ทรัมป์ให้คำมั่นปี 2026 เศรษฐกิจอเมริกาจะปัง! สวนทางค่าครองชีพสูงลิ่ว
ชาวอเมริกันไม่ค่อยเชื่อ แม้ทรัมป์ลั่นเศรษฐกิจ 2026 ปังแน่!
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยครั้งสำคัญในวันนี้ (18 ธันวาคม 2025) ณ ห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว ในวาระการแถลงผลงานอย่างเป็นทางการต่อคนทั้งชาติ โดยเน้นย้ำถึงแผนการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งเขาอ้างว่ากำลังแก้ไขความวุ่นวาย ที่ได้รับสืบทอดมาจากการบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสัญญาว่าจะทำให้เกิดยุคทองทางเศรษฐกิจ ในปี 2026
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การปราศรัยดังกล่าวใช้เวลาทั้งหมดราว 20 นาที โดยทรัมป์เริ่มเปิดประเด็นด้วยการโจมตีผลงานของโจ ไบเดน อย่างรุนแรง ผู้สื่อข่าวการเมืองระหว่างประเทศของ Aljazeera วิพากษ์วิจารณ์ว่า สุนทรพจน์ของทรัมป์เป็นเพียงสุนทรพจน์หาเสียงเท่านั้น เพราะไม่มีการประกาศสงคราม ไม่มีนโยบายสำคัญใด ๆ ไม่มีการล็อบบี้เพื่อผลักดันร่างกฎหมายสำคัญ อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงปัญหาค่าครองชีพสูงลิ่วในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
ทรัมป์กล่าวเพียงว่าราคาสินค้าต่างๆ รวมถึงรถยนต์ กำลังลดลงในทุกด้าน แม้นักการเมืองจากพรรคเดโมแครตจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้น แต่รัฐบาลของเขาก็กำลังแก้ไขปัญหานั้นอยู่เช่นกัน
สำหรับปี 2026 ทรัมป์ประกาศว่า จะมีการเสนอชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เขากล่าวว่า “ผมจะประกาศชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐคนต่อไปในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่จะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอย่างมาก และค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้านก็จะลดลงด้วย”
สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งเน้นไปที่การสื่อสารข้อความง่ายๆ ไปยังประเทศชาติ นั่นคือ แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่มาตรการของทรัมป์กำลังได้ผล ราคาสินค้าเริ่มลดลง และเศรษฐกิจกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเฟื่องฟู อย่างไรก็ตาม อาจขัดแย้งกับมุมมองของชาวอเมริกันส่วนใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่ามีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับค่าครองชีพ และความเห็นชอบต่อการบริหารเศรษฐกิจของทรัมป์อยู่ในระดับต่ำ
ผลสำรวจความคิดเห็นของ NPR/PBS News/Marist ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ พบว่า มีเพียง 36% ที่เห็นด้วยกับผลงานด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ และ 45% ระบุว่า ราคาสินค้าเป็นประเด็นหลักที่พวกเขากังวลในเรื่องเศรษฐกิจ ขณะที่ 60% รู้สึกมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับปีที่จะมาถึง และมากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าประเทศกำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว
CNN เผยทรัมป์กล่าวข้อมูลเท็จตัวเลขลงทุนในสหรัฐฯ
CCN รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวซ้ำคำกล่าวอ้างเท็จของเขาอีกครั้งว่ามีการลงทุนในสหรัฐฯ “18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง โดยกล่าวว่า “ผมได้ดึงดูดการลงทุนจำนวนมหาศาลถึง 18 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่สหรัฐอเมริกา”
แต่ตัวเลขนี้เป็นเรื่องสมมติ ในขณะที่เขากล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันพุธ เว็บไซต์ของทำเนียบขาวเอง ระบุตัวเลขการลงทุนแท้จริงในปีนี้เท่ากับ “9.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” ซึ่ง CNN เชื่อว่าแม้ทำเนียบขาวจะเปิดเผยตัวเลขที่น้อยลงกว่าครึ่งหนึ่งจากคำพูดของทรัมป์ แต่ตัวเลขในเว็บไซต์ก็อาจจะเกินจริงด้วยซ้ำ
การตรวจสอบอย่างละเอียดของ CNN ในเดือนตุลาคมพบว่าทำเนียบขาวนับเงินหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในคำมั่นสัญญาการลงทุนที่ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับ “การค้าทวิภาคี” หรือ “การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ” มากกว่าการลงทุนในสหรัฐฯ หรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่ไม่ชัดเจนจนถือเป็นคำมั่นสัญญาด้วยซ้ำ
ทรัมป์ปราศรัยชื่นชมผลงาน กำแพงภาษี-ผู้อพยพ
ในตอนหนึ่งของการปราศรัย ทรัมป์กล่าวว่าทั่วโลก "ไม่ได้หัวเราะเยาะ" สหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่เขาประกาศใช้มาตรการกำแพงภาษีกับหลายประเทศทั่วโลก เขากล่าวว่าก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ไม่ได้รับการยอมรับอย่างจริงจังภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนก่อน แต่กลับได้รับความเคารพและชื่นชมมากขึ้นในระหว่างดำรงตำแหน่งของเขา
ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ มีข้อตกลงทางการค้าที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอเมริกาของเราถูกหัวเราะเยาะจากทั่วโลก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่หัวเราะเยาะเราอีกแล้ว เพราะในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา เราได้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมาสู่กรุงวอชิงตันมากกว่ารัฐบาลใด ๆ ในประวัติศาสตร์อเมริกา ไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน และเขาคิดว่าคนส่วนใหญ่คงเห็นด้วย
นอกจากนี้ เขายังยกย่องผลงานด้านการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อหยุดยั้งการไหลเข้ามาของผู้อพยพผิดกฎหมาย เขากล่าวว่า“ตลอดเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ไม่มีชาวต่างชาติที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายแม้แต่คนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยบอกว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน” เขาโจมตีโจ ไบเดนว่ามอบมรดกเป็นพรมแดนที่แย่ที่สุดในโลก จากการปล่อยให้ผู้อพยพผิดกฎหมายเข้ามาตั้งรกราก แต่รัฐบาลทรัมป์ก็เปลี่ยนมันให้กลายเป็นพรมแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างรวดเร็ว
การประกาศนโยบายลดราคายา
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเน้นย้ำข้อตกลงที่เขาทำไว้กับบริษัทผลิตยา โดยระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยลดราคายาลง เขากล่าวว่า “ราคายาของคุณจะลดลงอย่างฮวบฮาบ และผมใช้การขู่เรื่องภาษีนำเข้าเพื่อบีบให้ประเทศต่าง ๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำเช่นนี้มาก่อน ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจากการลดราคาครั้งใหญ่ในครั้งนี้”
ประธานาธิบดีได้ประกาศข้อตกลงด้านราคาที่เรียกว่า “ข้อตกลงประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษที่สุด” กับผู้ผลิตยา 5 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดราคายาที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะหาได้ในประเทศคู่แข่ง ภายใต้ข้อตกลงโดยสมัครใจเหล่านี้ บริษัทต่างๆ กล่าวว่า พวกเขาจะจำหน่ายยาให้กับโครงการเมดิเคด (Medicaid)
ยาช่วยลดน้ำหนักยอดนิยมบางชนิดจะมีราคาเริ่มต้นเพียง 149 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน และผู้เข้าร่วมโครงการประกันสุขภาพเมดิแคร์จะสามารถเข้าถึงยาเหล่านี้ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตยาได้ให้คำมั่นว่าจะเข้าร่วมในแพลตฟอร์มออนไลน์ TrumpRx ใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้งานในเดือนมกราคม เว็บไซต์นี้จะนำผู้เข้าชมไปยังช่องทางการขายตรงถึงผู้บริโภคของบริษัทผู้ผลิตยา ซึ่งผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะวางจำหน่ายในราคาลดพิเศษสำหรับผู้ที่ชำระเงินสดและไม่ใช้ประกันสุขภาพ
