Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รู้จักSaab AB ผู้ผลิตGripen ที่ไทยใช้รบจริงครั้งแรกของโลก มีใช้7ประเทศ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

รู้จักSaab AB ผู้ผลิตGripen ที่ไทยใช้รบจริงครั้งแรกของโลก มีใช้7ประเทศ

27 ก.ค. 68
18:56 น.
แชร์

ตั้งแต่เหตุปะทะระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชาปะทุขึ้นบริเวณชายแดน ความสนใจจากทั่วโลกก็พุ่งเป้าไปที่ขีดความสามารถทางทหารของทั้งสองประเทศ ทั้งในแง่ยุทโธปกรณ์ แสนยานุภาพ และกำลังพล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ Saab JAS 39C/D Gripen ของไทยที่ถูกส่งเข้าร่วมภารกิจโจมตีในแนวหน้า ซึ่งนับเป็นบทบาทครั้งสำคัญในสนามรบจริง

ตามรายงานข่าว เครื่องบิน JAS 39C/D Gripen อย่างน้อย 2 ลำได้เข้าจู่โจมเป้าหมายภาคพื้นดินของกัมพูชาในพื้นที่ประชิดชายแดน โดยมีเป้าหมายรวมถึงฐานยิงปืนใหญ่ โดยใช้อาวุธคือระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์รุ่น GBU-12 ภารกิจครั้งนี้ยังมีเครื่อง F-16 Fighting Falcon อีก 2 ลำเข้าร่วม และทางการไทยได้ยืนยันว่าอากาศยานทุกลำกลับฐานได้อย่างปลอดภัย

ภารกิจครั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเครื่องบิน JAS 39C/D Gripen ซึ่งแม้จะเข้าประจำการในหลายประเทศ ได้แก่ สวีเดน สาธารณรัฐเช็ก แอฟริกาใต้ ไทย บราซิล และฮังการี แต่ยังไม่เคยถูกใช้ในการปฏิบัติการรบจริงมาก่อน การออกบินของ JAS 39C/D Gripen เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมจึงถือเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ได้ปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายในสถานการณ์สู้รบอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้สถานะเดิมในฐานะ "เครื่องบินขับไล่เจเนอเรชันที่ 4 ฝั่งตะวันตกเพียงรุ่นเดียวที่ยังไม่เคยผ่านศึก" สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

ในบทความนี้ SPOTLIGHT จะพาผู้อ่านไปรู้จัก Saab AB และเครื่องบิน JAS 39 Gripen ให้ลึกขึ้นว่า เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์จากสวีเดนรุ่นนี้มีสมรรถนะเหนือชั้นอย่างไร? และปัจจุบันมีประเทศใดบ้างที่ครอบครอง Gripen เป็นส่วนหนึ่งของกำลังทางอากาศ?

รู้จัก Saab AB บริษัทเทคโนโลยีการรบของสวีเดน

ซาบ เอ.บี. (Saab AB) คือบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงจากสวีเดนที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การบิน และอวกาศ ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทครอบคลุมตั้งแต่เครื่องบินรบ ขีปนาวุธ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงระบบคอมพิวเตอร์ล้ำสมัย โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ เมืองลินเชอปิง ประเทศสวีเดน

บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2480 ภายใต้ชื่อ Svenska Aeroplan Aktiebolaget เริ่มต้นจากการผลิตอากาศยานเป็นหลัก ก่อนจะขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในปี 2508 เปลี่ยนชื่อเป็น Saab Aktiebolag และในปี 2512 ได้รวมกิจการกับ Scania-Varbis ผู้ผลิตรถบรรทุก กลายเป็นบริษัท Saab-Scania AB ซึ่งกลายเป็นชื่อที่โด่งดังระดับโลกจากการผลิตรถยนต์ Saab และรถบรรทุก–รถโดยสาร Scania ที่ส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก

นอกจากยานยนต์ ซาบยังพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล Scania สำหรับเรือและงานอุตสาหกรรม ขีปนาวุธ ระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบควบคุมและอุปกรณ์โรงไฟฟ้า เช่น วาล์ว หม้อไอน้ำ และระบบท่อ

