ต้องเต ปลื้ม กระแสหนัง “สัปเหร่อ” มาไกลมาก วอนรัฐบาล หนุนหนังอีสาน ค่ายเล็กๆ บอก ถ้าอดีตไปทำร้ายคนอื่นก็ขอโทษด้วย มันไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
วันที่ 25 ต.ค. ที่บริเวณชั้น 5 โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนี เพล็กซ์ นาย ธิติ ศรีนวล หรือ ต้องเต ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสตอบรับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ที่กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนต์ขณะนี้ว่า “มันเกินโอเคแล้วครับ มันพาเรามาไกลเกินแล้ว เรามาไกลมากจนไม่รู้ มันตั้งตัวไม่ทันแล้วว่ามันมาด้วยคุณภาพ หรือมาด้วยกระแส แต่ถ้ามาด้วยคุณภาพ หรืออะไรหลายๆ อย่าง เราแค่ยินดีกับมันได้ และพาเรามาด้วย”
นาย ต้องเต กล่าวต่อว่า ส่วนที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลพยายามผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์นั้นก็ดีใจ แต่ตนก็ยังไม่รู้จักว่า ซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร แค่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีคนทำมาแล้ว และเราได้มาสานต่อ มันมีซอฟต์พาวเวอร์ของมัน ก็รู้สึกว่าถ้าเราเข้าใจมันมากกว่านี้ อุตสาหกรรมเข้าใจกว่านี้แล้วมีรัฐบาลมาคอยสนับสนุน ตนคิดว่าหนังจะไปได้ไกลกว่านี้มากๆ
เมื่อถามว่า ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่เราคาดหมายคือไม่ นาย ต้องเต กล่าวว่า ก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่ามันยังไม่ประสบความสำเร็จ มันเป็นจุดเริ่มต้น เพราะตนทำแต่เรื่องแรก เพิ่งเริ่มต้น แต่ก็ขอขอบคุณทุกคนๆ มากที่สนับสนุน ขอบคุณรัฐบาลที่มองเห็นค่ายเล็กๆ หรือหนังอีสานเรื่องนี้
“ตอนแรกแค่ตั้งไว้ 100 ล้าน ตอนนี้มันมาไกลมากแล้ว ไม่ได้ตั้งขนาดนั้น แค่อยากรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะไปไกลได้มากกว่านี้ ต้องเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอะไรบางอย่างหรือเป็นเคสศึกษาว่ามีเรื่องที่ต้นทุนต่ำแล้วประสบความสำเร็จ หรือเรื่องนี้ส่งออกไปต่างประเทศได้ อยากให้ศึกษาเรื่องนี้”
เมื่อถามว่า หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ จะสร้างแรงผลักกันในการวางแผนสร้างหนังเรื่องต่อไปหรือไม่ นาย ต้องเต กล่าวว่า ขอบคุณแรงกดดัน จะทำให้เราพัฒนาเรื่องต่อไปมากขึ้นและเรียนรู้ เต็มที่มากขึ้น ถ้ามีหน่วยงานอื่นสนับสนุนมากกว่านี้ มีการคุยกันมากกว่านี้น่าจะพาหนังอีสานหรือค่ายเล็กๆ มาเปิดกว้างได้ คิดว่าหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ เพราะเราจริงใจมาก ไม่หลอกคนดู จริงใจกับทุกคนว่าเรามีทุนแค่นี้ เราทำแค่นี้ แต่มีคุณค่าวิถีชีวิตแ ละความเชื่อของคนอีสานที่คนรุ่นใหม่อาจหาไม่เจอ
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรบ้างว่า เมื่อมีชื่อเสียงแล้วถูกมองในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา นาย ต้องเต กล่าวว่า ยินดีมาก ถ้าอดีตของตนไปทำร้ายคนอื่นก็ขอโทษไปด้วย มันไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ อดีตก็คือความจริงในช่วงเวลานั้น ถ้าใครไม่ชอบก็ขอโทษด้วย มันคือความจริง จริงๆ
