เปิดลัทธิแปลก ‘มูนนี่ส์’: ผู้นำฯ ถูกสอบปมติดสินบนนักการเมืองเกาหลีใต้

"ไม่... ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย?" ฮัน ฮักจา หญิงชราวัย 82 ปี กล่าวเสียงแข็งต่อหน้าสื่อมวลชนที่มารุมล้อม หลังเจ้าหน้าที่อัยการสอบปากคำเข้มนานถึง 9 ชั่วโมง เธอปฏิเสธข้อหาที่ว่าองค์กรทางศาสนาของเธอ โบสถ์แห่งความสามัคคี (Unification Church) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ลัทธิมูนนี่ส์” อาจมีเอี่ยวติดสินบนอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีใต้ คิม กอนฮี ด้วยของขวัญหรูหราเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดประวัติสายเทาอดีตสตรีหมายเลข1 เกาหลีใต้ ถูกจับฐานปั่นหุ้น-รับสินบน

ศาลเกาหลีใต้ลงดาบ สั่งถอดปธน. ยุน ซอกยอล เหตุใช้กฎอัยการศึกยึดอำนาจ

เกาหลีเหนือรายงานการจับกุม “ยุน ซอกยอล” ปธน. เกาหลีใต้

ก่อนหน้านี้ คิม กอนฮี ภรรยาของอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำด้วยหลายข้อกล่าวหา หนึ่งในนั้นคือคดีอื้อฉาวที่เธอรับกระเป๋า Chanel สองใบ และสร้อยเพชรหนึ่งเส้น ซึ่งรวมมูลค่า 80 ล้านวอน (ประมาณ 2,100,000 บาท) จากคริสตจักรชื่อดังแห่งนี้ นางฮัน ฮักจา ออกมาโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของคริสตจักร ชี้ว่า เจ้าหน้าที่คนนั้นได้มอบของมีค่าเหล่านั้นให้อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเอง เธอไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือสั่งการใด ๆ

‘ฮัน ฮักจา’ คือใคร? อิทธิพลมากแค่ไหน?

‘ฮัน ฮักจา’ คนนี้ เป็นภรรยาม่ายของมูน ซอนมยอง ผู้ก่อตั้งคริสตจักรแห่งความสามัคคี (The Unification Church) ในเกาหลีใต้ ซึ่งได้ล่วงลับไปแล้ว ในปี ค.ศ. 2012 ด้วยวัย 92 ปี ภรรยาของเขาจึงได้ขึ้นเป็นประธานคริสตจักรแห่งความสามัคคีคนปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ เธอถูกเพ่งเล็งว่าทำการเรี่ยไรเงิน รับบริจาคเงิน และจัดหาสินทรัพย์ที่มีมูลค่าให้กับรัฐบาลยุน ซอกยอล

แม้ลัทธิมูนนีส์จะถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ต้องยอมรับว่า ในสังคมเกาหลีใต้ มี8oจำนวนไม่น้อยเลยที่ศรัทธาในองค์กรศาสนาดังกล่าว เธอจึงถูกเรียกขานโดยสาวกว่า “มารดาที่แท้จริง” (True Mother) ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญเคียงคู่กับสามีของเธอในฐานะ "บิดาที่แท้จริง" (True Father) ตามหลักคำสอนของคริสตจักร

อย่างไรก็ตาม การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของเธอก็ทำให้เกิดดราม่าภายในองค์กร จนนำไปสู่ความแตกแยกของสาวก เนื่องจากสาวกส่วนหนึ่งเชื่อว่า ผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากมูน ซอนมยอง ผู้ก่อตั้ง ควรจะเป็นลูกชายของเขา ฮยอน จิน-มูน แต่สุดท้าย ฮัน ฮักจา กลับขึ้นเป็นผู้นำแทน ทำให้ลูกชายของเธอกล่าวหาว่าเธอละเลยความต้องการสุดท้ายของบิดา

เพื่อตอบโต้การกระทำของมารดา ฮยอน จิน-มุน ได้ก่อตั้งกลุ่มของตัวเองชื่อ Global Peace Foundation โดยมีสมาชิกจำนวนหนึ่งจากคริสตจักรเดิมติดตามเขาไป ทำให้เกิดเป็นสองกลุ่มย่อยที่มีความขัดแย้งกันและแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าตนเองเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริง

“ลัทธิมูนนี่ส์” แปลกแต่สาวกนับล้านยังศรัทธา

ผู้คนจำนวนมากในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะจากคริสตจักรโปรเตสแตนต์หลักๆ มักจะมองว่าคริสตจักรแห่งความสามัคคีเป็น ลัทธิ (cult) หรือลัทธินอกรีต เนื่องจากหลักคำสอนและแนวปฏิบัติที่แตกต่างไปจากศาสนาคริสต์กระแสหลัก มีรายงานว่า จำนวนสมาชิกทั่วโลกของคริสตจักรแห่งความสามัคคีอยู่ในหลักแสนถึงหลักล้านคน แต่จำนวนสมาชิกในเกาหลีใต้เองไม่ได้มีสัดส่วนที่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด

แม้จะมีจำนวนสมาชิกไม่มากนัก แต่คริสตจักรแห่งความสามัคคีมีอิทธิพลอย่างมากผ่านอาณาจักรธุรกิจที่กว้างขวางและความสัมพันธ์กับนักการเมือง ซึ่งทำให้กลุ่มนี้มีอำนาจและอิทธิพลในสังคมเกาหลีใต้เกินกว่าจำนวนสมาชิกที่แท้จริง

คำสอนและกิจกรรมของคริสตจักรแห่งความสามัคคีที่ถูกมองว่า "แปลก" หรือ "ผิดปกติ" มักจะเกี่ยวข้องกับการตีความหลักศาสนาที่แตกต่างออกไป รวมถึงพิธีกรรมที่ไม่เหมือนใคร หนึ่งในนั้นคือ พิธีแต่งงานหมู่ (Mass Weddings) นับเป็นกิจกรรมที่สร้างชื่อเสียงให้ลัทธิมากที่สุด  ผู้ติดตามจะเข้าร่วมพิธี "อวยพร" ซึ่งมีคู่รักหลายพันคู่แต่งงานพร้อมกัน บางคู่ถูกผู้นำอย่างมุน ซอนมยอง เป็นผู้จับคู่ให้ ซึ่งบางครั้งทั้งคู่ก็เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก พิธีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระล้างบาปทางสายเลือดที่สืบทอดมาจากอาดัมและอีฟ และสร้างครอบครัวในอุดมคติของพระเจ้าขึ้นใหม่บนโลก

นอกจากนี้ มูน ซอนมยอง ยังสอนว่าตัวเองคือ "พระเมสสิยาห์" องค์ที่สอง และได้รับภารกิจจากพระเจ้าให้มาสร้างอาณาจักรแห่งสวรรค์บนโลก ซึ่งเป็นภารกิจที่พระเยซูไม่ได้ทำสำเร็จตามคำสอนของเขา คำสอนนี้แตกต่างจากศาสนาคริสต์กระแสหลักที่เชื่อว่า พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าและพระผู้ไถ่บาปเพียงองค์เดียว

อีกหนึ่งความอื้อฉาวของลัทธินี้ คือ สมาชิกถูกกระตุ้นให้บริจาคเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งบางครั้งก็เกินความสามารถทางการเงินของตัวเอง เพื่อช่วยในการ "ชดใช้บาป" และสนับสนุนภารกิจของผู้นำ ทำให้ผู้ติดตามบางคนต้องขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อบริจาค นำไปสู่ปัญหาหนี้สินในครอบครัวตามมา 

ปลายทางของเงินบริจาค และการเสื่อมอำนาจ

การบริจาคเงินที่เกิดจากการบีบบังคับจนสาวกสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ผู้ก่อตั้งและผู้นำของคริสตจักรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีวิถีชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย และคริสตจักรได้ใช้เงินทุนมหาศาลเพื่อลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภททั่วโลก เช่น อสังหาริมทรัพย์ สื่อสิ่งพิมพ์ อุตสาหกรรมอาหารทะเล และอื่น ๆ 

โบสถ์ดังกล่าวเคยตกเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้ง เช่น Shukan Bunshun และ TBS News เคยรายงานในปี 2022 ว่า ระหว่างปี 2008 - 2011 ฮัน ฮักจา และผู้บริหารโบสถ์  สูญเงินกว่า 6  ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในกาสิโนที่ลาสเวกัส ตามบันทึกธุรกรรมของ MGM Resorts International โดยมีการถูกกล่าวหาว่า พวกเขาใช้เงินบริจาคจากผู้ศรัทธาในการเล่นพนัน

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ลัทธิดังกล่าวถูกเพ่งเล็งและตรวจสอบจากรัฐบาลทั่วโลก กลับเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น หลังอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะถูกลอบสังหาร รัฐบาลญี่ปุนขณะนั้น ได้เปิดโปงความสัมพันธ์ลับ ๆ ระหว่างโบสถ์แห่งความสามัคคี กับนักการเมืองพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) การสอบสวนภายในของพรรคพบว่า สมาชิกพรรค 179 คนจาก 379 คน เคยมีความเกี่ยวข้องกับโบสถ์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมกิจกรรม การรับบริจาค หรือได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้ง

ศาลแขวงโตเกียวมีคำสั่งยุบคริสตจักรแห่งความสามัคคี ตามคำร้องขอของกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น โดยอ้างว่า การกระทำของคริสตจักรสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อสวัสดิภาพของสาธารณชน 

ปัจจุบัน คริสตจักรแห่งความสามัคคียังคงมีอยู่ในหลายประเทศ และไม่ได้ถูกกวาดล้างไปอย่างสิ้นเชิง แต่ได้รับแรงต่อต้านอย่างหนักและถูกแบนในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์

คอนเทนต์แนะนำ

กินปุ๊บปวดปั๊บ ซัดกาแฟยิ่งกระตุ้นหนัก ท่อตรงแบบนี้ผิดปกติไหม?

จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคนเรา หลังลมหายใจสุดท้ายหมดไป

ปวดส้นเท้าเรื้อรัง สัญญาณเตือน “จุดเกาะเอ็นร้อยหวายอักเสบ”