ในปี 2533 แผนกรถยนต์ของซาบถูกแยกออกเป็นบริษัทอิสระชื่อ Saab Automobile AB ก่อนจะกลายเป็นทรัพย์สินของ General Motors (GM) เต็มตัวในปี 2543

หลังการแยกตัวของ Saab-Scania ในปี 2538 ซาบ เอ.บี. กลับมาเป็นบริษัทอิสระอีกครั้ง พร้อมกับเสริมกำลังในสายงานด้านการป้องกันประเทศด้วยการเข้าซื้อบริษัท Celsius ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางทหารในปี 2543 ทำให้ซาบก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทด้านความมั่นคงชั้นนำของยุโรป

ปัจจุบัน Saab AB เป็นบริษัทด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงซึ่งให้บริการแก่ทั้งภาคการป้องกันทางทหารและความมั่นคงพลเรือน ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่หลากหลาย

ในด้านอากาศ ซาบพัฒนาระบบเครื่องบินขับไล่และระบบอาวุธขั้นสูง ขณะที่ในภาคพื้นดิน บริษัทมีระบบบัญชาการและควบคุม (C4I), ระบบต่อต้านรถถัง NLAW, ระบบป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดิน, เทคโนโลยีจัดการลายเซ็นทางยุทธวิธี และบริการสนับสนุนต่าง ๆ

ในภาคทางทะเล ซาบให้บริการระบบสื่อสารทางเรือแบบครบวงจร ระบบบริหารจัดการการรบ เรือดำน้ำ เรือรบ และระบบใต้น้ำต่าง ๆ

ผลิตภัณฑ์และโซลูชันของซาบรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งทางอากาศ บก ทะเล และไซเบอร์ โดยบริษัทมีฐานลูกค้าทั่วโลก และดำเนินธุรกิจครอบคลุมภูมิภาคยุโรป อเมริกา เอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา

ในด้านการเงิน Saab AB จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สตอล์กโฮมของสวีเดน มูลค่าตลาด 2.88 แสนล้านโครนสวีเดน หรือราว 9.8 แสนล้านบาท ในปี 2567 ทำรายได้ได้ 63,751 ล้านโครนสวีเดน หรือราว 2.17 แสนล้านบาท กำไร 4,171 ล้านโครนสวีเดน หรือราว 1.42 หมื่นล้านบาท

Gripen คืออะไร? รู้จัก Saab JAS 39 เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงจากสวีเดน

Saab JAS 39 Gripen คือเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ขนาดเบาความเร็วเหนือเสียง แบบเครื่องยนต์เดี่ยว ผลิตโดยบริษัท Saab AB ของสวีเดน โดยชื่อ “Gripen” แปลว่า “กริฟฟิน” ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานรูปร่างผสมระหว่างสิงโตและนกอินทรี ส่วนคำย่อ “JAS” มาจากภาษาสวีเดนว่า Jakt, Attack och Spaning หมายถึง “ขับไล่, โจมตี และลาดตระเวน” สะท้อนถึงความสามารถรบแบบ “swingrole” ที่สามารถเปลี่ยนภารกิจได้อย่างคล่องตัว

โครงการพัฒนา Gripen เกิดขึ้นในปี 2522 เมื่อรัฐบาลสวีเดนวางแผนพัฒนาเครื่องบินขับไล่ใหม่เพื่อทดแทน Saab 35 Draken และ Saab 37 Viggen ที่เริ่มล้าสมัย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อจัดหาเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา มีความคล่องตัวสูง และสามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายให้กับกองทัพอากาศสวีเดน ไม่ว่าจะเป็นในสภาพแวดล้อมใดก็ตาม รวมถึงต้องเป็นเครื่องบิน Mach 2 ที่มีต้นทุนไม่สูง และสามารถปฏิบัติภารกิจจากสนามบินขนาดเล็กในระบบ Bas 90 ซึ่งใช้รันเวย์เพียง 800 เมตรเท่านั้น เพื่อความอยู่รอดในการรบหากเกิดการรุกราน

หลังจากพัฒนามาเกือบ 10 ปี ต้นแบบลำแรกของ Gripen ก็ได้ทำการบินครั้งแรกในปี 2531 และในปี 2536 ก็ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศสวีเดนอย่างเป็นทางการ โดย Gripen ได้รับการออกแบบให้มีความคล่องตัวสูง คุ้มค่าด้านต้นทุน และสามารถปฏิบัติการจากสนามบินขนาดเล็กหรือพื้นฐานต่ำ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของสวีเดน

ตั้งแต่เริ่มโครงการ Saab ได้พัฒนา Gripen อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกองทัพในแต่ละยุคสมัย โดยในปัจจุบัน Saab ได้พัฒนา Gripen มาแล้วทั้งหมด 4 รุ่น ไก้แก่ JAS 39A/B, JAS 39C/D, Gripen NG และรุ่นล่าสุด JAS 39E/F โดย JAS 39C/D ซึ่งเป็นเครื่องบิน Gripen รุ่นที่ไทยนำมาใช้ปฏิบัติภารกิจโจมตีจริงในการปะทะชายแดนกับกัมพูชาครั้งล่าสุด ถือเป็นรุ่นพัฒนาหลักที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งแบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่น C ที่เป็นแบบที่นั่งเดี่ยว และรุ่น D ที่เป็นแบบสองที่นั่ง สำหรับภารกิจฝึกหรือบังคับร่วม 

ในช่วงปี 2554 ประเทศไทยได้จัดหา JAS 39C/D Gripen จำนวน 12 ลำ และรับมอบครบภายในปี 2559 ปัจจุบันยังคงประจำการอยู่ 11 ลำ หลังเกิดอุบัติเหตุสูญเสียไปหนึ่งลำในปี 2560 นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยยีงได้ประกาศลงนามสัญญากับบริษัท Saab เพื่อจัดหาเครื่องบิน Gripen รุ่นล่าสุด หรือ JAS 39E/F Gripen เพิ่มอีก 12 ลำ โดยคาดว่าจะมีการสั่งซื้อชุดแรกจำนวน 4 ลำภายในช่วงปลายปี 2568

JAS 39C/D - JAS 39E/F ดีอย่างไร? ทำไมกองทัพอากาศไทยเลือกใช้?

โดยทั่วไปแล้ว Saab Gripen ถือเป็นเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ที่มีสมรรถนะโดดเด่น แม้จะไม่ใช่เครื่องบินที่มีพลังขับดันหรือความสามารถในการล่องหนสูงสุดเมื่อเทียบกับ F-35 ของสหรัฐฯ แต่ Gripen ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางใน 3 ด้าน คือ

  • ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก Gripen มีราคาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ทำให้ Gripen เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับประเทศที่มีงบประมาณจำกัด โดยยังคงไว้ซึ่งขีดความสามารถทางเทคโนโลยีระดับสูง เมื่อเทียบกับเครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่และมีราคาสูงอย่าง F-35 Gripen มีจุดเด่นที่สามารถขึ้น–ลงจากรันเวย์สั้นหรือสนามบินที่ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานได้ดี อีกทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง จึงเหมาะกับประเทศที่มีข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์
  • ความอเนกประสงค์ เพราะ Gripen ถูกออกแบบให้รองรับภารกิจหลากหลาย ทั้งการครองความได้เปรียบทางอากาศ การโจมตีภาคพื้นดิน การลาดตระเวน และการปฏิบัติการทางทะเล โดยติดตั้งเรดาร์ทันสมัย ระบบอวิโอนิกส์ยุคใหม่ และสถาปัตยกรรมระบบเปิดที่สามารถอัปเกรดและติดตั้งอาวุธรุ่นล่าสุดได้ตามภารกิจที่เปลี่ยนแปลง
  • สถิติด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ เพราะการออกแบบที่ล้ำหน้าแบบ "คานาร์ดเดลตา" ซึ่งรวมปีกเดลตาและครีบควบคุมหน้า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับเครื่องบิน ทำให้ Gripen มีสมรรถนะยอดเยี่ยมในสถานการณ์การรบกลางอากาศ

สำหรับ JAS 39C/D Gripen นั้น ถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินรบอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดจากสวีเดน โดยเน้นความคล่องแคล่วสูง ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนภารกิจ และระบบอาวุธและอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย ซึ่งล้วนตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของไทยได้อย่างลงตัว ทั้งในแง่ภูมิประเทศ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ และแนวคิดการปฏิบัติการแบบกระจายตัว

