ธุรกิจการตลาด

บริษัทแม่ ChatGPT (แชทจีพีที)เผยอาชีพที่อาจถูก AI แทนที่และอาชีพที่รอด

2 พ.ค. 66
บริษัทแม่ ChatGPT (แชทจีพีที)เผยอาชีพที่อาจถูก AI แทนที่และอาชีพที่รอด

ChatGPT (แชทจีพีที) และอีกหลายแชทบอทที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเอไอ กำลังค่อยๆ สำแดงฤทธิ์ให้พวกเราได้ร้อนๆ หนาวๆ กันอย่างต่อเนื่อง แม้ในตอนนี้ ภาคธุรกิจจะยังไม่ได้เอไอมาใช้อย่างเต็มตัว แต่ก็อาจพอทำให้มองเห็นอนาคตได้ลางๆ แล้วว่า เมื่อเอไอเข้ามาจริงๆ อาชีพไหนจะอยู่ อาชีพไหนจะไป?

 

แชทจีพีที ChatGPT

 

 

เปิดลิสต์อาชีพที่ ‘แชทจีพีที’ อาจเข้ามาแทนที่ และอาชีพที่ไม่ได้รับผลกระทบ

 

Open AI บริษัทผู้สร้างแชทจีพี เผยรายชื่ออาชีพที่ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจนำ AI มาใช้เร่งประสิทธิภาพการทำงาน หรือถูก ‘แทนที่’ ด้วย AI  โดยเว็บไซต์ Visual Capitalist ได้สรุปอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ที่จะถูกโมเดล เช่น จีพีที (GPT) แทนที่ และกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงต่ำไว้ ดังนี้

 

ตัวอย่างอาชีพเสี่ยงสูงที่จะถูก แชทจีพีทีหรือเอไออื่นแทนที่

 

  • ล่ามและนักแปล (Interpreters + Translators)
     
  • นักวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Researchers)
     
  • นักเขียน (Writers and Authors)
     
  • ผู้เชี่ยวชาญงานประชาสัมพันธ์ (Public Relations Specialists)
     
  • นักบัญชีและภาษีอากร (Tax Preparers)
     
  • นักคณิตศาสตร์ (Mathematicians)
     
  • วิศวกรบล็อกเชน (Blockchain Engineers)
     
  • ผู้พิสูจน์อักษร (Proofreaders and Copy Markers)
     
  • นักบัญชีและผู้ตรวจบัญชี (Accountants and Auditors)

 

 

ตัวอย่างอาชีพเสี่ยงต่ำที่จะถูก แชทจีพีทีหรือเอไออื่นแทนที่

 

  • นักกีฬา (Athletes)
     
  • ช่างตัดผม (Barber/Hair Stylists)
     
  • บริกร (Servers)
     
  • บาร์เทนเดอร์ (Bartenders)
     
  • กุ๊ก (Cooks)
     
  • ช่างยนต์ (Automotives Repairers)
     
  • ช่างก่อปูน (Cement Masons)
     
  • ผู้บังคับปั้นจั่น (Pile Driver Operators)
     
  • ช่างก่อหิน (Stonemasons)
     
  • ช่างซ่อมและเปลี่ยนล้อรถยนต์ (Tire Repairers and Changers)
     
  • พนักงานล้างจาน (Dishwashers)
     
  • ผู้ช่วยช่างไม้ (Carpenter Helpers)

 

แชทจีพีที ChatGPT งาน 

 

สัญญาณอันตรายงานของคุณเสี่ยงถูก เอไอ แทนที่

 

 

Open AI เผยว่า งานที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการมาของเอไอนั้น คืองานที่ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูล งานที่ต้องทำอะไรซ้ำๆ และต้องมีการตัดสินใจซ้ำๆ ส่วนงานในฟากอุตสาหกรรมหนักที่ต้องใช้ความชำนาญหน้างานอย่างการผลิต เหมืองแร่ การเกษตร รวมถึงงานฝั่งบริการนั้น มีโอกาสน้อยกว่าที่จะได้รับผลกระทบจากเอไอ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใดเข้ามาดิสรัปต์ได้)

.

 

ตัวอย่างสายงานที่มีโอกาสนำ ‘เอไอ’ มาใช้งานสูง

 

  • ค่าตอบแทนสูง
     
  • ต้องการวุฒิการศึกษาระดับปริญญาขึ้นไป
     
  • สายงานเขียน
     
  • ใช้ระยะเวลาการฝึกก่อนเริ่มงานน้อย
     
  • สายงานโปรแกรมมิ่ง
     
  • งานที่ซ้ำเดิมและเป็นรูทีน
     
  • งานประมวลผลข้อมูล

 

ตัวอย่างสายงานที่มีโอกาสนำ ‘เอไอ’ มาใช้งานน้อย

 

  • ค่าตอบแทนน้อย
     
  • งานที่ไม่ต้องการระดับการศึกษาที่สูง
     
  • งานในภาคการผลิต
     
  • งานที่ต้องใช้ประสบการณ์และการฝึกฝนหน้างานมากๆ
     
  • สายงานการเกษตร
      
  • งานที่ต้องใช้ทักษะ Critical Thinking
     
  • งานในสายงานเหมือง
     
  • งานที่ต้องใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์

 

 

แชทจีพีที เอไอ

 

แรงงานในโลกยุค AI ต้อง ‘ตื่นตัว’ ไม่ใช่ ‘ตื่นกลัว’

 

 

แม้ผลกระทบของแชทจีพีที และโมเดลเอไออื่นๆ ที่มีต่อโลกการทำงานจะยังไม่ชัดเจนถึงขั้นที่บริษัทใดจะไล่พนักงานออกยกแผง แล้วให้เอไอทำงานแทน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ‘เอไอยังไงก็มาแน่!’ ขนาด Mark Zuckerberg แห่ง Meta ที่ก่อนหน้านี้เคยบูชาโลกเมตาเวิร์ส ยังต้องหันมาให้ความสำคัญกับเอไอ เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกบริษัทอื่นๆ ซึ่งแทนที่เราจะมัว ‘ตื่นกลัว’ ว่าอาชีพหรือสายงานที่เราทำอยู่นั้น จะถูกแทนที่ด้วยเอไอหรือไม่ Spotlight อยากชวนให้คุณหันมา ‘ตื่นตัว’ และหาวิธีนำเอไอมาใช้กับสายงานคุณเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้คุณได้คุ้นเคยกับการนำเอไอมาใช้ในงานของคุณก่อนคนอื่น นอกจากจะป้องกันการถูกแย่งงานโดยเอไอแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเชี่ยวชาญใหม่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ ไว้ใส่ในพอร์ตโฟลิโอของคุณได้อีกด้วย

 

 

ส่วนในภาพใหญ่นั้น  Open AI นั้นได้แนะนำรัฐบาลประเทศต่างๆ ว่า ควรเตรียมรับมือกับการเกิดดิสรัปชันด้านเศรษฐกิจ, ปฏิรูปนโยบายด้านการศึกษา, ปฏิรูปนโยบายการฝึกฝนแรงงาน รวมไปถึงปฏิรูประบบตาข่ายรองรับทางสังคม (Safety Net Program) เพื่อให้สอดคล้องกับโลกการทำงานและเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะนำเทคโนโลยีเอไอเข้ามาใช้มากขึ้นอีกขั้น เพื่อไม่ให้มีใครต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

 

ที่มา : Visual Capitalist, Open AI

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT