นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยกรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนบริเวณรอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย ซึ่ง 1 ในนี้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด
นายจิรายุ กล่าวว่า ล่าสุด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2568) ร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาในพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งในการประชุมฯ ฝ่ายไทยได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันแต่กัมพูชาปฏิเสธ ทั้งนี้ ได้ขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และนครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่างๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ของกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
ขอย้ำว่า ไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) หรือ ศาลโลก มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน แต่ไทยจะยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เอาผิดกัมพูชา เป็นอาชญากรรมสงคราม มีการทำร้ายพลเรือนอย่างชัดเจน
"รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการกระทำของกัมพูชา ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่กองกำลังไทยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้" นายจิรายุ กล่าว
Advertisement