กรณีเหตุการณ์นักโทษเรือนจำจ.กระบี่ กว่า 400 คน ก่อเหตุจลาจลทุบเผา-ทำลายอาคารเรือนนอน หลังไม่พอใจมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก จึงต้องการให้นักโทษติดโควิดออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังเรือนจำกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ บรรยากาศโดยรอบเรือนจำ เจ้าหน้าที่ปิดกันพื้นที่การจราจรบริเวณถนนอุตรกิจ หน้าเรือนจำจังหวัดกระบี่ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกเด็ดขาด หลังจากช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา เกิดเหตุนักโทษชายในเรือนจำกระบี่ จำนวนประมาณ 400 คน ก่อนเหตุความวุ่นวายภายในเรือนจำ จนกลายเป็นเหตุจลาจล
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ มีแกนนำประมาณ 20-40 คน เนื่องจากไม่พอใจที่มีนักโทษชายติดเชื้อโควิด-19 จำนวนกว่า 300 คน จากนักโทษทั้งหมด 2,159 คน จึงทำลายข้าวของภายในเรือนนอน เพื่อให้เจ้าหน้าที่คัดกรองนักโทษออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จะลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย และรถดับเพลิง เดินทางไปที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ เข้าควบคุมสถานการณ์
เนื่องจากพบว่ามีนักโทษชายบางส่วนพยายามจะปีนกำแพงหนีออกมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนยางยิงสกัดเป็นระยะ ๆ จนมีนักโทษได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางไป 3 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.กระบี่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกระบี่ และชุดควบคุมฝูงชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถควบคุมสถานการณ์และปิดล้อมพื้นที่รอบเรือนจำไว้ได้ทั้งหมด
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคุมสถานการณ์ ซึ่งสาเหตุมาจากการที่นักโทษเกิดความไม่พอใจ ที่ไม่มีการดูแลเรื่องการรักษาโควิด-19 ให้กับผู้ป่วย พบว่ามีผู้ป่วยประมาณ 200-300 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการแยกสีว่ามีอาการอย่างไร ส่วนแกนนำที่ก่อเหตุมีประมาณ 20 กว่าคน
ส่วนกรณีการเผาทำลายอาคาร ตนยืนยันว่าไม่มีการเผาทำลาย แต่เป็นการเผาขยะของกลุ่มนักโทษที่ไม่พอใจ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเจรจา แต่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีนักโทษบางส่วนจะเคลื่อนย้ายไปยังเรือนจำอื่น ๆ หรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งตำรวจและจังหวัดไม่สามารถระบุได้
พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ระบุว่า ช่วงเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับ ผบ.กลุ่มราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ได้ประชุมวางแผนการปฏิบัติ ณ ห้องประชุมเรือนจำ โดยมี 2 ข้อสรุป คือ 1.ให้พยาบาลเรียกตามรายชื่อเพื่อคัดสุขภาพ แบ่งเป็น 2 สี สีเขียวให้เข้าห้องพักผู้หญิง สีเหลืองให้แยกส่ง 3 โรงพยาบาล ได้แก่ รพ.กระบี่ รพ.ภูเก็ต และรพ.พังงา 2.ให้นักโทษเสนอข้อเรียกร้อง ซึ่งจะมีนักโทษชั้นดีเป็นผู้ประสาน
ขณะนี้บรรยากาศพื้นที่โดยรอบเรือนจำกระบี่ มีกำลังเจ้าหน้าที่เข้าประจำการดูแลความปลอดภัย และกันไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่เรือนจำอย่างเด็ดขาด ก่อนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะบินด่วนเพื่อลงพื้นที่ควบคุมเหตุจลาจลตามขั้นตอนต่อไป
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสมนึก ทรงแสง อายุ 52 ปี ญาติของนักโทษ เปิดเผยว่ากรณีที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากญาติของตนเป็นนักโทษชายถูกขังอยู่ในเรือนจำกระบี่มาได้ประมาณ 6-7 เดือนแล้ว เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย หากเกิดมีการประทะกันระหว่างนักโทษชายกับเจ้าหน้าที่
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่าการที่กลุ่มนักโทษชายภายในเรือนจำกระบี่ ก่อเหตุจลาจลทุบเผาทำลายอาคารเรือนนอน เป็นเพราะอาจไม่พอใจที่ภายในมีเรือนจำมีนักโทษติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก จึงต้องการออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เพราะเสี่ยงแพร่ระบาด ในส่วนนี้ตนจึงอยากวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยคัดกรอง และจัดแยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก หรือโรงพยาบาลที่อยู่ในความดูแล เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ
นางอานิสา สมาน อายุ 58 ปี ญาตินักโทษอีกราย กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ตนในฐานะคนในครอบครัวของนักโทษที่อยู่ภายในเรือนจำ จึงรีบเดินทางมาดูสถานการณ์ที่บริเวณหน้าเรือนจำ เช่นเดียวกับญาติของนักโทษรายอื่น ๆ เนื่องจากมีความกังวลและเป็นห่วงว่าอาจจะได้รับอันตราย
ทั้งนี้ ตนมองว่าอยากให้เจ้าหน้าที่คัดแยกนักโทษที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกมารักษาตัวภายนอกเรือนจำ เนื่องจากเท่าที่ทราบมาจากญาตินักโทษ ภายในมีนักโทษติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยารักษาทางการแพทย์ก็มีไม่ทั่วถึง จึงอยากวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการในส่วนนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักโทษภายในเรือนจำ และความสบายใจของญาติ ๆ นักโทษ
