จากกรณี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 65 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.ลพบุรี รับแจ้งเด็กสูญหายออกจากบ้าน คาดจมน้ำในคลองแม่น้ำลพบุรี หน้าบ้านพัก หมู่ 2 ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงส่งทีมนักประดาน้ำและอาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางไปค้นหา เมื่อไปถึงพบ นายสิงหชัย เนื่องภิรมย์ อายุ 33 ปี ผู้เป็นพ่อ ระบุว่าลูกสาวชื่อว่า ด.ญ.โชวธิญา เนื่องภิรมย์ หรือ น้องน้ำเมย อายุ 1 ปี 9 เดือน หายไป ตนและภรรยาทำงานอยู่โรงงานช่วงเช้าออกกะดึกมาก็แยกย้ายกันนอนพักผ่อน ภรรยานอนอยู่บนบ้านส่วนตนนอนอยู่ชั้นล่างกับลูกสาว
ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่พบ นายสิงหชัย เนื่องภิรมย์ พ่อของน้องน้ำเมย เช้านี้ก็ยังคงพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อของครอบครัว
โดยในช่วงเช้าที่ทีมข่าวเดินทางไปถึง ทางกู้ภัยยังคงระดมกำลังค้นหาน้องน้ำเมย ทั้งการดำน้ำและใช้เรือล่องไปสำรวจบนแม่น้ำลพบุรีในพื้นที่ใกล้เคียง
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้สำรวจโดยลักษณะจุดเกิดเหตุเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี และอยู่เยื้อง ๆ คนละฝั่งแม่น้ำกับวัดบ้านดาบ ซึ่งบ้านตาของน้องน้ำเมยเป็นจุดที่ระบุว่าน้องน้ำเมยหายตัวไป จะอยู่ห่างจากแม่น้ำประมาณ 50 เมตร ส่วนบ้านที่อยู่ติดริมน้ำคือบ้านของยายโสภา เป็นยายของน้องน้ำเมย โดยจากการตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ บ้านของตาน้องน้ำเมย มีบ้านญาติ ๆ อยู่ติดกับหลายหลัง และบ้านที่น้องน้ำเมยมักจะเดินออกไปคือบ้านยาบหมี ที่อยู่ติดกันบนฝั่งถนนทางออกของตัวบ้าน
ขณะเดียวกันวันนี้คุณพ่อของน้องน้ำเมย ได้พาทีมข่าวเดินไปสำรวจรอบ ๆ บ้าน และพาทีมข่าวเข้าไปดูยังจุดที่น้องน้ำเมย นอนกับคุณพ่อบนที่นอนภายในบ้านก่อนจะหายตัวไปอย่างปริศนา ซึ่งคุณพ่อก็ได้ลงไปนอน เป็นการจำลองเหตุการณ์ให้ทีมข่าวดูว่าก่อนที่น้องน้ำเมยจะหายตัวไป น้องน้ำเมยได้นอนกินนมและดูโทรศัพท์มือถืออยู่บนแขนของคุณพ่อ โดยมีแมวสีขาวที่น้องน้ำเมยรักนอนอยู่ปลายที่นอน ซึ่งคุณพ่อยังระบุเวลาว่านอนอยู่กับน้องน้ำเมยในเวลาประมาณ 10.40 น. และตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณ 11.05 น.
นายสิงหชัย เนื่องภิรมย์ อายุ 33 ปี พ่อของน้องน้ำเมย และ นางจุฑามาศศิมา เนื่องภิรมย์ อายุ 29 ปี แม่ของน้องน้ำเมย เล่าถึงเหตุการณ์ว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 11:00 น. ระหว่างที่ตัวพ่อและแม่กลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านนั้น แม่ของน้องน้ำเมยได้ขึ้นไปนอนบนชั้น 2 ของบ้าน ส่วนผู้เป็นพ่อก็ได้นอนเล่นกับลูกอยู่บริเวณชั้นล่างซึ่งลูกเองก็ได้นอนอยู่ข้างอกหัวทับอยู่บนแขน จากนั้นพ่อก็เผลอหลับไป กระทั่งรู้สึกตัวเพราะว่าติ๊กต๊อกที่น้องน้ำเมยเปิดดูอยู่เล่นวนไปมา 3 รอบ ก่อนจะพบว่าน้องน้ำเมยหายตัวไป แต่เจ้ามีตังค์แมวตัวโปรดของน้องน้ำเมยยังอยู่ที่เดิม
ตอนแรกเข้าใจว่าลูกสาวจะเดินไปที่บ้านยายโสภา ที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำลพบุรี แต่เมื่อเดินมาตามหาและสอบถามกับตาของน้องไม่มีใครเห็นลูกสาวเดินมาในละแวกดังกล่าว ที่ผ่านมาหลังจากที่ลูกสาวเริ่มหัดเดินและเดินได้คล่องก็มักจะชอบเดินมาหาตาที่บ้านริมน้ำ แต่ในครั้งนี้ทางญาติ ๆ ก็ยังไม่มีใครเห็นและทราบว่าลูกสาวหายตัวไป
จากนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมระดมค้นหาตัวของลูกสาว ที่คาดว่าอาจจะลื่นไถลตกลงไปในแม่น้ำลพบุรี เพราะช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ซึ่งดินบริเวณริมตลิ่งจะแปรสภาพเป็นโคลนหากใครเดินไม่ระวังก็จะสามารถลื่นไถลตกน้ำได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้รับแจ้งว่า ไม่มีรอยเท้าของเด็กหรือรอยคนลื่นไถลลงในแม่น้ำแต่อย่างใด และทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็ยังค้นหาทั้งการใช้เรือและนักประดาน้ำ ซึ่งหากลูกสาวของตนปกลงในแม่น้ำจริงในวันนี้ก็อาจจะเจอร่างแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบตัวลูกสาวแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่
ยืนยันทางครอบครัวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยอมรับว่ามีหนี้สินจริงแต่เป็นหนี้ที่ยังคงมีการผ่อนชำระอยู่ จึงไม่มีเหตุผลที่จะมีเจ้าหนี้หรือใครมาอุ้มลูกไปจากบ้าน ถ้าหากจะสงสัยว่าลูกสาวถูกอุ้มไป มีบุคคล 2 คนเท่านั้น ที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุก็คือตายืนญาติของน้องน้ำเมยที่แม่ระบุว่าเป็นคนพิการ และมีความคุ้นเคยกับตัวน้องน้ำเมย และนายแก่ที่เป็นคนที่มีพฤติกรรมติดกาวและมักจะเดินขอเงินชาวบ้านไปทั่ว
ทั้งนี้ นางจุฆามาศสิมา เนื่องภิรมย์ อายุ 29 ปี ได้พาทีมข่าวเดินไปดูบริเวณริมน้ำหลังบ้านของยายน้องน้ำเมย และได้เดินลงไปย้ำดินที่ริมตลิ่งให้ดูว่าตอนเกิดเหตุหากน้องน้ำเมย เดินไปที่บ้านยายโสภาที่อยู่ริมแม่น้ำและเดินลงน้ำไป ต้องมีร่องรอยเท้าของน้องน้ำเมย แต่ตอนเกิดเหตุไม่มีร่องรอยเท้าแม้แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันวันนี้ในช่วงบ่าย ทางนักประดาน้ำและกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูระดมกำลังงมค้นหาต่อเป็นวันที่ 2 โดยเริ่มจากการค้นหาในรัศมี 200-300 เมตร แต่ยังไม่พบจึงมีการขยายวงค้นหาล่องเรือไปตามแม่น้ำอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งวันนี้ทีมข่าวได้ลงเรือไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อไปดูยังจุดที่ขยายวงค้นหา โดยในขณะที่ล่องเรือไปนั้น เจ้าหน้าที่ต้องล่องเรือไปช้า ๆ และสังเกตบริเวณผักตบชวาตามตลิ่งเพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติติดอยู่หรือไม่
โดยการค้นบนเส้นทางแม่น้ำ ใช้ระยะเวลาจากบ้านตาของน้องน้ำเมย กว่า 10 กิโลเมตร จนไปพบก่อผักตบชวาจำนวนมาก ที่ปิดกั้นเส้นทางน้ำอยู่บริเวณใต้สะพาน ซึ่งจุดนี้ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าหากน้องน้ำเมยจมน้ำจริง ร่างที่หายไปเกิน 24 ชั่วโมง จะต้องลอยขึ้นจากน้ำและต้องลอยมาติดก่อผักตบชวาที่ปิดทางน้ำอยู่ แต่ถ้าหากเมื่อวานนี้กระแสน้ำพัดแรงก็เป็นไปได้ที่ร่างของน้องน้ำเมยจะรอดกอผักตบชวาผ่านไปได้ ซึ่งถ้าหากเป็นจริงการค้นหาก็จะยากขึ้น เนื่องจากไม่รู้ทิศทางว่าร่างของน้องน้ำเมยจะลอยไปถึงไหนในตอนนี้
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยภาพวงจรปิดที่ทีมข่าวไปค้นหามา จะเป็นภาพที่จะเห็นน้องน้ำเมย นั่งรถจักรยานยนต์มาพร้อมกับพ่อแม่และพี่สาว มาเดินซื้อของอยู่ภายในร้านขายของชำ ที่อยู่ปากซอยบ้าน ในวันที่ 22 ก.ย. 65 เวลา 18.10 น. และนี่เป็นภาพสุดท้ายของน้องน้ำเมยที่มีภาพวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
ซึ่งชุดที่น้องน้ำเมยใส่ในภาพ เป็นชุดเดียวกันกับวันที่น้องน้ำเมยหายตัวไป
