ธุรกิจการตลาด

เมื่อคนอเมริกันเริ่มหันหลังให้รถ EV แต่ทำไมคนฮาวายหันมาใช้รถ EV มากขึ้น?

21 เม.ย. 67
เมื่อคนอเมริกันเริ่มหันหลังให้รถ EV แต่ทำไมคนฮาวายหันมาใช้รถ EV มากขึ้น?

ในขณะที่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา เริ่มหันหลังให้กับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ที่ฮาวายกลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอาจผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ ในอนาคตได้ ทำไมเป็นเช่นนั้น?

โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ของสมาคม EV ฮาวาย ระบุว่า เมื่อเดือนมีนาคม จำนวน EV ที่จดทะเบียนอยู่ที่ 31,059 คัน เพิ่มขึ้น 29.9% เทียบจากเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 2.9% ของรถยนต์โดยสารที่จดทะเบียนในฮาวาย

ส่วนข้อมูลของ J.D. Power ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของฮาวายในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้อยู่ที่ 11.9% สูงเป็นอันดับ 5 ของสหรัฐฯ และยังมี Adoption Index Score หรือคะแนนดัชนีการยอมรับการใช้งานของผู้ใช้อยู่ที่อันดับ 3 หรือ 33.8 คะแนน ตามหลังรัฐแคลิฟอร์เนียที่มี 46.1 คะแนน และรัฐวอชิงตันที่มี 37 คะแนน

Adoption Index Score วัดจากการใช้งานโดยสัมพันธ์กับความพร้อมในการให้บริการ ซึ่งหมายความว่าผู้ซื้อจำเป็นต้องมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา ก่อนที่จะพิจารณานำไปใช้ ซึ่งในแคลิฟอร์เนีย ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าในฮาวายมาก แต่เมื่อผู้บริโภคได้รับทางเลือกที่เหมาะสม 33% ก็เลือกที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

สิ่งที่น่าสนใจ คือ ฮาวายยังเป็นรัฐอันดับต้นๆ สำหรับการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ ถึงแม้จะไม่ได้ลงนามเห็นด้วยกับโครงการ Zero-Emission Vehicle ของ California Air Resources Board ซึ่งส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของยานพาหนะที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และมาตรฐานอัตราไมล์ต่อแกลลอนสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในรัฐที่นำมาตรการดังกล่าวมาใช้

ทำไมคนฮาวายหันมาขับ EV?

Ivan Drury ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของ Edmunds เผยว่า สาเหตุที่คนฮาวายหันมาใช้ EV คือ ต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูง ความพร้อมใช้งานของพลังงานทดแทนสำหรับการชาร์จ และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สูง ผู้คนที่นี่มีความภูมิใจต่อประเทศชาติมาก

สำหรับราคาน้ำมันในฮาวายอยู่ในระดับที่สูงกว่ารัฐอื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยราคาเฉลี่ยของน้ำมันหนึ่งแกลลอนอยู่ที่ประมาณ 4.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงที่สุดในสหรัฐฯ นอกเหนือจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ความนิยมของรถยนต์ไฮบริดในรัฐยังช่วยในการเปลี่ยนมาใช้ EV ซึ่งความกังวลเรื่องการเดินทางไกล และระยะทางที่ EV วิ่งได้ไกลต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ที่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ซื้อบางรายในสหรัฐฯ ไม่ใช่ปัญหาในฮาวาย

คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะฮาวายอยู่บนเกาะ โดยแถบฮาวายมีความยาวเพียง 260 ไมล์เท่านั้น ทำให้ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับการเดินทางบนท้องถนน ในขณะที่ยอดขายของ Aloha Kia มีเพียงประมาณ 8% ของร้านค้าเท่านั้น แต่ก็เห็นถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อกังวลเรื่อง EV ในสหรัฐฯ

แม้ว่าฮาวายจะยอมรับรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารัฐอื่น แต่ก็ยังมีปัญหาหลายประการเกี่ยวกับการนำ EV มาใช้เหมือนกับรัฐอื่น ทั้งการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จ ความสามารถในการจ่าย และตัวเลือกยานพาหนะที่น้อยนิด

ผลสำรวจความคิดเห็นของ Gallup พบว่า 44% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอย่างจริงจังหรืออาจพิจารณาในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งลดลงจาก 55% ในปีที่ผ้านมา ในขณะที่สัดส่วนที่ไม่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น จาก 41% เป็น 48% ส่วนชาวอเมริกันที่มีรายได้สูงทั่วประเทศเป็นกลุ่มย่อยที่มีแนวโน้มจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด อยู่ที่ 14% เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ข้อมูลของ Edmunds ราคาเฉลี่ยที่ผู้บริโภคที่จ่าย EV จากตัวแทนจำหน่ายแฟรนไชส์ ​​ซึ่งไม่นับรวม Tesla และ Rivian ในฮาวายในปีนี้มีมูลค่า 62,637 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจาก 68,546 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว แต่ก็ยังสูงกว่าราคาเฉลี่ยของรถยนต์ในฮาวายราว 12,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ

Ivan Drury เสริมว่า การเอาชนะอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐานและค่าครองชีพที่สูงไม่ใช่สิ่งที่สามารถจัดการได้ในชั่วข้ามคืนหรือแม้กระทั่งภายในไม่กี่ปี

ที่มา CNBC, Hawaii EV Association

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT