ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยล่าสุดต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 ก.ค.) ว่า เขากำลังขีดเส้นตายให้รัสเซีย โดยอาจจะให้เวลาเพียงแค่ 10-12 วันจากวานนี้ เพื่อให้รัสเซียเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน หลังก่อนหน้านี้ เขาเคยประกาศว่า จะให้เวลารัสเซีย 50 วัน มิฉะนั้นจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจลงโทษรัสเซียชุดใหม่ หากไม่ยอมเจรจายุติสงคราม
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า ไม่มีเหตุผลให้ต้องรอแล้ว เขาก็อยากจะใจกว้าง แต่ก็ยังคงไม่เห็นกระบวนการใดคืบหน้าเลยในตอนนี้
แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมทรัมป์ตัดสินใจที่จะให้เวลารัสเซียอีกราว 10-12 วัน ก่อนจะใช้มาตรการภาษีใหม่กับรัสเซีย และใช้มาตรการคว่ำบาตรทางอ้อมกับเหล่าประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แต่นี่ก็เป็นสัญญาณล่าสุดของท่าทีที่เปลี่ยนไปของทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้มักพูดกลับไปกลับมาเกี่ยวกับสงครามยูเครน โดยบางครั้งโทษทั้งฝั่งรัฐบาลยูเครนและรัสเซียว่ามีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงหลัง ท่าทีของเขากลับดูมีความสม่ำเสมอมากขึ้น และมุ่งวิจารณ์รัฐบาลรัสเซีย รวมถึงพฤติกรรมของผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างตรงไปตรงมา
“เราคิดว่าเราให้เวลาเยอะมาก แต่หลังจากนั้น ประธานาธิบดีปูตินก็เริ่มยิงจรวดใส่หลายเมือง อย่างเคียฟ ทำให้มีคนตายจำนวนมาก” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ยังทบทวนภาษีและมาตรการคว่ำบาตรอื่น ๆ ที่จะทำให้รัฐบาลรัสเซียต้องยอมจำนน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ยุติสงครามในยูเครน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายสูงสุดตามที่ตั้งไว้ ซึ่งรวมถึงการยึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของยูเครนที่รัสเซียอ้างว่าได้ผนวกไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ควบคุมโดยสมบูรณ์ และการกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดด้านการทหารและนโยบายต่างประเทศต่อยูเครนหลังสงคราม ซึ่งมองแล้วแทบจะทำให้ยูเครนตกอยู่ภายใต้อาณัติของมอสโกโดยแทบสมบูรณ์
หากย้อนดูนับตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศสหรัฐฯ ในสมัยสอง ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาเข้าไปมีบทบาทในความขัดแย้งหลายประเทศ
ล่าสุด หลังยื่นมือเข้ามาในความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งทรัมป์ระบุว่า ตนมีบทบาทในการผลักดันให้ผู้นำของทั้งสองประเทศหารือกัน ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความว่า เพิ่งคุยกับรักษาการนายกฯ ไทย และนายกฯ กัมพูชามา ยินดีที่จะประกาศว่า หลังจากที่ทรัมป์ยื่นมือเข้าไป ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพแล้ว ขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่ยุติสงครามได้ เราช่วยเหลือไว้ได้หลายพันชีวิต ผมได้สั่งให้ทีมการค้าเริ่มเจรจาการค้าเลย ถึงตอนนี้ผมยุติสงครามไปได้เยอะมากในเวลา 6 เดือน ผมภูมิใจที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม สงครามยูเครนเป็นสิ่งที่ทรัมป์เคยประกาศเอาไว้ตั้งแต่เลือกตั้งว่า เขาจะยุติสงครามให้ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังขึ้นมารับตำแหน่ง แต่แล้วผ่านมาหลายเดือน ทรัมป์ก็ยังคงทำไม่ได้
ทรัมป์เคยพูดอยู่บ่อยครั้งว่า เขาสมควรจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งผู้ที่ได้รางวัลดังกล่าวประจำปีนี้จะได้รับการประกาศรายชื่อในเดือนตุลาคมนี้ และเขายังเคยโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่า เขานั้นมีบทบาทในการเจรจาระหว่างหลายประเทศ แต่ถึงกระนั้น เขากล่าวว่า ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ไม่มีวันได้รางวัลโนเบลสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม มีการเสนอชื่อทรัมป์เข้าชิงรางวัลดังกล่าวอยู่หลายครั้ง เช่น ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ยื่นจดหมายเสนอชื่อทรัมป์เข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ให้กับทรัมป์ระหว่างเยือนทำเนียบขาว โดยชี้ว่า ทรัมป์สมควรได้รับจากความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปากีสถานประกาศว่า วางแผนที่จะเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ โดยอ้างถึงบทบาทของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลปากีสถานระบุว่า ทรัมป์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการเจรจาหยุดยิงระหว่างอินเดียและปากีสถาน
ขณะที่ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นักการเมืองคนหนึ่งของยูเครนก็เสนอชื่อทรัมป์เข้าชิงโนเบลสาขาสันติภาพ แต่เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาไปขอถอนคำร้องแล้ว เพราะดูเหมือนว่าเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียหลุดออกนอกความสนใจของทรัมป์ไปแล้ว