ในด้านสมรรถนะ JAS 39C/D ใช้เครื่องยนต์แบบเทอร์โบแฟนติด afterburner และสามารถบรรทุกอาวุธได้ทั้ง ปืนใหญ่อากาศ ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ ขีปนาวุธอากาศสู่พื้น ขีปนาวุธต่อต้านเรือ ลูกระเบิด ระบบอิเล็กทรอนิกส์สงครามขั้นสูง (ECM)

แนวคิดการออกแบบ Gripen C/D คือ “เครื่องบินเล็กแต่ระบบอัจฉริยะ” โดยวิศวกรของ Saab ให้ความสำคัญกับการติดตั้งระบบประมวลผลกลางความเร็วสูง (mission computer) ที่ควบคุมทุกระบบบนเครื่อง โดยให้นักบินใช้ความสนใจเพียง 20% กับการควบคุมเครื่องบิน ที่เหลืออีก 80% ใช้ไปกับการตัดสินใจทางยุทธวิธี ระบบคอมพิวเตอร์นี้มีความล้ำหน้าจนสามารถปรับเปลี่ยน เปลี่ยนถ่าย และอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ได้ตลอดเวลา ทำให้ Gripen หนึ่งลำสามารถทำภารกิจได้หลากหลาย ทั้งลาดตระเวน โจมตี และสกัดกั้นแบบอัตโนมัติในพื้นที่หลากหลายสภาพแวดล้อม เช่น ป่าทึบ ชายฝั่ง หรือภูเขา

สำหรับ JAS 39E/F ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูล Gripen ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับสมรรถนะในทุกมิติ ขณะเดียวกันยังคงจุดแข็งเรื่องต้นทุนการดำเนินงานต่ำ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินน้อยกว่าเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่อย่าง F-35 ถึง 3–4 เท่า ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์อย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ต้องการเครื่องบินรบประสิทธิภาพสูงในงบประมาณจำกัด

เมื่อเปรียบเทียบกับ Gripen C/D รุ่นก่อน JAS 39E/F มีขนาดลำตัวใหญ่ขึ้น สามารถบรรจุเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ติดตั้งเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ในด้านอาวุธและระบบตรวจจับ Gripen E/F รองรับการติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยไกล ติดตั้งเรดาร์ พร้อมระบบตรวจจับเป้าด้วยอินฟราเรด รวมถึงระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยจาก Saab พร้อมระบบเตือนภัยขีปนาวุธเข้าใกล้แบบ 360 องศา (MAWS) นอกจากนี้ Gripen E/F ยังสามารถใช้งานอาวุธของนาโต้และตะวันตกได้หลากหลายชนิด

จุดเด่นอีกประการของ Gripen E/F คือความสามารถในการขึ้นบินและลงจอดบนถนนหลวงหรือพื้นที่จำกัด ด้วยระยะทางที่สั้นเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แม้ในสภาพพื้นผิวเปียกหรือขรุขระ และยังสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติการบินใหม่ภายในเวลาไม่นาน เพิ่มความเร็วในการตอบสนองในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการรบจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้าย สถาปัตยกรรมระบบอากาศยานของ Gripen E/F ถูกออกแบบมาให้เปิดกว้างต่อการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนตามภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กองทัพอากาศของแต่ละประเทศสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะของตนเองได้ด้วย เพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมและบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับยุทธศาสตร์ของประเทศได้อย่างเต็มที่

ประเทศไหนมี Gripen ในครอบครองบ้าง?

ปัจจุบันมีหลายประเทศทั่วโลกที่เลือก Gripen เข้าประจำการในกองทัพอากาศของตน ทั้งผ่านการจัดซื้อโดยตรงหรือการเช่าใช้งาน บางประเทศยังพัฒนา Gripen ให้เป็นแกนหลักของกำลังทางอากาศเพื่อรับมือกับภัยคุกคามยุคใหม่ จากข้อมูลในเว็บไซต์ของ Saab รายชื่อประเทศที่มี Gripen ใช้งานมีดังนี้

บราซิล

กองทัพอากาศบราซิล (FAB) ประจำการ F-39E จำนวน 10 ลำ และได้สั่งซื้อเพิ่มเติมอีก 26 ลำในรุ่น Gripen E/F โดยมีกำหนดส่งมอบระหว่างปี 2562-2569 รวมเป็นฝูงบินทั้งหมด 36 ลำในรุ่น F-39E/F ขณะนี้รัฐบาลบราซิลกำลังเจรจากับ Saab เพื่อจัดซื้อเพิ่มอีก 12–15 ลำ Gripen ของบราซิลสังกัดฝูงบิน ‘Jaguar’ แห่งกองบินป้องกันภัยทางอากาศที่ 1

สาธารณรัฐเช็ก

กองทัพอากาศเช็กเช่า Gripen จำนวน 14 ลำ แบ่งเป็นรุ่นที่นั่งเดียว JAS 39C จำนวน 12 ลำ และรุ่นสองที่นั่ง JAS 39D อีก 2 ลำ โดยประจำการตั้งแต่ปี 2559 สังกัดฝูงบินยุทธวิธีที่ 211 

ฮังการี

กองทัพอากาศฮังการีใช้งาน Gripen จำนวน 14 ลำ (รุ่น C EBS HU จำนวน 12 ลำ และ D EBS HU จำนวน 2 ลำ) ภายใต้สัญญาเช่าซื้อ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้มีการสั่งซื้อ Gripen C เพิ่มอีก 4 ลำ Gripen ของฮังการีประจำการที่ฝูงบินขับไล่ยุทธวิธี ‘พูม่า’ ณ ฐานทัพอากาศที่ 59

แอฟริกาใต้

กองทัพอากาศแอฟริกาใต้ (SAAF) จัดหา Gripen รวม 26 ลำ แบ่งเป็นรุ่น C ที่นั่งเดียว 17 ลำ และรุ่น D สองที่นั่ง 9 ลำ เครื่องแรกส่งมอบเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2551 ทั้ง 26 ลำยังคงประจำการอยู่ ณ ปี 2559 ภายใต้ฝูงบินที่ 2

สวีเดน

กองทัพอากาศสวีเดนใช้งาน JAS 39C จำนวน 74 ลำ, รุ่น D จำนวน 24 ลำ และรุ่น E จำนวน 3 ลำ โดยในปี  2559 มีคำสั่งซื้อเพิ่มอีก 60 ลำในรุ่น E พร้อมแผนสั่งเพิ่มอีก 10 ลำ เดิมทีสวีเดนสั่งรวมทั้งหมด 204 ลำ (รวมรุ่นสองที่นั่ง 28 ลำ) และยังได้ให้เช่าเครื่องบิน 28 ลำแก่กองทัพอากาศเช็กและฮังการี

ไทย

กองทัพอากาศไทยมี Gripen รุ่น JAS 39C จำนวน 8 ลำ และรุ่น JAS 39D อีก 4 ลำ โดยประจำการครบทั้ง 12 ลำภายในปี พ.ศ. 2559 แต่เกิดอุบัติเหตุสูญเสียไป 1 ลำ คงเหลือ 11 ลำในบัญชีประจำการ ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 701 กองบิน 7 ทั้งนี้ ในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567 กองทัพอากาศไทยประกาศเลือก Gripen E/F เป็นเครื่องทดแทนฝูงบิน F-16A/B ที่ล้าสมัย และได้ประกาศสั่งซื้อ JAS 39E/F Gripen เพิ่มอีก 12 ลำ ในเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

สหราชอาณาจักร

โรงเรียนฝึกนักบินทดสอบ Empire Test Pilots’ School ใช้ Gripen สำหรับการฝึกบิน โดยนักเรียนจะฝึกกับเครื่องจำลองร่วมกับกองทัพอากาศสวีเดน และบินจริงกับ Gripen รุ่นสองที่นั่ง ณ โรงงาน Saab เมืองลินเชอปิง ปีละสองครั้ง (ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง) โดยข้อตกลงความร่วมมือนี้ได้รับการต่ออายุในปี 2551

อ้างอิง: Defense Industry Europe, Simple Flying, Saab, Thairath, Thairath

แชร์
รู้จักSaab AB ผู้ผลิตGripen ที่ไทยใช้รบจริงครั้งแรกของโลก มีใช้7ประเทศ