ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในร่างกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งจะเอาผิดกับการเผยแพร่เนื้อหาลามกที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีดีปเฟก (deepfake) และ “รีเวนจ์พอร์น” (revenge porn) โดยมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ เข้าร่วมพิธีด้วย
ทั้งนี้ รีเวนจ์พอร์นหมายถึง สื่อลามกอนาจารที่ถูกเผยแพร่เพราะต้องการแก้แค้นเหยื่อในคลิป หรือเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เผยแพร่ในการข่มขู่เหยื่อ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองร่างกฎหมาย Take It Down Act ซึ่งนับเป็นกฎหมายฉบับที่ 6 ที่เขาลงนามในสมัยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่สอง โดยกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับสิ่อลามากอนาจารสองประเภทที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์
วัตถุประสงค์ของกฎหมายคือเพื่อเอาผิดกับการเผยแพร่ “ภาพลักษณะล่อแหลม” ไม่ว่าจะเป็นภาพจริงหรือภาพที่สร้างด้วย AI โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว และกำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีต้องลบเนื้อหาดังกล่าวภายใน 48 ชั่วโมงหลังได้รับแจ้ง และสำหรับผู้ที่เผยแพร่ภาพลามกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพจริงหรือภาพที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต้องเผชิญโทษจำคุกสูงสุดความผิดถึง 3 ปี
ด้านสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาคองเกรส และถือโอกาสนี้ปรากฏตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบหลายเดือน
เมลาเนียกล่าวว่านี่คือ ชัยชนะระดับชาติ ที่จะช่วยให้ครอบครัวและผู้ปกครองสามารถปกป้องลูกหลานจากการถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางออนไลน์ได้ดีขึ้น
กฎหมายผ่านความเห็นชอบอย่างถล่มทลายในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียง 409 ต่อ 2 และผ่านวุฒิสภาอย่างเป็นเอกฉันท์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลมีชื่อเสียงอย่าง ปารีส ฮิลตัน รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta, TikTok และ Google
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามการผลิตหรือเผยแพร่ภาพลามกของเด็กที่สร้างขึ้นด้วย AI แต่ยังไม่มีบทบัญญัติใดที่คุ้มครองผู้ใหญ่ทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ทำให้เหยื่อต้องพึ่งกฎหมายของแต่ละรัฐ ซึ่งมีความไม่เท่าเทียมและไม่ครอบคลุม
เอลลิสตัน เบอร์รี นักเรียนมัธยมจากรัฐเท็กซัส ซึ่งเคยถูกเพื่อนร่วมชั้นใช้ภาพจากอินสตาแกรมของเธอไปตัดต่อเป็นภาพเปลือยและเผยแพร่บน Snapchat ประสบการณ์ดังกล่าวทำให้เธอออกมาสนับสนุนร่างกฎหมายนี้อย่างจริงจัง
เอลลิสตันเปิดเผยว่า ทุกวัน เธอต้องใช้ชีวิตด้วยความกลัวว่าภาพเหล่านั้นจะกลับมาหลอกหลอนเธออีก แต่เมื่อกฎหมายนี้ผ่านแล้ว เธอก็ไม่ต้องอยู่กับความกลัวนั้นอีก เพราะคนที่ทำจะถูกลงโทษตามกฎหมายแล้ว
ขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Meta และ Apple ก็เริ่มปรับปรุงนโยบายเพื่อสนับสนุนการลบภาพที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงถอดแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในการสร้างภาพเปลือยออกจากระบบ อย่างไรก็ตาม ยังมีแพลตฟอร์มบางแห่งที่ไม่ให้ความร่วมมือ