Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เช็กลิสต์พฤติกรรมแบบไหนทำฮอร์โมนพัง! เสี่ยงมะเร็ง ติดเตียง ไม่รู้ตัว?

เช็กลิสต์พฤติกรรมแบบไหนทำฮอร์โมนพัง! เสี่ยงมะเร็ง ติดเตียง ไม่รู้ตัว?

16 มิ.ย. 68
15:03 น.
แชร์

อ้วนง่าย นอนไม่หลับ ขี้ลืม ไม่ใช่เพราะแก่ แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าฮอร์โมนพัง! เสี่ยงมะเร็ง นอนติดเตียง ไม่รู้ตัว เปิดพฤติกรรมเสี่ยงทำฮอร์โมนพัง กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti-aging แล้วจะรู้ว่าการดูแลฮอร์โมนสำคัญ ก่อนสายเกินแก้

“หมอแชมป์ นภาพร” แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้าน Anti-aging เผยพฤติกรรมแบบไหนทำฮอร์โมนพัง! แนะดูแลฮอร์โมนก่อนสายเกินแก้ โดยระบุว่า

อ้วนง่ายนอนไม่หลับ ขี้หลงขี้ลืม เกี่ยวกับฮอร์โมนจริงไหม ?

จากสถิติของงานวิจัยล่าสุดค้นพบว่า ผู้หญิงที่อายุ 50 บวกขึ้นไปจะมีความเสี่ยงในการเกิดสโตรก เส้นเลือดในสมองตีบ แตก ตัน หรือติดเตียง หรือกลุ่มคนที่เป็นมะเร็ง เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรค SLE ทั้งหมดนี้เกิดจากฮอร์โมน ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้คิดว่าเป็นแค่เรื่องอ้วน หรือนอนไม่หลับเฉย ๆ แล้วไปกินยานอนหลับหรือยาแก้แพ้แทน จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนอันดับแรกว่าฮอร์โมนกำลังพัง

จริงๆ แล้วร่างกายของคนเรามีระบบฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมน DHEA และฮอร์โมนเกี่ยวกับพลังงาน ฮอร์โมนนี้เหมือนเป็นกุญแจดอกสำคัญ คนที่อ้วนขึ้น น้ำหนักตัวขึ้นง่ายลงยาก อดอาหารแล้ว กินคลีนแล้วน้ำหนักไม่ลดลงเลย ให้สงสัยว่าอาจมีปัญหาฮอร์โมน

โดยทั่วไปผู้หญิงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตั้งแต่อายุ 35 ปี มันจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ฮอร์โมนผู้หญิงเรียกว่า "เอสโตรเจน" ตัวนี้ตรวจในช่วงนั้นจะมีประมาณ 300-400 ซึ่งเยอะมากๆ ผ่านมาเรื่อยๆ อาจจะเป็นจากสายทำงานหนัก นอนน้อย กินของไม่ดี ก็จะฮอร์โมนตกเหลือ 200 แล้วเป็นสาเหตุให้หมดประจำเดือนไวขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าฮอร์โมนกำลังจะหายไป บางทีเราเข้าใจว่าพอแก่แล้ว ประจำเดือนหมด ฮอร์โมนหมดก็เป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วฮอร์โมนไม่ใช่แค่เรื่องผิว หรือการมีลูก แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องสมองด้วย ถ้าฮอร์โมนหมดเมื่อไหร่ อาจจะนอนไม่หลับหรือทำให้อ้วนง่าย

พฤติกรรมแบบไหนที่เสี่ยงทำให้ฮอร์โมนพัง ?

การนอนหลับ การดูสื่อโซเชียลจนนอนดึก การฟังเพลงก่อนนอนเปิดโทรทัศน์เปิดไฟเป็นเพื่อน ร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต" เขาจะรู้ว่ากลางคืนแล้ว โกรทฮอร์โมนจะสร้างเฉพาะตอน 22:00 น. ถึง 02:00 น. เท่านั้น หากนอนผิดเวลา หรือนอนหลังเที่ยงคืน โกรทฮอร์โมนก็จะหายไปเรื่อย ๆ ทำแบบนี้เรื่อย ๆ จะทำให้สมองเบลอ คิดช้า หลงลืมง่าย

สัญญาณที่บอกว่าฮอร์โมนกำลังรวนมีอะไรบ้าง ?

