Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
คุยนักข่าว-นศ.กัมพูชา เล่าออนไลน์เดือด หนุนยื่น ICJ แต่ไม่อยากนองเลือด
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

คุยนักข่าว-นศ.กัมพูชา เล่าออนไลน์เดือด หนุนยื่น ICJ แต่ไม่อยากนองเลือด

6 มิ.ย. 68
12:19 น.
แชร์

ตั้งแต่กัมพูชาผ่านมติในสภา และแสดงเจตจำนงยื่นเรื่องข้อพิพาทชายแดนหลายพื้นที่ ยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และมีการปะทะกัน บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สถานการณ์ชายแดนครั้งนี้ก็ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ และดึงความสนใจจากคนทั้ง 2 ประเทศไว้ได้

ประเด็นนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งบนโซเชียลมีเดียและในสื่อกระแสหลักของทั้งไทยและกัมพูชา Spotlight ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักศึกษาและนักข่าวชาวกัมพูชา เกี่ยวกับมุมมองของชาวกัมพูชาต่อสถานการณ์นี้ แม้ว่าเสียงจากทั้งสองคนอาจจะไม่ได้สะท้อนถึงสถานการณ์จริงหรือความคิดของชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ทั้งประเทศ แต่อย่างน้อย อาจจะทำให้เราเห็นภาพอะไรบางอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่กลายมาเป็นฝั่งตรงข้ามในสถานการณ์นี้

คนกัมพูชาสนใจข้อพิพาทชายแดนช่องบกแค่ไหน?

เกลียง กิมฮอย (Klaing Kimhuoy) นักข่าวอิสระชาวกัมพูชา กล่าวว่า ประเด็นข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชาบริเวณช่องบก เป็นที่จับตามองในหมู่ประชาชนกัมพูชาอย่างมาก และสื่อตีข่าวหลายสำนัก 

“เป็นประเด็นอ่อนไหวมาก ถ้าเทียบกับประเด็นก่อนหน้านี้อย่างเกาะกูด เรื่องนี้คนกัมพูชาให้ความสนใจมากกว่า สื่อใหญ่พากันพาดหัวข่าวหลายสำนัก แล้วก็มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย”

อย่างไรก็ตาม นายอนันตพร นักศึกษาชาวกัมพูชา เล่าว่า แม้ข้อพิพาทจะเป็นที่รับรู้กันในสังคมกัมพูชา แต่ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่มองว่าเป็นการปะทะบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ไม่ได้ถึงขั้นสร้างความโกรธแค้นจนเกิดการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน

เขาเสริมว่า ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ข่าวสารผ่านโทรทัศน์ วิทยุ และเล่าเหมือนกันกับเกลียงคือ การพูดคุยกันในโลกออนไลน์นั้นค่อนข้างดุเดือด 

ความคาดหวังของชาวกัมพูชา?

ทั้งอนันตพรและเกลียงยืนยันตรงกันว่า ชาวกัมพูชาต้องการสันติภาพ และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง พวกเขาหวังว่าข้อพิพาทจะถูกนำขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

“คนกัมพูชาส่วนใหญ่อยากเห็นสันติภาพค่ะ เราคาดหวังให้ประเทศไทยยินยอมร่วมกันยื่นคดีต่อ ICJ แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น หลายคนก็สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการเพียงลำพัง เพราะเชื่อว่าหากไม่ส่งเรื่องนี้ให้ JBC (Joint Boundary Commission หรือคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม) ปัญหาก็คงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง ไม่ว่าเราสองประเทศจะพยายามร่วมมือกันแค่ไหนก็ตาม”

อนันตพรชี้ว่า ชาวกัมพูชาอยากเห็นการแก้ไขอย่างสันติ โดยไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนกัมพูชากำลังกังวลในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก

เขากล่าวว่า การนำข้อพิพาทขึ้น ICJ เป็นทางออกที่ยุติธรรม เพราะชาวกัมพูชากังวลว่าไทยอาจใช้อำนาจและความรุนแรงเหนือกองทัพกัมพูชา ในขณะที่รัฐบาลไทยต้องการให้นำเรื่องนี้ขึ้นสู่ที่ประชุม JBC เพื่อหาทางออกร่วมกัน และย้ำว่า ไม่ยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) 

แล้วการเมืองในกัมพูชาเป็นอย่างไร?

ปัจจุบันกัมพูชามีระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ปกครองโดยพรรค CPP ในลักษณะอำนาจรวมศูนย์ มี ฮุน มาเนต เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสืบทอดตำแหน่งต่อจาก ฮุน เซน พ่อของเขาในเดือนสิงหาคม 2566 แต่ขณะนี้ ฮุน เซน ยังดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และยังมีบทบาททางการเมืองอย่างมาก

เกลียงกล่าวว่า บรรยากาศการเมืองในกัมพูชาค่อนข้างมั่นคง

“เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐสภาแห่งชาติและวุฒิสภาของกัมพูชาได้จัดการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยสมาชิกทั้ง 182 คนลงมติเห็นชอบให้รัฐบาลยื่นเรื่องข้อพิพาทกับไทยต่อ ICJ เพื่อหาทางออกถาวร”

การเคลื่อนไหวของฮุน มาเนตในประเด็นนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ที่มองว่าเป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจน

“คนกัมพูชาหลายคนรู้สึกขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์อย่างชัดเจนถึงความตั้งใจของกัมพูชาที่จะนำข้อพิพาทเรื่องปราสาทเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศค่ะ”

เกลียงยังกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่นำประเด็นนี้เข้าสู่การหารือในเวทีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่จะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ บางคนถึงกับหวังว่านายกฯ จะยื่นเรื่องเกี่ยวกับเกาะกูดและเขตแดนทางทะเลต่อศาลโลกด้วยเช่นกัน

เธอยังชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวฮุน เซนและครอบครัวชินวัตร เป็นที่จับตามองของประชาชนในกัมพูชา ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยื่นเรื่องต่อ ICJ อาจถูกมองว่าเป็นการเล่นเกมการเมือง

“พูดได้ว่า คนกัมพูชารู้สึกว่า ถ้ารัฐบาลกัมพูชาถอยหลังและไม่ยื่นเรื่อง คนอาจมองว่าเป็นเกมการเมืองที่ทั้งฮุน เซน และฮุน มาเนต พยายามปกป้องรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครอบครัวของเขากับครอบครัวทักษิณมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน สาธารณชนจึงกำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด”


ดูเหมือนว่า คนกัมพูชาต้องการให้ไทยร่วมยื่นเรื่องต่อ ICJ เพื่อแก้ข้อพิพาทอย่างยุติธรรม เพราะไม่มั่นใจว่าการเจรจาสองฝ่ายจะได้ผล และกังวลต่อการใช้ความรุนแรง พวกเขาย้ำว่าไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือด และหวังว่าจะหาทางออกโดยไม่กระทบเศรษฐกิจหรือความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

“คนกัมพูชาพร้อมต้อนรับคนไทยเสมอค่ะ ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติหรือความเกลียดชังระหว่างเราสองชาติเลย มาเยี่ยมกันได้ตลอดเลยนะคะ เราพร้อมต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น” เกลียงกล่าว

มีการติดแฮชแท็กบนโซเชียลมีเดียกัมพูชาและไทย เรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ และไม่ใช้ความรุนแรงจากทั้ง 2 ชาติ #NoWarThaiCambodia #สันติสู่ชายแดน #សន្តិភាពដល់ព្រំដែន


แชร์
คุยนักข่าว-นศ.กัมพูชา เล่าออนไลน์เดือด หนุนยื่น ICJ แต่ไม่อยากนองเลือด