ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ตั้ง “ข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” ต่ออดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เตของฟิลิปปินส์ โดยเขาถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรับผิดชอบต่อการฆาตกรรมประชาชนหลายสิบราย อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการ “ทำสงครามยาเสพติด” ซึ่งมีการสังหารพ่อค้ายารายใหญ่ รายย่อย ผู้ใช้และคนอื่น ๆ โดยไม่มีการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน
ในเอกสารการตั้งข้อหาของ ICC ซึ่งลงวันที่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวานนี้ (22 กันยายน) ระบุไว้ว่า ดูแตร์เตเป็นผู้ร่วมกระทำผิดทางอ้อมในการสังหารดังกล่าว ซึ่งศาลอ้างว่า คนที่ลงมือสังหารคือคนอื่น และมีตำรวจรวมอยู่ด้วย
ข้อหากระทงแรกที่ตั้งต่อดูแตร์เตแสดงความเป็นกังวลว่า เขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารประชาชน 19 คนที่เมืองดาเวา ระหว่างปี 2013-2016 ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของที่นั่น
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งอีกสองข้อหาที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระหว่างปี 2016-2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาประกาศนโยบายทำสงครามยาเสพติด
อัยการได้อ้างถึงวิธีที่ดูแตร์เตและผู้กระทำผิดร่วมคนอื่น ๆ ได้คุยกันเรื่องแผนการและข้อตกลงเพื่อกำจัดอาชญากรรมในฟิลิปปินส์ ผ่านการก่ออาชญากรรมความรุนแรง ซึ่งรวมถึงการฆาตกรรม
ดูแตร์เตไม่เคยขอโทษต่อการปราบปรามยาเสพติดของเขา ซึ่งทำให้มีประชาชนกว่า 6,000 คนเสียชีวิต แต่นักเคลื่อนไหวเชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้ โดยดูแตร์เตย้ำว่า เขาปราบปรามยาเสพติดเพื่อกำจัดอาชญากรรมข้างถนน
ดูแตร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กลายเป็นอดีตผู้นำเอเชียคนแรกที่ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ตั้งข้อหา และยังเป็นผู้ต้องหาคนแรกในรอบกว่า 3 ปีที่ถูกส่งตัวไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาล โดยเขาถูกควบคุมตัวที่นั่นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทนายความของดูแตร์เตระบุว่า อดีตประธานาธิบดีมีสุขภาพย่ำแย่ ไม่สามารถขึ้นศาลพิจารณาคดีได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้จะถูกคุมขังอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ ดูแตร์เตก็ยังได้รับเลือกอีกครั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ขณะที่ลูกชาย เซบาสเตียน ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาตั้งแต่ปี 2022 ยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนบิดา
ด้านผู้สนับสนุนดูแตร์เตกล่าวหาว่า ศาล ICC ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งมีความบาดหมางกับตระกูลดูแตร์เตอย่างเปิดเผย
ศาล ICC ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สามารถเข้าแทรกแซงเมื่อประเทศต่าง ๆ ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถดำเนินคดีผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงที่สุด เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ICC เริ่มต้นการสืบสวนการทำสงครามยาเสพติดของดูแตร์เต ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2011 ระหว่างที่เขายังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา จนถึงวันที่ 16 มีนาคม 2019 โดยมองว่า เข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และในปี 2019 ดูแตร์เตได้พาฟิลิปปินส์ถอนตัวจากธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสนธิสัญญาเพื่อจัดตั้งตุลาการระหว่างประเทศ มีหน้าที่ผู้กระทำความผิดร้ายแรง และมีผลกระทบต่อหลายประเทศ เช่น การล้างชาติ โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามของดูแตร์เตที่จะหลบหนีความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ศาล ICC ไม่มีอำนาจในการจับกุมผู้ต้องหาได้โดยตรง หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศที่ผู้ต้องหาพำนักอยู่ ซึ่งโดยทั่วไปมักถูกปฏิเสธ และก่อนหน้านี้ มาร์กอสก็เคยแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการร่วมมือกับ ICC ในการดำเนินการจับกุม