นอนหลับยาก หลับไม่สนิท ระบบเผาผลาญของร่างกายมีปัญหา ออกกำลังกายและคุมอาหารแล้ว แต่น้ำหนักขึ้นง่ายลงยาก หรือน้ำหนักไม่ลด หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว หรือเหงา เศร้า ผิวแห้งง่าย แต่งหน้าแล้วตกร่อง หรือการทำหัตถการไม่ค่อยได้ผล การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว

ถ้าปล่อยให้ฮอร์โมนพัง จะเกิดอะไรขึ้น ?

ฮอร์โมนพังเป็นภัยเงียบที่เราคิดไม่ถึง มีอยู่ 4 โรคด้วยกัน คือ

1.ติดเตียง ก็คือสโตรก อัมพฤกษ์ อัมพาต ฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงมีผลทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น หากฮอร์โมนต่ำลง ไขมันสูง น้ำตาลสูง ร่างกายมีสารพิษ หรือนอนน้อย โอกาสที่เส้นเลือดจะแตก ตีบ หรือเกิดอาการปากเบี้ยวหน้าเบี้ยวก็จะสูงขึ้น พบได้บ่อยในคนไข้ที่ฮอร์โมนต่ำและคนที่คิดว่าตัวเองแก่แล้วไม่เป็นไร

2.ความเสี่ยงของเนื้องอก หรือมะเร็ง งานวิจัยระบุว่า เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงต่ำกว่าวัยที่ควรจะเป็น แม้ในวัย 60-70 ปีก็ต้องมีฮอร์โมนอยู่ หากฮอร์โมนต่ำจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร

3.โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง จะเริ่มมาด้วยอาการผิวแห้ง เริ่มมีผื่น ลมพิษเรื้อรัง บางคนผมเริ่มร่วง เริ่มปวดข้อ สิ่งเหล่านั้นทำให้บางทีคิดว่าเป็น Office syndrome แต่จริง ๆ แล้วเป็นอาการของโรคแพ้ภูมิตัวเอง ปัจจุบันมีผู้หญิงเป็นโรคนี้เยอะกว่าเมื่อก่อนมาก

4.กลุ่มอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม เมื่อหลับไม่ดี โกรทฮอร์โมนก็ไม่หลั่ง ทำให้เซลล์สมองเสื่อมเร็ว โรคอัลไซเมอร์ปัจจุบันพบได้ในคนอายุ 50-60 กว่าปี มีอาการหลงลืม นึกคำพูดไม่ออกหรือประมวลผลช้าลง

วิธีแก้ปัญหาฮอร์โมนตก

ต้องหมั่นสังเกตอาการว่ากำลังเข้าข่ายฮอร์โมนตกหรือไม่ แล้วค้นหาต้นเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนพัง เช่น กินน้ำตาลเยอะ นอนดึก หรือมีสารพิษสูง หากหาต้นเหตุเจอแล้ว ให้ปรับแก้ที่ต้นเหตุนั้น เช่น

ลดน้ำตาล น้ำตาลคือยาพิษ ทำให้ฮอร์โมนพัง ควรกำหนดวันที่จะกิน เช่น 7 วัน หยุด 1 วัน เป็นวัน cheat day หากน้ำตาลเยอะ ฮอร์โมนก็จะลดลง และความแก่ก็จะมาเยือน จากงานวิจัยน้ำตาลเป็นต้นกำเนิดที่ทำให้ระบบลำไส้ที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมสารอาหารเกิดการดูดซึมไม่ดี ลำไส้เกิดการอักเสบมากขึ้น ทำให้สารอาหารที่ควรกินไม่ถูกดูดซึม หรือดูดซึมช้าลง น้ำตาลเข้าไปในร่างกายเมื่อไหร่ เซลล์ในร่างกายทั้งหมดจะอักเสบ ทั้งเซลล์สมอง เซลล์รังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิงก็จะฝ่อไม่ผลิตฮอร์โมน เซลล์ผิวหนังก็เหี่ยวง่าย แม้แต่การทำหัตถการก็อาจอยู่ได้สั้นลง

เพิ่มอาหารที่มีโปรตีนสูง การสร้างฮอร์โมนเพศหญิงโดยการเพิ่มอาหารที่มีโปรตีนสูงก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องกินให้ถูกด้วย หากผู้หญิงมีโปรตีนเพียงพอก็จะไม่ค่อยป่วย ต้องคำนวณโปรตีนตามน้ำหนักตัวขั้นต่ำควรกินโปรตีนเท่ากับน้ำหนักตัวเป็นกรัม เช่น น้ำหนัก 50 กก. ควรกินโปรตีนขั้นต่ำ 50 กรัม/วัน สำหรับผู้หญิงวัย 50 บวก ควรกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ 50% และ Plant-based 50% วัยนี้ระบบย่อยและการดูดซึมเริ่มมีปัญหา เนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายที่สุดคือเนื้อปลา โดยแนะนำปลาขนาดเล็ก ตัวไม่เกิน 1-2 กก. เพื่อหลีกเลี่ยงสารพิษโลหะหนักมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งรวมถึงเนื้องอกต่าง ๆ Plant-based คือโปรตีนจากพืชจากถั่ว ธัญพืช สามารถกินในรูปสำเร็จรูปได้ แต่ควรเลือกที่เป็น Organic และมีมาตรฐานรับรอง

ลดอาหารที่มีสารพิษสูง สารพิษมาจาก 2 ทางหลัก คือ 80% มาจากอาหาร กลุ่มประเภทซีฟู้ด ปลาไซส์ใหญ่ และ 20% มาจากพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ หรือสิ่งแวดล้อม การอุ่นอาหารค้างคืนซ้ำๆ จะก่อให้เกิดเชื้อราในอาหาร หากกินไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดการอักเสบของลำไส้ เป็นที่มาว่าทำไมคนไทยถึงมีอัตราการเสียชีวิตหรือการเป็นมะเร็งลำไส้ กระเพาะอาหารสูงขึ้น

ปรับการนอน ร่างกายไม่ได้หลับลึกหากต้องการนอนหลับดีต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ เช่น ปรับสมดุลวิตามิน ฮอร์โมน หากแก้ที่ปลายทางโดยการกินยานอนหลับจะทำให้ติดยา และต้องเพิ่มปริมาณยาหรือเปลี่ยนยาที่แรงขึ้น ซึ่งจะทำให้เซลล์สมองเสื่อม ง่วง เพลีย ไม่กระปรี้กระเปร่า และมีอาการขี้หลงขี้ลืมตามมา

หลายคนเข้าใจผิดว่าออกกำลังกายเต็มที่แล้วจะกินอะไรก็ได้ นอนดึกแค่ไหนก็ได้ แต่จริงๆ แล้วร่างกายจะแข็งแรงได้ คือนอนดี กินดี ออกกำลังกาย คนยุคใหม่มักออกกำลังกายผิดเวลา เช่น 22:00-23:00 ซึ่งผิดเวลาการออกกำลังกายตอนกลางคืนเป็นการไปปลุกให้ฮอร์โมนตื่น ร่างกายจะงง คนที่ออกกำลังกายกลางคืนหน้าจะแก่เร็ว

ตื่นมาตอนเช้าควรรับประทานโปรตีนก่อน เพราะเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุด ช่วยบูสต์พลังงาน ทำให้สดชื่นทั้งวัน การออกกำลังกายทำได้ในตอนเช้า กลางวัน บ่าย แต่หลัง 19:00 น. ไม่ได้ เพราะฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจะเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ นอนดึกออกกำลังกายตอนกลางคืนจะทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับมากขึ้น

Advertisement

แชร์
เช็กลิสต์พฤติกรรมแบบไหนทำฮอร์โมนพัง! เสี่ยงมะเร็ง ติดเตียง ไม่รู้ตัว?