล็ก 1 ขวด ตนยังแซวเขาเล่น ๆ ว่า "ไม่เคยเห็นดื่มเหล้าเลยนะ ทำไมวันนี้มาซื้อเหล้าไปดื่ม" จากนั้นก็ยิ้มให้ตนและเดินขึ้นห้องพักไป

จากนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. มีผู้เช่าหอพักมาบอกตนว่า มีคนทะเลาะกันในห้องเช่าชั้น 3 ตนจึงเดินขึ้นไปดู เคาะประตูห้องดังกล่าว จากนั้นนายใหม่ผู้ก่อเหตุจึงเปิดประตูห้องออกมา ตนจึงได้บอกกับเขาว่า อย่าทะเลาะกัน ถ้าอยากทะเลาะจะพาไปตีกันที่หน้าห้องเช่า จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ตนและปิดประตูห้อง ตนจึงเดินลงมาที่ร้านค้า แต่ไม่ถึง 10 นาที นายใหม่ วิ่งลงมาบอกว่า "เมียผมหายใจไม่ออก เรียกรถโรงพยาบาลให้ด้วย" ตนและชาวบ้านจึงได้โทรศัพท์เรียกรถโรงพยาบาล และได้ขึ้นไปดูอาการของน.ส.สุชาดา เห็นว่านอนกองอยู่กับพื้นแล้ว ส่วนคนก่อเหตุได้นั่งเช็ดเลือดให้ฝ่ายหญิง 

นอกจากนี้ ตนสอบถามนายใหม่ซ้ำ ๆ กระทั่งนายใหม่ สารภาพกับตนว่าทะเลาะกันกับภรรยาเรื่องหึงหวง จากนั้นเขาได้ใช้เท้าถีบหลังภรรยาจนล้ม และไปจับร่างภรรยาเหวี่ยงใส่ผนังห้อง จนศีรษะไปฟาดกับผนังได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเห็นทั้ง 2 คนมีปากเสียงกันมาก่อน สำหรับคนก่อเหตุตนให้เขาเก็บข้าวของย้ายออกตั้งแต่เช้าวันที่ 1 พ.ค.64 แล้ว ตนยอมรับว่าตกใจกับเหตุการที่เกิดขึ้นมาก

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดต่อสัมภาษณ์นายสหัส ทุ่มโสภา หรือ ใหม่ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ ผ่านโทรศัพท์ เพราะเจ้าตัวกลับภูมิลำเนาที่ จ.สุรินทร์แล้วนั้น

นายใหม่ กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้กลับบ้านเกิดที่หมู่ 5 ต.บ้านจารย์ อ. สังขะ จ.สุรินทร์แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนทำร้ายภรรยามาจากปัญหาส่วนตัว เรื่องเก่า ๆ ที่ตนมีปัญหากับภรรยามาเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุหลังทะเลาะกับภรรยาเสร็จ ตนได้ถีบร่างภรรยา และจับภรรยาเหวี่ยงใส่ฝาผนังจริง จนภรรยานอนแน่นิ่งไป จากนั้นตนได้ลงไปเรียกและขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และขณะที่รอรถโรงพยาบาล ตนได้ท่องคาถาเพื่อให้ภรรยาไม่เป็นอะไรไปมาก และขอให้ภรรยาปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สภาพจิตใจตนย่ำแย่มาก ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ ตนทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตอนนี้ตนอยู่ระหว่างการให้ญาติเข้าไปพูดคุยเรื่องค่าเยียวยากับครอบครัวของนางสาวสุชาดา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายสหัส ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวชั่วคราว