ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาไม่ต้องการทำให้บริษัทต่างชาติกลัวหรือท้อใจ หลังเกิดเหตุการณ์บุกจับแรงงานเกาหลีใต้ ซึ่งสร้างความตกตะลึง
รายงานระบุว่า ในบรรดาแรงงานเกาหลีใต้ที่ถูกจับ เข้ามาทำงานตามข้อตกลงการค้าที่เกาหลีใต้ทุ่มเงินมหาศาลลงทุนเพิ่มในสหรัฐฯ และบางคนก็ทำงานอย่างถูกกฎหมาย แต่บางคนก็มีปัญหาเรื่องวีซ่า
อย่างไรก็ตาม แม้ทรัมป์จะไม่พอใจเท่าไรกับการบุกจับครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า จะแก้ปัญหาเรื่องวีซ่าอย่างไร
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยวานนี้ (14 กันยายน) ว่า เขาไม่ต้องการทำให้การลงทุนจากต่างชาติหวาดกลัวหรือท้อใจ โดยย้ำว่า เขาต้องการบริษัทต่างชาติเข้ามาช่วยสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ชิปและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนต้องใช้ความชำนาญ เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นนำแรงงานเข้ามายังสหรัฐฯ ฝึกอบรมทักษะให้แรงงานชาวอเมริกัน
ทรัมป์โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางคำถามความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งลงทุน หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เข้าจับกุมกวาดล้างผู้อพยพ ในเขตก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่แห่งหนึ่งที่รัฐจอร์เจีย และส่งแรงงานชาวเกาหลีใต้กว่า 310 คนที่ถูกจับกุมกลับประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา
“ผมไม่ต้องการทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือท้อใจต่อการลงทุนในอเมริกา โดยประเทศหรือบริษัทต่างชาติ” และยังระบุด้วยว่า “เรายินดีต้อนรับพวกเขา เราต้อนรับพนักงานของพวกเขา และเราเต็มใจอย่างยิ่งที่จะพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า เราจะเรียนรู้จากพวกเขา และทำให้ดีกว่า”
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เขาต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ พาแรงงานที่มีทักษะมาสอนแรงงานชาวอเมริกัน แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายว่า แล้วรัฐบาลของเขาจะแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าอย่างไร เพื่อให้บริษัทต่างชาติเหล่านั้นสามารถนำพนักงานมายังสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีปัญหา
ปัญหาเรื่องวีซ่าการทำงานในสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่พนักงานมีทักษะชาวเกาหลีใต้เผชิญมาตลอด แต่ในเหตุการณ์บุกกวาดล้างจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอ้างว่า แรงงานชาวเกาหลีใต้หลายคนเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายหรืออยู่เกินกำหนดวีซ่า แต่ทนายความของคนงานบางส่วนยืนยันว่าลูกความของพวกเขาทำงานอย่างถูกกฎหมาย
หลายคนจึงตกตะลึงเมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและบังคับใช้กฎหมายศุลกากร (ICE) บุกเข้าตรวจค้น และใส่กุญแจมือคนที่ถูกจับกุม แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้รีบไปเจรจากับสหรัฐฯ ในทันที และบรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัว อีกทั้งยังให้คำมั่นว่า ทางการเกาหลีใต้กำลังพยายามปรับปรุงระบบวีซ่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การจับกุมแรงงานชาวเกาหลีใต้ก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงถึงคำถามที่ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงการลงทุนได้อย่างไร เมื่อเกิดการบุกจับกุมแรงงานเช่นนี้
ตามข้อตกลงทางการค้าที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้ประกาศลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ก็เน้นย้ำถึงความปรารถนาที่จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการสร้างชิปของสหรัฐฯ ผ่านโครงการที่ตั้งชื่อไว้ว่า Make American Shipbuilding Great Again
ระหว่างการแถลงข่าว ประธานาธิบดีอี แจมยองของเกาหลีใต้ก็แสดงความเป็นกังวล เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่การบุกจับแรงงานที่เขตก่อสร้างโรงงานแบตเตอรีของเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการลงทุนในสหรัฐฯ ในอนาคต
Yonhap