สมาคมพันธมิตรนักข่าวกัมพูชา (CamboJA) รายงานว่า นักข่าวอย่างน้อย 9 คน ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุดรมีชัยเพื่อสอบปากคำ ขณะกำลังเดินทางไปทำข่าวความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งในจำนวนนี้มีนักข่าวต่างชาติรวมอยู่ 1 รายด้วย
หลังจากผ่านไป 10 นาที นักข่าวชาวกัมพูชา 7 คนได้รับการปล่อยตัว และได้รับอนุญาตให้นำอุปกรณ์ทั้งหมดคืนไปได้ อย่างไรก็ตาม นักข่าวที่เหลืออีก 2 คน ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระชาวต่างชาติและผู้ประสานงานในพื้นที่ ถูกควบคุมตัวไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ตำรวจได้ยึดกล้องและสมาร์ทโฟนของพวกเขาไปตรวจสอบเพื่อหารูปภาพเกี่ยวกับการระดมพลทหาร อาวุธ หรือทหาร
โดยปกติแล้ว สื่อหลายสำนักในกัมพูชามักถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาลกัมพูชา แต่สำหรับ Cambodian Journalists Alliance (CamboJA) หรือ สมาคมพันธมิตรนักข่าวกัมพูชา เป็นองค์กรเครือข่ายของนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อในกัมพูชา ซึ่งเป็นอิสระและดำเนินการโดยสมาชิกเอง และมุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชนสื่อที่แข็งแกร่ง และส่งเสริมสื่ออิสระและเสรีภาพในการแสดงออก
ในโพสต์ล่าสุดของเฟซบุ๊กเพจ CamboJA ระบุว่า ขณะนี้สมาคมฯ กําลังร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ในการจัดหาอุปกรณ์หรือวัสดุความปลอดภัยที่จําเป็น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อกั๊กกันกระสุน เสื้อกั๊กมีโลโก้ "PRESS" หมวกกันน็อก และชุดปฐมพยาบาล เพื่อเพื่อให้แน่ใจว่านักข่าวที่ทำงานในแนวปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาได้รับความปลอดภัย ตำรวจได้ยึดกล้องและสมาร์ทโฟนของพวกเขาไปตรวจสอบเพื่อหารูปภาพเกี่ยวกับการระดมพลทหาร อาวุธ หรือทหาร
นอกจากนี้ นักข่าวยังถูกขอให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งรายการอุปกรณ์ และให้รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมการรายงานข่าวของพวกเขาด้วย
ทั้งนี้ สำนักข่าวส่วนใหญ่ในกัมพูชาถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาล ซึ่งไม่พบการรายงานตรวจสอบรัฐบาลกัมพูชาเท่าใดนัก แต่ "CamboJA" ชื่อเต็ม Cambodian Journalists Alliance หรือสมาคมพันธมิตรนักข่าวกัมพูชา เป็นองค์กรเครือข่ายของนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อในกัมพูชา โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือข่ายสื่อที่แข็งแกร่ง และส่งเสริมสื่ออิสระและเสรีภาพในการแสดงออก
นอกจากนี้ CamboJA ยังรายงานในโพสต์หนึ่งระบุว่า ขณะนี้สมาคมพันธมิตรนักข่าวกัมพูชา กําลังร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ในการจัดหาอุปกรณ์หรือวัสดุป้องกันอันตรายที่จําเป็น ได้แก่ เสื้อกั๊กกันกระสุนและหมวกกันน็อก, ชุดปฐมพยาบาล และ เสื้อกั๊กมีโลโก้ "PRESS" เพื่อให้แน่ใจว่าความปลอดภัยของนักข่าวจะได้รับการคุ้มครองในพื้นที่แนวปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) จัดอันดับกัมพูชาอยู่อันดับที่ 161 จากทั้งหมด 180 ประเทศในดัชนีเสรีภาพสื่อมวลชนโลกประจำปี 2568 ซึ่งลดลง อีก จากอันดับที่ 151 ในปี 2567
หลายฝ่ายเชื่อว่า ความตกต่ำของอุตสาหกรรมสื่อกัมพูชาที่ถอยหลังลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เป็นเพราะการเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าของนักข่าวกัมพูชารายหนึ่งที่ผีแผ่ประเด็นลักลอบทำลายป่าไม้ โดย เฌือง ฌึง (Chhoeung Chheng) ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567หลังจากถูกยิงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ขณะทำข่าวเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเบืองเปอร์ จังหวัดเสียมราฐ
เฌือง ฌึง เป็นนักข่าวให้กับเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ Kampuchea Aphivath (Cambodia Development News) เขาถูกยิงที่ช่องท้องขณะขี่รถจักรยานยนต์ รายงานระบุว่า เขาและเพื่อนนักข่าวอีกคนกำลังเดินทางกลับจากพื้นที่ป่า ซึ่งพวกเขาไปทำข่าวการลักลอบตัดไม้ ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมแล้ว แต่ตำรวจอ้างว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาทส่วนตัว ขณะที่องค์กรสื่อและสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง เช่น Committee to Protect Journalists (CPJ), International Federation of Journalists (IFJ) และ UNESCO ได้ประณามการสังหารครั้งนี้ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดและนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ
ในปีเดียวกันนั้น เมฆ ดารา นักข่าวสายสืบสวนอิสระที่มีชื่อเสียงในกัมพูชา เจ้าของรางวัล "Trafficking in Persons Report Hero" จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ หลังจากที่ทำข่าวเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรและผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา แต่เขาดันถูกรัฐบาลกัมพูชาจับกุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ด้วยข้อหายุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม
เหตุนักข่าวเสียชีวิตอย่างไม่ชอบมาพากล อีกทั้งการจับกุมนักข่าวที่เปิดโปงการทุจริต สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เสรีภาพสื่อในกัมพูชากำลังถูกจำกัดอย่างเข้มงวด เมื่อสื่อหลายสำนักไม่แข็งแรง จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลไปโดยปริยาย ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการรายงานข่าวข้อพิพาทชายแดนที่ผ่านมาในช่วงสัปดาห์นี้ว่า ข่าวหลายสำนักเผยแพร่ข่าวปลอม เนื่องจากรับสารทางหลักจากผู้นำกัมพูชาเท่านั้น ขณะที่การรับรู้ข่าวสารและการตรวจสอบข้อเท็จจริงของชาวกัมพูชาค่อนข้างอ่อนแอ
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซอย โสเภียบ ผู้สื่อข่าวชื่อดังของกัมพูชา ลงพื้นที่ชายแดนบริเวณภูมะเขือ และเห็นสภาพความจริงว่าด่านภูมะเขือถูกตีแตก ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่การรายงานความจริงของเขาขัดต่อความเชื่อของชาวกัมพูชาโดยส่วนใหญ่ ที่รับรู้ว่ากัมพูชาเอาชนะทหารไทยได้ เพราะกองทัพเข้มแข็งไม่แพ้กัน จึงมีการโจมตีคนายซอย โสเภียบว่าเป็นไส้ศึกให้รัฐบาลบ้าง และบางส่วนก็เชื่อว่าเพจ DAP News ถูกแฮกเกอร์ชาวไทยป่วน