แม่พาลูกชายนักกีฬาดาวรุ่งโรงเรียนบุกโรงพัก ถูกรถชนนาน 2 เดือน ไร้เยียวยา

11 ม.ค. 67

แม่พาลูกชายนักกีฬาฟุตบอลดาวรุ่งโรงเรียน บุกโรงพัก ถูกรถชนนาน 2 เดือน ไร้เยียวยา คดีไม่คืบ คู่กรณีอ้างเด็กขับมาชนเอง 

วันที่ 11 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่องค์กรเพื่อนร่วมชาติ (NRO) ได้พานายธนาธิป (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี และนายภูริภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยผู้ปกครองและผู้นำชุมชน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพลับพลา อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา หลังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถกระบะ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 66 

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีกับคู่กรณีได้ อีกทั้งคู่กรณีไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยียนสอบถามอาการ หรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และเกิดความกังวลใจมากขึ้น เมื่อทราบว่าคู่กรณีพยายามวิ่งเต้นจะให้เป็นการประมาทร่วม เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบความผิดที่เกิดขึ้น 

แม่พาลูกชายนักกีฬาดาวรุ่งโรงเรียนบุกโรงพัก ถูกรถชนนาน 2 เดือน ไร้เยียวยา

ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. เป็นอุบัติเหตุรถยกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จากการสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า รถกระบะแซงรถสามล้อพ่วงที่อยู่ด้านหน้า แล้วไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่ขับสวนทางมา ส่งผลให้นายภูริภัทร ได้รับบาดเจ็บ กระดูกสะบ้าเข่าด้านขวาแตกหัก จนต้องผ่าตัด ทำให้การเดินไม่ปกติ รวมถึงต้องออกจากการเรียน รด. ที่ตั้งใจว่า เมื่อจบการศึกษาแล้ว จะไปสมัครตำรวจหรือทหาร ตอนนี้ไม่สามารถทำได้ตามความฝันได้  

ส่วนนายธนาธิป ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหัก เส้นเอ็นฉีก ไหปลาร้าหัก ไม่สามารถยกของหนักได้ เป็นอุปสรรคต่อการเรียนต่อที่จะไปประกอบอาชีพเป็นช่างเหมือนกับพ่อ และที่เคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ปัจจุบันทำได้แค่นั่งดูเพื่อนเตะฟุตบอลกัน ไม่สามารถลงไปเตะได้อีกแล้ว โดยหลังจากเกิดเหตุ คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมหรือสอบถามเยียวยาอะไร ครอบครัวของผู้บาดเจ็บต้องควักเงินซ่อมรถจักรยานยนต์เอง ประมาณ 30,000 บาทไปแล้ว 

แม่พาลูกชายนักกีฬาดาวรุ่งโรงเรียนบุกโรงพัก ถูกรถชนนาน 2 เดือน ไร้เยียวยา

นายธนาธิป กล่าวว่า ขับรถมาตามถนนปกติ เมื่อถึงช่วงทางโค้ง เห็นรถกระบะคู่กรณีแซงรถสามล้อพ่วงที่อยู่ด้านหน้า แล้วมาเฉี่ยวชนกับรถของตน ซึ่งกำลังขี่สวนทางมา จนรถล้มได้รับบาดเจ็บ แต่คู่กรณีปฏิเสธ อ้างว่าขับรถมาตามถนนปกติ มีสามล้อพ่วงขับอยู่ด้านหน้า แล้วอยู่ดีๆ รถจักรยานยนต์ของตนขี่ข้ามถนนมาชนรถกระบะคู่กรณี จึงปฏิเสธการรับผิดชอบ 

เบื้องต้น ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบร่องรอยการชน โดยแจ้งว่า รถกระบะข้ามเลนไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ฝั่งตรงข้าม ได้แจ้งข้อหากับผู้ขับขี่รถกระบะ ซึ่งเป็นชายอายุ 78 ปี จำนวน 4 ข้อหา ได้แก่ ไม่มีใบขับขี่ , ไม่มี พ.ร.บ.รถยนต์ , ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้เสียทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งลายนิ้วมือ ไปที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อประกอบในสำนวน ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งฟ้อง ในวันนี้เยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย พร้อมด้วยผู้ปกครอง จึงมาขอความเป็นธรรมและติดตามทวงถามความคืบหน้า ขอให้เจ้าหน้าที่ฯ ช่วยเร่งรัดด้านคดีความให้เร็วขึ้น และดำเนินการตรงไปตรงมา เพราะเรื่องไม่มีความคืบหน้ามากว่า 2 เดือนแล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส