เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ‘AI - ปัญญาประดิษฐ์’ ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์หวือหวาที่จะมาชั่วคราว แต่คืออนาคตของโลกธุรกิจ ต้องขอบคุณ ChatGPT-แชทจีพีที ที่เป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้ AI ก้าวข้ามจากนวัตกรรมของธุรกิจในสายงานเทคโนโลยี กลายมาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทุกธุรกิจต่างกำลังหยิบยืมศักยภาพอันมหาศาลมาใช้ยกระดับธุรกิจของตน
แต่นอกจากคำถามที่ว่า ธุรกิจจะนำ AI มาใช้ประโยชน์อย่างไร ยังมีอีกคำถามสำคัญ คือ แล้ว AI เชื่อถือได้แค่ไหน จริยธรรมในการปล่อยให้คอมพิวเตอร์ ‘หยิบยื่นข้อมูลให้ และช่วยตัดสินใจ’ มีอะไรต้องระวังบ้าง? ในงานประชุม ‘The New Era of AI: Next-Generation Watsonx Platformfor Foundation Models for Business’ ที่จัดขึ้นโดย IBM ผู้บริหารของ IBM ประจำภูมิภาค ASEAN ได้พูดถึงปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้พิจารณาโอกาสและความท้าทายของ AI ให้รอบคอบก่อนนำไปใช้จริง
หลังจากที่ ChatGPT ได้ปลุกกระแส แชทบอท AI คุยกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และน่าเชื่อถือ หนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นตามมา คือ ‘AI Hallucination’ หรือเหตุการณ์ที่ AI เกิดอาการ ‘หลอน’ มั่นใจว่าข้อมูลที่ตัวเองหยิบยกมานั้นเป็นข้อเท็จจริง น่าเชื่อถือ แล้วสื่อสารกับมนุษย์อย่างมั่นใจ
สาเหตุของปัญหาดังกล่าวนี้ เกิดจากช่องโหว่หนึ่งของเทคโนโลยี Machine Learning ในการที่มนุษย์ป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้ AI ได้เรียนรู้จากข้อมูลเหล่านั้น เมื่อถูกสั่งการให้หาคำตอบ จึงเกิดการประมวลผลภายใน แล้วหยิบข้อมูลเก่า หรือสร้างข้อมูลใหม่ขึ้นมา โดยไม่มีวิจารณญาณว่าข้อมูลดังกล่าวจริงหรือไม่
พูดง่ายๆ ก็คือ ใส่คำถามเข้าไป AI เอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ได้คำตอบออกมา
จากจุดนี้ ประเด็นที่ทั้งฝั่งนักพัฒนา และฝั่งธุรกิจต้องให้ความสำคัญ มี 4 เรื่องหลักด้วยกัน คือ
ถือว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ต่างคนต่างก็ต้องการนำ AI มาใช้ นับว่าเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงของ ‘บริษัทเทคโนโลยี’ ที่ต้องเร่งเพิ่มความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาช่วยให้ภาคธุรกิจนำ AI เข้าไปใช้ในองค์กร ขณะเดียวกันก็ต้องก้าวนำเทรนด์เพื่อไม่ให้ AI เข้ามาดิสรัปต์ธุรกิจหลักของตัวเองเช่นกัน
หนึ่งในผู้นำของวงการไอทีที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรระดับโลกมากมายอย่าง IBM ได้เปิดตัวนวัตกรรม “Watsonx” โซลูชั่นด้าน AI สำหรับธุรกิจแบบครบวงจร ประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์หลัก
นาย Kitman Cheung, Director of Technical Sales – APAC, IBM Technology - Software กล่าวย้ำถึงการให้ความสำคัญของการนำ AI มาใช้กับธุรกิจว่า โลกของเราได้เปลี่ยนผ่านจากยุคที่ธุรกิจดำเนินไปโดยใช้ AI เข้ามาช่วยบ้าง สู่ยุคที่ AI ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและขับเคลื่อนให้เกิดการริเริ่มสิ่งใหม่ในหลากหลายภาคธุรกิจ โดยไม่ลืมที่จะรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไว้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกธุรกิจยุคนี้
“ในการนำ AI มาใช้กับธุรกิจนั้น คุณไม่สามารถแทนที่ ความแม่นยำ และความน่าเชื่อถือได้ สองสิ่งนี้ คือ หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ”
การนำปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะ Generative AI เข้ามาใช้งานในโลกธุรกิจในมิติที่หลากหลายนั้น นับว่า เป็นกระแสที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่จะเกิดผลกระทบมากน้อยเพียงใดยังคงต้องจับตามอง อย่างที่ซีอีโอของ IBM Arvind Krishna เองก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า มีโอกาสจะหยุดการจ้างงานเพิ่ม 7,800 ตำแหน่ง ในงานกลุ่มที่สามารถแทนที่ด้วย AI ได้ ผลกระทบต่อโลกธุรกิจ และตลาดแรงงานจะเป็นอย่างไร เราคงได้เห็นกันในอีกไม่นานเกินรอ